วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.กรุงศรี Electronics Sector NEUTRAL
เราเชื่อว่าแนวโน้มของหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์กำลังจะเปลี่ยนกลับไปสู่วัฏจักรขาขึ้นอีกครั้งในอีกสองสามเดือนข้างหน้า จากความคาดหวังว่าอุปสงค์ในตลาดโลกจะฟื้นตัวขึ้น หลังจากที่ทุกบริษัทมั่นใจว่าอุปสงค์จะฟื้นตัวขึ้นโดยอิงจากคำสั่งซื้อในอนาคต
ดังนั้น เราจึงเชื่อว่าภายในเวลาอีกแค่สองเดือน ราคาหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์น่าจะฟื้นตัวขึ้นได้ตามการฟื้นตัวของผลประกอบการจาก 3Q24 เป็นต้นไป เรายังคงให้น้ำหนักหุ้นกลุ่มนี้ที่ NEUTRAL และ เลือก KCE เป็นหุ้นเด่นของเรา
อีกแค่ไตรมาสเดียวเท่านั้น
ถึงแม้ว่ารายได้ของกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์จะยังอ่อนแอใน 1Q24 เนื่องจากอุปสงค์ที่ซบเซา แต่การคุมต้นทุนก็ช่วยให้กำไรของทุกบริษัทยังเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง เราเชื่อว่าแนวโน้มดังกล่าวจะดำเนินต่อไปใน 2Q24 ซึ่งเป็นไตรมาสที่อุปสงค์น่าจะฟื้นตัวเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ผลประกอบการน่าจะดีขึ้นต่อเนื่อง qoq เพราะบริษัทส่วนใหญ่ยังคงเน้นดำเนินโครงการลดต้นทุนต่อไป นอกจากนี้ ทุกบริษัทในกลุ่มยังคาดว่าอุปสงค์จะฟื้นตัวขึ้นใน 3Q24 ดังนั้น เราจึงเชื่อว่าไตรมาสหน้าจะเป็นจุดพลิกผันที่สำคัญของกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ โดยเราคาดว่ารายได้ของทั้งกลุ่มจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ในขณะที่ต้นทุนอยู่ที่ระดับ optimal แล้ว ซึ่งจะทำให้ผลประกอบการของกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์เติบโตอย่างแข็งแกร่ง และ NPM อยู่ที่ระดับสูง ทั้งนี้ เราคาดว่า
ช่วงเวลาในการตุนสต็อก (restocking) และ วัฏจักรขาขึ้นของอุปสงค์จะกินเวลาอย่างน้อย 12 เดือน ดังนั้น เราจึงแนะนำให้นักลงทุนรอไปอีกหนึ่งไตรมาสก่อนจะเริ่มสะสมหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์
สงครามการค้าจะเป็นปัจจัยกระตุ้นที่สำคัญในระยะกลาง
สงครามการค้าระหว่างสหรัฐ และ จีนซึ่งมีแนวโน้มว่าสหรัฐจะเพิ่มอัตราภาษีที่เก็บจากสินค้าจีน โดยเฉพาะ EV จะส่งผลดีต่อกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ของไทย เพราะเราเชื่อว่าสหรัฐมีแนวโน้มจะใช้ EV ในประเทศเพิ่มขึ้น หรือ นำเข้าชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์
จากไทยแทนจีน นอกจากนี้ ไม่เพียงแต่สหรัฐเท่านั้น แต่ยุโรปก็อาจจะขึ้นภาษีสินค้าจากจีนด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะ EV ซี่งจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยกระตุ้นที่สำคัญเพราะสัดส่วนรายได้จากทั้งสหรัฐ และ EU ของทุกบริษัทสูงกว่าสัดส่วนรายได้จากจีน
คงให้น้ำหนักหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ที่ NEUTRAL
เราเชื่อว่าราคาหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์กำลังจะเปลี่ยนเข้าสู่วัฏจักรขาขึ้นในอีกสองสามเดือนข้างหน้า เราคิดว่านักลงทุนน่าจะเริ่มเพิ่มน้ำหนักหุ้นกลุ่มนี้หลังการประกาศผลประกอบการ 2Q24 ในปลายเดือนกรกฎาคม เมื่อเราได้ได้รับการยืนยันเพิ่มเติมเกี่ยวการฟื้นตัวของอุปสงค์ใน 3Q24 แล้ว เรายังคงเลือก KCE เป็นหุ้นเด่นของเราในกลุ่มนี้ เนื่องจาก (i) คาดว่าผลประกอบการจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มใน 1Q24, 2Q24 และ 2024 (ii) คาดว่าจะได้อานิสงส์มากที่สุดจากกรณีสงครามการค้า (iii) ราคาหุ้นคิดเป็น PEG ที่ต่ำที่สุดในกลุ่มที่ 1.3x
