วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ GULF มีโอกาสมากกว่าความเสี่ยง

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ GULF มีโอกาสมากกว่าความเสี่ยง

เราเชื่อว่าราคาหุ้น GULF ที่ลงมาสะท้อนความกังวลที่เกินกว่าเหตุจาก i) การจัดทำประชาพิจารณ์ PDP2024 ii) อุปสงค์ที่อ่อนแอจากผู้ใช้ไฟอุตสาหกรรม และ iii) ราคา LNG เพิ่มขึ้นตามที่ระบุไว้ในบทวิเคราะห์โรงไฟฟ้า (17 มิ.ย.)

ทั้งนี้จากการดำเนินงาน GULF ที่เน้นด้าน IPP มากขึ้น (ส่งผ่านต้นทุนเชื้อเพลิงได้) เราจึงไม่กังวลกับ SPPs ของบริษัทซึ่งคิดเป็นเพียง 7% ของรายได้หลัก 1Q67 เท่านั้น (จาก11% ในอดีต) ขณะเดียวกัน SPPs ของ GULF มีสัญญา PPA 25 ปี กับ กฟผ. กำลังการผลิต 90MW ซึ่งต่างจาก SPPs อื่น ๆ ที่มี replacement (30MW กับ กฟผ. จากกำลังการผลิตทั้งหมดโครงการละ 100-200MW)

#2 แผน PDP2024 จะแตกต่างจากฉบับร่าง

เราคาดว่าแผน PDP2024 (กำหนดเสร็จ 4Q67) จะมีเนื้อหาแตกต่างไปจากร่างฉบับปัจจุบัน เพราะแผน
ดังกล่าวยังไม่รวมอุปสงค์ใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่จาก AI data center (DC) ซึ่งต้องใช้ไฟนปริมาณมาก และ
ต้องการความเสถียรสูง รวมถึงความต้องการใช้พลังงานที่เป็นสีเขียว ทั้งนี้ ประเทศไทยยังคงต้องการ
โรงไฟฟ้า based-load ที่สอดคล้องกับอุปสงค์ RE โดย สนพ. อาจจะเร่งดำเนินการเพื่อเพิ่มอุปทาน RE
ให้เข้ามาในระบบสายส่งไฟฟ้าเร็วขึ้นกว่าแผนเดินที่วางเอาไว้ เรามองว่า GULF มีโอกาสมากที่สุดที่จะ
ชนะประมูลโครงการ RE ใหม่ ๆ (3.7GW) และ โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ (SCOD: 2578-2581) โดยไม่
ต้องกังวลกับการก่อหนี้ของบริษัท (สัดส่วน IBD/E สุทธิอยู่ที่ 1.7x ซึ่งยังต่ำกว่า covenant ที่ 3.5x อยู่มาก)

#3 data center มีศักยภาพที่จะเติบโตได้อีก

Data enter (DC) จะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตอุปสงค์ใช้ไฟฟ้าของไทย (รวมถึงศักยภาพในการเติบโตของ GULF ด้วย) นอกเหนือไปจากรถยนต์ไฟฟ้า ทั้งนี้ Singtel คาดว่าอุปสงค์ DC ในภูมิภาคจะเพิ่มขึ้น 18% CAGR (2563-2568) (Figure 3) โดยส่วนแบ่งตลาด DC ของสามตลาดที่ใหญ่ที่สุดใน ASEAN (สิงคโปร์, อินโดนีเซีย และ ไทย) จะอยู่ที่ 76% และ ยังคาดว่าอุปสงค์ของประเทศไทยจะโตปีละ 28% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของภูมิภาค ทั้งนี้ GULF (40%) ร่วมกับ AIS (25%) และ Singtel (35%) ตั้ง joint venture ขึ้นมาเพื่อดำเนินกิจการ DCs โดยแบ่งเป็นสองเฟส ๆ ละ 25MW (เฟส 1 SCOD: 2568)

 

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ GULF มีโอกาสมากกว่าความเสี่ยง

 

#4 ราคาหุ้นน่าสนใจ – ปรับเพิ่มประมาณการกำไร (+1%) ในขณะที่ราคาหุ้นลดลง (-11%)

ตั้งแต่ต้นปีนี้ Consensus ปรับเพิ่มประมาณการกำไรของ GULF ในปี 2567-2568F เล็กน้อย 1% ในขณะที่
ราคาหุ้นร่วงลงมาถึง 11% (มาอยู่ระดับใกล้เคียว PE ในอดีต -2SD) ในขณะที่ดัชนี SET ปรับลดลง 8% ซึ่งดูไม่ค่อยมีเหตุผลนอกจากจะเป็นเพราะภาวะตลาดที่อ่อนแอ และ มีแรงขาย panic sell ออกมา

Valuation & Action

เราเชื่อว่านี่เป็นโอกาสดีที่จะซื้อหุ้น GULF เพิ่มเข้ามาในพอร์ตสำหรับการลงทุนระยะยาว เราไม่สงสัยกับ
แนวโน้มการเติบโตของบริษัทในอีกห้าปีข้างหน้า เพราะมั่นใจกับความชำนาญของบริษัท ความสัมพันธ์
กับพันธมิตร และ งบดุลที่แข็งแกร่ง เราคิดว่า GULF มีแนวโน้มชัดเจนว่าจะเติบโตได้พอสมควร ในขณะ
ที่ ROE และ ROA น่าจะอยู่ในเกณฑ์ดี เรายังคงคำแนะนำซื้อ และ ประเมินราคเป้าหมายที่ 50.00 บาท

Risks

ปิดซ่อมบำรุงนอกแผน ปัญหา cost overruns และ ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน และ อัตราดอกเบี้ย

 

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ GULF มีโอกาสมากกว่าความเสี่ยง

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ GULF มีโอกาสมากกว่าความเสี่ยง

 

 

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ GULF มีโอกาสมากกว่าความเสี่ยง

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ GULF มีโอกาสมากกว่าความเสี่ยง

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ GULF มีโอกาสมากกว่าความเสี่ยง