วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ HANA แสงสว่างปลายอุโมงค์
จากบทวิเคราะห์ของ KGI Taiwan เรื่อง “IT Hardware: PC demand rebound in 2024F; AI PCs to drive long-term growth” ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2567 อุปสงค์ PC โลกน่าจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว
และ น่าจะฟื้นตัวขึ้นใน 2H67F หลังจากที่ยอดจัดส่ง PC แสดงสัญญาณการฟื้นตัวใน 1Q67 (ยอดจัดส่ง PC ทั่วโลกเพิ่มขึ้น 2% YoY เป็น 56.3 ล้านเครื่องใน 1Q67) โดย KGI Taiwan คาดว่ายอดจัดส่ง PC ทั่วโลกในปี 2567F จะเพิ่มขึ้น 3% YoY (PC สำหรับใช้งานเชิงพาณิชย์จะเพิ่มขึ้น 4% และ PC สำหรับผู้บริโภคจะเพิ่มขึ้น 2%) จากการเปลี่ยนเครื่องใหม่ตามวัฏจักรการใช้งาน และ การวางจำหน่าย AI PC นอกจากนี้ ในบทวิเคราะห์ของ KGI Taiwan เรื่อง “IT Hardware: smartphone replacement cycle kicks off with Gen-AI functionally” ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2567 ทาง KGI Taiwan คาดว่ายอดจัดส่ง smartphone ในปี 2567 จะไม่คึกคักเพราะมีการอัพเกรด spec และ feature ไม่มากนัก ดังนั้น KGI Taiwan จึงปรับลดประมาณการอัตราการเติบโตของยอดจัดส่ง smartphone เหลือ 1% จากเดิมที่คาดไว้ที่ 4%
ประมาณการ 2Q67: กำไรจากธุรกิจหลักจะลดลง YoY แต่จะเพิ่มขึ้น QoQ
เราคาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักของ HANA ใน 2Q67 จะอยู่ที่ 459 ล้านบาท (-39% YoY, +30% QoQ) ส่งผล
ให้กำไรจากธุรกิจหลักใน 1H67 อยู่ที่ 812 ล้านบาท (-22% YoY) และ คิดเป็น 40% ของประมาณการกำไร
เต็มปีของเรา ทั้งนี้ เราคาดว่ายอดขายใน 2Q67 จะอยู่ที่ 187 ล้านเหรียญดอลลาร์ฯ (-7% YoY, +5% QoQ)
จากการฟื้นตัวของอุปสงค์ PC และ การเปิดตัว smartphone รุ่นใหม่ ทั้งนี้ ยอดขาย PC และ smartphone
คิดเป็นประมาณ 45% ของรายได้รวมของ HANA เราคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะเพิ่มขึ้นเป็น 12% (-3ppts
YoY, +1.2ppts QoQ) จากยอดขายที่เพิ่มขึ้น และ เงินบาทที่อ่อนค่าลง
คาดว่าผลประกอบการจะดีขึ้นใน 2H67 แต่กำไรมี upside จำกัด
เรายังคงมองภาพอุตสาหกรรมว่าจะมีการกลับมาตุนสต็อก (inventory restocking) ในช่วงครึ่งหลังของปี
นี้ ซึ่งน่าจะทำให้ยอดขายของ HANA เพิ่มขึ้น ในขณะที่อัตรากำไรก็น่าจะเพิ่มขึ้นจากการประหยัดต่อขนาด และ เงินบาทที่อ่อนค่าลง อย่างไรก็ตาม เรามองว่าประมาณการกำไรของเรามี upside จำกัด เพราะกำไรจากธุรกิจหลักในงวด 1H67F จะคิดเป็นเพียง 40% ของประมาณการกำไรเต็มปีของเรา
Valuation & action
เรายังคงประมาณการกำไรปี 2567F เอาไว้เท่าเดิม และ ยังคงคำแนะนำ “ถือ” โดยประเมินราคาเป้าหมาย
สิ้นปี 2567 ที่ 39.00 บาท อิงจาก PER ที่ 17.0x (ค่าเฉลี่ยในอดีต)
Risks
ภัยธรรมชาติ, มีการปิดโรงงานนอกแผน, ลูกค้าเปลี่ยนไปสั่งสินค้าจาก supplier รายอื่น, ขาดแคลนวัตถุดิบ, เงินบาทแข็งค่าขึ้น