วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จับตารายงานเติบโตเศรษฐกิจสหรัฐฯ 2Q24E GDP Growth
ทางเทคนิค คาด SET Index เคลื่อนไหว Sideways Down แนวรับ 1,292/1,286 จุด แนวต้าน 1,306/1,313 จุด (EMA 10 วัน) ภาพระยะสั้น ดัชนีฯยังคงเคลื่อนไหวในทิศทางขาลงไปทดสอบแนวรับ 1,286/1281 จุด
ซึ่งเป็นแนว Neckline ของรูปแบบขาลง Double Top (M-Shape) โดยอาจเป็นสัญญาณซื้อ (Buy Signal) รอบใหม่หากดัชนีฯ พลิกกลับตัวขึ้นได้ แนะนำ รอซื้อเมื่อเกิดสัญญาณกลับตัว (Reversal Pattern)
ประเด็น Event สำคัญวันนี้
US: 2Q24E Earnings Results จับตา รายงานผลกำไร AbbVie คาด EPS USD2.88 Vs Previous USD2.91; Union Pacific คาด EPS USD2.72 Vs Previous USD2.54; Honeywell International คาด EPS USD2.41 Vs Previous USD2.23; Starbucks คาด EPS USD0.94 Vs Previous USD1.0 ฯลฯ
TH Earnings Results: GLOBAL อิง Bloomberg Consensus คาดรายงานกำไรสุทธิ 752 ล้านบาท เติบโต 6.9% YoY, 3.7% QoQ ส่วนราคาเป้าหมายปีนี้คาดอยู่ที่ 17.18/17.28 บาท (BB/IAA) โดยมี 6 โบรกเกอร์แนะนำ Buy และ 6 โบรกเกอร์แนะนำ Hold โดยคาดว่าจะรายงานกำไรสุทธิปี 2024-25E ที่ 2.96 พันล้านบาท และ 3.37 พันล้านบาท ตามลำดับ
Rio de Janeiro: รมว.คลังและประธานธนาคารกลางกลุ่มประเทศ G-20 ร่วมประชุม (ถึงวันศุกร์)
ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ
US: รายงาน 2Q24E GDP Growth โดย Consensus คาดเติบโต +1.9%-2% QoQ Vs 1Q24 GDP +1.4% QoQ แต่เมื่อพิจารณามุมมองจาก FED Atlanta ผ่านแบบจำลอง GDP Now ซึ่งเราให้น้ำหนักมากกว่า เนื่องจากมีการปรับเปลี่ยนตามตัวเลขเศรษฐกิจจริง (Real time) กลับมีมุมมองเชิงบวกอย่างมาก โดยล่าสุดคาดการณ์ GDP สูงถึง 2.7% QoQ ซึ่งหากอิงคาดการณ์ดังกล่าว จะทำให้ 1H24 US GDP เติบโตเฉลี่ย 2.1% YoY ใกล้เคียงคาดการณ์ 2024E GDP Growth ของเฟด ที่ 2.1% YoY ทั้งนี้ หากสหรัฐฯ ยังรักษา Momentum การเติบโตของเศรษฐกิจได้ตามเป้าหมาย เราคาดว่าเฟดจะสามารถลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายได้เพียง 1 ครั้ง ในปีนี้ ซึ่งต่ำกว่าคาดการณ์ตลาดผ่าน CME FED Watch tool ที่คาดเฟดลดดอกเบี้ยถึง 3 ครั้ง นั่นหมายถึง ตลาดอาจคาดหวังมุมมองการลดดอกเบี้ยเฟดที่มากเกินไป และอาจส่งผลต่อค่าเงิน USD ในปัจจุบัน อ่อนค่าเกินกว่าปัจจัยพื้นฐาน
US รายงานเงินเฟ้อ 2Q24E PCE Price/ Core PCE คาดเติบโต 3% QoQ / 2.7% QoQ ลดลงเมื่อเทียบกับ 1Q24 ที่ +3.4% QoQ / +3.7% QoQ ตามลาดับ และรายงาน Durable Goods Orders เดือน มิ.ย. คาด +0.4% MoM (Vs เดือน พ.ค. +0.1% MoM)
TH: ดุลการค้าเดือน มิ.ย. คาดเกินดุลลดลงเป็น +USD 0.35bn (Vs เดือน พ.ค. +USD 0.66bn โดยส่งออกและนาเข้าเดือน พ.ค. +7.2% YoY และ -1.7% YoY ตามลาดับ) ทั้งนี้ เราคาดว่าตัวเลขส่งออกอาจมี Positive Surprise อิงจากการส่งออกของประเทศคู่ค้าสาคัญอย่างจีน และญี่ปุ่น (ผู้ผลิตขั้นกลาง) เดือน มิ.ย. เร่งตัวขึ้น 8.6% YoY และ 5.4% YoY ตามลาดับ เป็นสัญญาณชี้นาถึงการฟื้นตัวของส่งออกไทย เนื่องด้วยมีความสัมพันธ์ในทิศทางเดียวกัน ด้วยค่าสหสัมพันธ์ 61% และ 66% ตามลาดับ ทั้งนี้ หากอิงมุมมองธปท.ที่ว่า การส่งออกกลุ่มสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ มีโอกาสเติบโตสูงกว่าแนวโน้มเฉลี่ยทั้งหมด ขณะที่สินค้าประเภทยานยนต์ อุปกรณ์ไฟฟ้า และปิโตรเคมียังคงอยู่ในทิศทางอ่อนแอ นอกจากนี้ การกลับมาฟื้นตัวของภาคส่งออก ยังจะส่งผลบวกต่อการระบายสินค้าคงคลัง และผลักดันให้การผลิตภาคอุตสาหกรรม (ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 3 เดือน) เริ่มฟื้นตัวจากจุดต่าสุดที่ -5.2% YoY ในช่วง 3Q23 มาที่ -0.004% YoY ในเดือน มิ.ย. อิง Consensus คาดการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน มิ.ย. (ประกาศวันที่ 26 ก.ค.) ที่ -1.9% YoY
กลยุทธ์ลงทุน แนะนำหุ้นที่มีประเด็นบวก ได้แก่ GFPT ITC BTG
Strategic daily picks
GFPT ปิด 13.00 บาท/แนวรับ 12.50 บาท แนวต้าน 13.50 บาท
บริษัทคาดหวังว่าจะเริ่มคำสั่งซื้อที่เร่งตัวขึ้นในช่วง 3Q24 หนุนจากเริ่มเข้าสู่ช่วง high season ของญี่ปุ่น และยังคงเป้าหมายการเติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาว โดยอยู่ระหว่างเร่งการก่อสร้างโรงเชือดไก่แห่งใหม่ กำลังการผลิต 1 แสนตัว/วัน เบื้องต้นคาดว่าจะเริ่มทดลองเดินเครื่องในเชิงพาณิชย์ได้ภายใน 4Q24 หรือราว 1Q25 ทั้งนี้ Bloomberg Consensus ประมาณการกำไรสุทธิ 2Q24 ที่ 528.25 ล้านบาท (+51.39% YoY) และมูลค่าเหมาะสม 15.57 บาท
ITC ปิด 22.00 บาท/แนวรับ 21.50 บาท แนวต้าน 22.90 บาท
บริษัทยังมีมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มผลการดำเนินงานใน 2H24 ทั้งยอดขายของแบรนด์ลูกค้าที่ขยายตัวตามตลาดทั่วโลก และ แบรนด์ของบริษัทเองที่จะมีการมุ่งเน้นขยายตลาด ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ และสร้างแบรนด์ในประเทศไทยให้มากขึ้น ทั้งนี้ แนวโน้มผลการดำเนินงานใน 2Q24 ยอดขายจะเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลัก เมื่อเทียบ YoY, QoQ เนื่องจากลูกค้าแบรนด์ระดับโลกทุกแบรนด์มีคำสั่งผลิตกลับเข้ามากขึ้น และมีอัตรากำลังการผลิตเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ KTX ประมาณการกำไรสุทธิ 2Q24E ที่ 870 ล้านบาท (+96% YoY, +6% QoQ) และประเมินมูลค่าเหมาะสม 12M FWD ที่ 23.90 บาท อิงอัตราผลตอบแทนคาดหวัง 5.19%
BTG ปิด 23.90 บาท/แนวรับ 23.10 บาท แนวต้าน 24.60 บาท
KTX มีมุมมองเป็นกลางต่อ 2Q24E โดยคาดพลิกเป็นกำไรสุทธิ 522 ล้านบาท ดีขึ้นจากขาดทุนสุทธิ 351 ล้านบาท และ 124 ล้านบาท ใน 2Q23 และ 1Q24 จากการฟื้นตัวของราคาไก่และหมูไทย และหมูในกัมพูชาและลาว โดยคาดยอดขายรวมเพิ่ม 2-3% YoY แต่ทรง-เพิ่มเล็กน้อย QoQ โดย KTX ประเมินมูลค่าเหมาะสม 12M FWD ที่ 24.14 บาท อิงอัตราผลตอบแทนคาดหวัง 4.1%