วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก Sideway

ก่อนจะลดช่วงบวกจากสัญญาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวลง กดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,328.12 จุด +4.74 จุด +0.36% มูลค่าการซื้อขาย 47,980.65 ลบ. Program Trading +463.99 ลบ. ต่างชาติ +1,789.41 ลบ. TFEX +18,916 สัญญา ตราสารหนี้ -1,542.27 ลบ.

ปัจจัยบวก    

+/- ธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ประเภท 1 ปีที่ระดับ 3.35% และคงอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปี ที่ระดับ 3.85% สอดคล้องกับโพลสำรวจนักเศรษฐศาสตร์
+ FedWatch Tool บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 69.5% ที่ FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% และให้น้ำหนัก 30.5% ที่ FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนก.ย.
+ สำนักงบประมาณชี้ ดิจิทัลวอลเล็ตแจกเป็นเงินสดได้ไม่ผิดวัตถุประสงค์การกระตุ้นเศรษฐกิจ ชี้ช่องให้ใช้งบกลางกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.52 แสนล้านบาท
+ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทย 1 มกราคม-18 สิงหาคม 2567 สะสมแล้ว 22,474,172 คน สร้างรายได้ ประมาณ 1,058,026 ล้านบาท จำนวนนักท่องเที่ยวสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน มาเลเซีย อินเดีย เกาหลีใต้ และรัสเซีย

ปัจจัยลบ 

- ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 61.56 จุด หรือ -0.15% นักลงทุนชะลอการซื้อขาย ก่อนการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐที่เมืองแจ็กสัน โฮลที่จะเริ่มในวันพฤหัสบดีนี้
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 33 เซนต์ หรือ -0.44% ปิดที่ 74.04 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากมีรายงานว่าอิสราเอลยอมรับข้อตกลงหยุดยิงในฉนวนกาซา ซึ่งลดความเสี่ยงที่อุปทานน้ำมันในตะวันออกกลางจะได้รับผลกระทบ และจากความกังวลว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนอาจส่งผลให้อุปสงค์น้ำมันอ่อนแอลง
 

- คามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐและผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครต เสนอปรับขึ้นอัตราภาษี นิติบุคคลเป็น 28% ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญหลังจากที่ อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เคยลดอัตราภาษีนิติบุคคลเหลือ 21% จากเดิม 35%
- กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ยิงจรวด 75 ลูกจากเลบานอนโจมตีที่ราบสูงโกลันและดินแดนตอนเหนือของอิสราเอล
- แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่านานาประเทศเพิ่มการใช้มาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษีมากขึ้นต่อเนื่องโดยเฉพาะสหรัฐเพิ่มความเข้มงวดตรวจสอบสินค้านำเข้าจากจีน และส่งออกไปสหรัฐ ซึ่งรวมถึงประเทศไทยด้วย

แนวโน้มตลาดวันนี้  

คาดดัชนีในวันนี้ โอกาสแกว่งตัวในลักษณะ Sideway ออกข้าง หลังปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยนักลงทุนชะลอการซื้อขาย ก่อนที่การประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เมืองแจ็กสัน โฮล จะเปิดฉากขึ้นในวันพฤหัสบดี คาดกรอบดัชนีในวันนี้ 1,320-1,335 จุด

กลยุทธ์การลงทุน    

• หุ้น ESG Rating เด่น (AAA) : ADVANC BANPU CPF PTTGC SCC
• สินค้าส่งออกเดือน มิ.ย. ที่เติบโตดี : STA NER TRUBB TEGH ITC AAI
• MSCI Global Standard Indexes เข้า – ออก AWC EA GPSC IVL MSCI Small Cap Indexes เข้า BJC EA KAMART TLI ออก BA BYD EPG NEX ORI PTG RBF THANI SC SJWD SKY SNNP THCOM มีผล 2 ก.ย.
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทแข็งค่า : BGRIM GPSC EGCO RATCH TVO TMILL JUBILE SYNEX SIS

 

หุ้นรายงานพิเศษ  

ADVANC (Bloomberg Consensus 260.00 บาท)
"กำไรสุทธิ 2Q67 +19%YoY, +1.5%QoQ"

•ADVANC ผลประกอบการใน 2Q67 มีรายได้เท่ากับ 51,332 ล้านบาท +15.0%YoY จากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และรายได้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง หากเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อน -3.7%QoQ เนื่องจากค่าใช้จ่ายพนักงานและค่าใช้จ่ายในการบริหารที่สูงขึ้น บริษัทมีกาไรสุทธิอยู่ที่ 8,577 ล้านบาท +19%YoY, +1.5%QoQ ตามผลการดาเนินงานที่ดีขึ้นและส่วนแบ่งกาไร จาก 3BBIF จากค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจาหน่ายที่ลดลง โดยบริษัทมี กาไรสุทธิ 1H67 เท่ากับ 17,028 ล้านบาท +22%YoY

•ความเห็น : เรามีมุมมองเป็นบวกต่อผลประกอบการของบริษัท โดย จานวนผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ประกอบกับเป็น Defensive Stock เหมาะกับการลงทุนในช่วงตลาดผันผวน แนะนา “ซื้อ”

หุ้นมีข่าว

(-) TOP (Bloomberg Consensus 64.00 บาท) PTTGC (Bloomberg Consensus 32.00 บาท) IRPC (Bloomberg Consensus 1.80 บาท) ปตท.จ่อลดการถือหุ้นในธุรกิจปิโตรเคมีและโรงกลั่น เปิดทางพาร์ตเนอร์ใหม่เข้ามาถือหุ้นทั้ง TOP-PTTGC-IRPC ระบุสร้างความแข็งแกร่งทางธุรกิจ ส่วน "อินโนบิก(เอเซีย)" เร่งสปินออฟเข้าตลาดหุ้น และพันธมิตรร่วมทุน (ที่มาผู้จัดการรายวัน 360 องศา)

(+) THCOM (Bloomberg Consensus 16.60 บาท) แย้มเจรจาพันธมิตร TEAMG เล็งโอกาสร่วมมือในการประเมินการกักเก็บคาร์บอน เผยแพลตฟอร์ม CarbonWatch มีลูกค้ารายใหญ่หลายรายสนใจใช้บริการ พร้อมเดินหน้าผนึกกำลังกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง คาดรับรู้รายได้ปีนี้ หวังต่อยอดความเชี่ยวชาญในด้านธุรกิจดาวเทียมมาสู่ธุรกิจเทคโนโลยีอวกาศ ดันผลงานกลุ่มธุรกิจ Space Tech โตต่อเนื่อง

(+) AWC (Bloomberg Consensus 4.65 บาท) ชี ยอดจองโรงแรมช่วงไตรมาส 3-4 ปีนี สูงกว่าช่วงเดียวกันปีก่อนถึง 55% รับอานิสงส์นักท่องเที่ยวโต หนุนผลดำเนินงานปีนี้โต มั่นใจปี 67 อัตราการเข้าพักสูงกว่าปีก่อนที่มี 64.6% พร้อมผนึกพันธมิตรร่วมลงทุน-ตั ง JV หนุนการเติบโตระยะยาว พร้อมตั งบลงทุน 5 ปี 1.26 แสนล้านบาท

(+) KCG (Bloomberg Consensus 13.00 บาท) มองทิศทางครึ่งปีหลังอัตรากำไรดีขึ้นจากการลดจำนวน SKU ของสินค้าลง และเตรียมเพิ่มสินค้าใหม่ๆ กลุ่มนมเนยชีส และกลุ่มบิสกิต รวมถึงออกสินค้าใหม่ร่วมกับกลุ่มลูกค้ารายใหญ่ เล็งขยายตลาดในอาเซียน-นอกอาเซียนมากขึ้น เตรียมติดตั้งโซลาร์รูฟในคลังสินค้า คาดแล้วเสร็จปี 2568 ช่วยลดต้นทุนในระยะยาว