วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.กรุงศรี BJC คาดปิด BigC สุขา3 และรังสิต2 กระทบไม่ถึง -1%รายได้
เรามีมุมมองลบเล็กน้อยต่อข่าว BigC ปิด 2 สาขาเพราะหมดสัญญาเช่า คาดสิ้น 3Q24F มีสาขาเหลือ 156 แห่ง แต่ไม่กระทบพื้นฐานเนื่องจากทั้ง 2 สาขาคิดเป็นสัดส่วนเพียง 0.5%ของรายได้ BigC (0.3%ของรายได้รวม)
และการดำเนินงานของสาขาดังกล่าวแค่คุ้มทุน จึงไม่กระทบต่อประมาณการปี 24-26F ของเรา ดังนั้น เราคงกำไรปกติปี 24-25F ที่ 4.9 พันลบ.และ 5.4 พันลบ. เติบโต +4%y-y และ +9%y-y ตามลำดับ เราคงคำแนะนำ BUY โดยมี TP25F ที่ 32 บาทต่อหุ้น และเลือกเป็นหุ้นเด่นกลุ่มคู่กับ CPALL(TP84)
ประเด็นข่าว
- บิ๊กซี เตรียมปิด 2 สาขา ‘สุขาภิบาล3-รังสิต 2’ เหตุหมดสัญญาเช่า ทั้งนี้ ตามข่าวระบุบิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า สาขาสุขาภิบาล 3 (แยกบ้านม้า) จะเปิดให้บริการวันสุดท้าย 15 กันยายน โดยให้ใช้บริการต่อที่ สาขาสุวินทวงศ์ และสาขาสุขาภิบาล 3-2 โดยได้เริ่มติดป้ายอำลาลูกค้า และส่งข้อความหาลูกค้าแล้ว ขณะที่ สาขารังสิต 2 ที่อยู่ใกล้กับตลาดสี่มุมเมือง ก็เตรียมจะปิดลงในวันที่ 30 กันยายนนี้เช่นกัน สาเหตุหลักเพราะหมดสัญญาเช่า
- นอกจากนี้ บิ๊กซี สาขาราษฎร์บูรณะ ถนนราษฎร์บูรณะ จะเปิดให้บริการวันสุดท้ายในวันที่ 31 ต.ค.2024 เพราะหมดสัญญาเช่าเช่นกัน อย่างไรก็ดี ทาง BigC มีแผนจะย้ายไปยังทำเลใหม่ใกล้เคียง เป็นทำเลทองติดกับแม่น้าเจ้าพระยา และเป็นที่ดิน Freehold (ที่ดินกรรมสิทธิ์) ในกลุ่มบีเจซี บิ๊กซี โดยคาดว่าจะพร้อมเปิดให้บริการภายในปี 2025
- สำหรับแผนช่วงที่เหลือของปี BigC วางแผนเปิดเพิ่ม +1 สาขา และปี 2025F ตั้งเป้าขยายสาขาใหญ่เพิ่มอีก +3 แห่ง ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์
ความเห็นและคำแนะนำ
- เรามีมุมมอง ‘ลบเล็กน้อย’ ต่อข่าวเตรียมปิด BigC 2 สาขาเพราะหมดสัญญาเช่า ทำให้คาดจะเหลือสาขาใหญ่ให้บริการสิ้น 3Q24F เหลือ 156 แห่งจากปัจจุบัน 158 แห่ง (ก.ค.24 มีเปิด 1 แห่งที่ยะลา)
- แต่เชิงปัจจัยพื้นฐานไม่กระทบประมาณการ เนื่องจากทั้ง 2 สาขาคิดเป็นสัดส่วนเพียง 0.5%ของรายได้ BigC (0.3%ของรายได้รวม) และการดำเนินงานของสาขาดังกล่าวแค่คุ้มทุนจึงไม่กระทบต่อประมาณการปี
24-26F ของเรา ดังนั้น เรายังคงกำไรปกติปี 24-25F ที่ 4.9 พันลบ.และ 5.4 พันลบ. เติบโต +4%y-y และ +9%y-y ตามลำดับ
- โมเมนตั้มกำไรปกติ 3Q24F คาดเติบโต y-y เกิดจากทิศทางอัตรากำไรขั้นต้นที่จะยังปรับขึ้น y-y ตาม 1) ต้นทุนวัตถุดิบหลายชนิดยังถูกกว่าปีก่อน เช่น แก็สธรรมชาติ, โซดาแอ๊ซ , ค่าไฟต่อหน่วย เป็นต้น 2) บริษัทปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตและบริหารสินค้าในสต็อคได้ดีขึ้น และ 3) ส่วนผสมสินค้ามาร์จิ้นสูง เช่น กลุ่มอาหารสด, Personal care และ Private brand เป็นต้น ในขณะที่เราเริ่มสัญญาณบวกเพิ่มจากทิศทาง SSSG เดือนส.ค.-ต้นก.ย.ที่เริ่มเป็นบวกได้อีกครั้ง +2-3% จาก -2% ในก.ค.24 ส่วน q-q คาดกำไรปกติลง เพราะเป็นช่วงหน้าฝน ยอดขายโดยรวมและอัตรากำไรปกติจะลดลง q-q
- เราคงคำแนะนำ “BUY” มีราคาเป้าหมายปี 25F 32 บ.และเลือกเป็นหุ้นเด่นกลุ่มคู่กับ CPALL(TP84)
โดยชอบ BJC ที่ 1) คาดกำไร 2H24F ฟื้นตัว y-y, h-h ตามยอดขายจะเร่งขึ้นจากการออกสินค้าใหม่ SSSG ฟื้น ในขณะที่ GPM จะดีขึ้นด้วย , 2) ได้ประโยชน์อันดับต้นๆจากนโยบาย Digital wallet ของรัฐบาลใหม่และ 2) Valuation ยังถูก ราคาหุ้นถูกซื้อขายบน PER ปี 24F เพียง 20x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 10 ปีย้อนหลัง -1.5SD