วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก Sideway Up

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก Sideway Up

วันพฤหัสบดีที่ผ่านมาดัชนีปรับตัวขึ้นตามทิศทางตลาดต่างประเทศ โดยได้รับ Sentiment เชิงบวกจาก หุ้นเทคโนโลยีสหรัฐปรับตัวขึ้นแรง มีแรงซื้อในหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ นำโดย DELTA ประกอบกับสหรัฐประกาศตัวเลขเงินเฟ้อ (CPI) ออกมาต่ำกว่าคาดการณ์

ทำให้นักลงทุนคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันที่ 18 ก.ย.นี้ หนุน กนง. ปรับลดอัตราดอกเบี้ยตาม ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,421.58 จุด +6.17 จุด +0.44% มูลค่าการซื้อขาย 47,485.39 ลบ. Program Trading +1,312.08 ลบ. ต่างชาติ +827.23 ลบ. TFEX +4,607 สัญญา ตราสารหนี้ +246.37 ลบ.

ปัจจัยบวก    

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิด เพิ่มขึ้น 235.06 จุด หรือ +0.58% หลังจากการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อล่าสุดของสหรัฐฯ เป็นปัจจัยสนับสนุนการคาดการณ์ที่ว่า FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมสัปดาห์หน้า
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดเพิ่มขึ้น 1.66 ดอลลาร์ +2.47% ปิดที่ 68.97 ดอลลาร์/บาร์เรล ได้แรงหนุนจากข่าวพายุเฮอร์ริเคนฟรานซีน (Francine) ที่พัดขึ้นฝั่งรัฐลุยเซียนาและส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโก
+ สหรัฐฯ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ปรับตัวขึ้น 0.2%MoM ในเดือนส.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.1% ส่วนดัชนี PPI พื้นฐาน (Core PPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 0.3% MoM ในเดือนส.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2%
+ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) สนับสนุนธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่จะเริ่มผ่อนคลายนโยบายการเงินในการประชุมสัปดาห์หน้า เนื่องจากความเสี่ยงในช่วงขาขึ้นของเงินเฟ้อได้ลดน้อยลงแล้ว
+ ECB ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากลง 0.25% สู่ระดับ 3.50% หลังจากปรับลดในเดือนมิ.ย. และตลาดการเงินคาดว่า มีโอกาส 54% ที่ ECB จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในเดือนธ.ค.
+/- รมว.คลัง ประกาศ แจกเงินดิจิทัล 25 ก.ย. เฟส 1 ให้กับกลุ่มเปราะบาง แต่การจ่ายเงินดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 2 สำหรับบุคคลทั่วไปจะไม่สามารถจ่ายได้ทันภายในปีนี้

ปัจจัยลบ 

 

- สหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก เพิ่มขึ้น 2,000 ราย สู่ระดับ 230,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 227,000 ราย
- รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธลงสู่ทะเล ขณะที่ ฝั่งกองทัพเกาหลีใต้เปิดเผยว่าเกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธไปยังทะเลญี่ปุ่น (Sea of Japan)
- ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์เปิดเผยว่า เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มเติบโตชะลอลงในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ หลังจากเติบโตได้ดีในช่วงครึ่งปีแรก คาดว่าทั้งปี 67 เศรษฐกิจโลกจะขยายตัว 2.7% และขยายตัว 2.8% ในปี 68
-ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย (Consumer Confidence Index : CCI) เดือน ส.ค.67 ลดลงต่อเนื่องทุกรายการเป็นเดือนที่ 6 และต่ำสุดรอบ 13 เดือน ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย ที่สำรวจจากความคิดเห็นภาคธุรกิจ สมาชิกหอการค้าไทย ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 และต่ำสุดรอบ 11 เดือน

แนวโน้มตลาดวันนี้  

คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสปรับตัวขึ้นในลักษณะ Sideway Up โดยหลังจากการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อล่าสุดของสหรัฐฯ สนับสนุนการคาดการณ์ที่ว่าเฟด จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมสัปดาห์หน้า ประกอบกับราคาน้ำมันดิบ WTI เริ่ม Rebound หนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,415-1,430 จุด

กลยุทธ์การลงทุน   

• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทแข็งค่า : BGRIM GPSC EGCO RATCH TVO TMILL JUBILE SYNEX SIS
• หุ้นได้ประโยชน์จากการซ่อมแซมหลังน้ำลด : TASCO DOHOME GLOBAL DCC DRT TOA DPAINT
• ยอดส่งออกไทยเดือน ก.ค. เติบโต : STA NER CPF GFPT AAI ITC
• หุ้นได้ประโยชน์จากรัฐบาลใหม่ : CK STEC SEAFCO BJC CPALL CPAXT
• หุ้น ESG Rating เด่น (AAA) : ADVANC BANPU CPF PTTGC SCC

 

หุ้นรายงานพิเศษ  

KLINIQ "ซื้อ" (ราคาเหมาะสม 41.36 บาท)
"ช่วง 2H67 คาดหวังอัตรากำไรขั้นต้นที่ฟื้นตัวจากช่วง 1H67"

•คาดกำไรสุทธิงวด 3Q67 เติบโต QoQ, YoY จากอัตรากำไรขั้นต้นฟื้นตัวจากไตรมาสก่อนหน้า: คาดรายได้จากการขายและบริการเติบโตต่อเนื่อง QoQ, YoY จากการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม และยอดขายสาขาใหม่ ในงวด 3Q67 มีการเปิดสาขาใหม่ 3 สาขา ทำให้สิ้นงวด 3Q67 มีสาขารวมทั้งหมด 70 สาขา คาดอัตรากำไรขั้นต้น (%GPM) จะปรับตัวเพิ่มขึ้น QoQ เนื่องจากสาขาที่เปิดไปมากจำนวน 10 สาขาในงวด 1Q67 ทยอยถึงจุดคุ้มทุน สำหรับ %GPM ที่ลดลง YoY สาเหตุหลักจากการเติบโตของรายได้ THE KLINIQUE SURGERY CENTER และ L.A.B.X ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งมี %GPM ต่ำกว่าแบรนด์ THE KLINIQUE สำหรับ Utilization Rate ของศูนย์ศัลยกรรมมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนหน้า ส่งผลให้คาดว่ากำไรสุทธิงวด 3Q67 จะเติบโต QoQ, YoY

•คงประมาณการกำไรสุทธิปี 67 ที่ 325 ลบ. เติบโต 13%YoY: คงคาดการณ์รายได้จำนวน 3,046 ลบ. เติบโต 33%YoY มาจากการเติบโตของยอดขายสาขาเดิมที่มีจำนวน 55 สาขา และการเติบโตจากการเปิดสาขาใหม่จำนวน 20 สาขาแบ่งเป็นแบรนด์ THE KLINIQUE 10 สาขา และ L.A.B.X 10 สาขา ช่วง 1H67 เปิดแล้ว 13 สาขา ประกอบกับการเติบโตของรายได้ศูนย์ศัลยกรรม ล่าสุดบริษัทมีแผนเปิดสาขา KLINIQ MedSpa เพิ่มอีก 2 แห่ง ที่เซ็นทรัลเวิลด์ และสามย่านมิตทาวน์ในช่วงสิ้นปีนี้ เราคงสมมติฐาน %GPM ที่ระดับ 51.8% ส่งผลให้เราคาดกำไรสุทธิ เท่ากับ 325 ลบ. +13%YoY โดยกำไรในช่วง 1H67 จำนวน 149 ลบ. +7%YoY คิดเป็นสัดส่วน 46% ของประมาณการทั้งปี 67

•คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสมปี 67 เท่ากับ 41.36 บาท: เราประเมินราคาเหมาะสมด้วยวิธี Prospective PER โดยใช้ค่าเฉลี่ย PE Ratio ย้อนหลัง 1 ปี ที่ 28x คาดการณ์กำไรต่อหุ้นปี 67 เท่ากับ 1.477 บาทต่อหุ้น ทำให้ได้ราคาเหมาะสมปี 67 เท่ากับ 41.36 โดยราคาเหมาะสมมี upside จากราคาปัจจุบันราว 15% ขณะที่คาดการณ์อัตราผลตอบแทนเงินปันผล (Dividend Yield) ในอนาคตราว 3.6% ต่อปี เราจึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”

หุ้นมีข่าว

(+) BTS (Bloomberg Consensus 5.17 บาท) ดีเดย์เดือน ต.ค.นี้ รับเงินค่าจ้างเดินรถ-ซ่อมบำรุง (O&M) โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว 1.45 หมื่นล้านบาท เร็วกว่ากำหนดเดิม ฟาก “ชัชชาติ” เร่งสภากรุงเทพมหานครอนุมัติจ่ายหนี้ภายในปีงบประมาณ 67 สิ้นเดือน ก.ย.นี้ หากล่าช้าไปปีงบ 68 ส่งผลกระทบต่อการชำระหนี้และอัตราดอกเบี้ย ส่วนหนี้ O&M ที่เหลือ 2.5 หมื่นล้านบาท เข้าคิวเจรจาต่อ (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) EGCO (Bloomberg Consensus 138.00 บาท) เผยแผนลงทุนร่วมกับพันธมิตร PT Chandra Asri Pacific Tbk (CAP) เพื่อดำเนินธุรกิจสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐาน ในประเทศอินโดนีเซีย ชี้มีความเสี่ยงต่ำ-สร้างกำไรต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้าขยายงาน หวังเสริมความแข็งแกร่งและการเติบโตในอนาคต(ที่มา ทันหุ้น)

(+) BEM (Bloomberg Consensus 11.00 บาท)ปลื้มหุ้นกู้เพื่อความยั่งยืน มูลค่ารวม 7 พันลบ. ยอดจองล้นกว่า 1.5 เท่า ทริสจัดเรตติ้ง "A-" ตอกย้ำฐานทางการเงินที่แข็งแกร่ง พร้อมเดินหน้าลงทุน มุ่งลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และส่งเสริมการเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานของระบบขนส่งมวลชน (ที่มา ทันหุ้น)

(+) ARROW (Bloomberg Consensus - บาท) อานิสงส์เหล็กโลกมีตัวเลขลดลง พร้อมเงินบาทแข็งตัวหนุน ส่งผลมาร์จิ้นดีขึ้น ตั้งเป้าแตะ 20-25% จากต้นทุนที่ลดลง ชูแบ็กล็อกในมือ 700 ล้านบาท เล็งเสนองานโครงการภาครัฐใหม่ หวังเติมแบ็กล็อก เดินหน้าเปิดดีลรันเวย์สนามบิน อู่ตะเภา และรถไฟฟ้าหลากสีพร้อมส่วนขยาย (ที่มา ทันหุ้น)