วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก การจ้างงานสหรัฐดีกว่าคาด
วันศุกร์ที่ผ่านมาดัชนีเคลื่อนไหว Sideway Up โดยมีแรงกดดันจากเงินบาทอ่อนค่า ทำให้ Fund Flow นักลงทุนต่างชาติไหลออก ประกอบกับความกังวลสถานการณ์ตึงเครียดในภูมิภาคตะวันออกกลาง เป็นปัจจัยกดดันดัชนี
อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้น หนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาการประกาศตัวเลขการจ้างงานสหรัฐ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,444.25 จุด +1.52 จุด +0.11% มูลค่าการซื้อขาย 63,959.04 ลบ. (ในสัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนี -5.90 จุด -0.41%) Program Trading -1,154.05 ลบ. ต่างชาติ -1,022.36 ลบ. TFEX +446 สัญญา ตราสารหนี้ -2,853.95 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ ดัชนีดาวโจนส์ปิด เพิ่มขึ้น 341.16 จุด หรือ +0.81% หลังจากการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานที่แข็งแกร่งเกินคาดของสหรัฐฯ สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนที่วิตกว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจจะอ่อนแอเกินไป
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดเพิ่มขึ้น 67 เซนต์ หรือ +0.9% ปิดที่ 74.38 ดอลลาร์/บาร์เรล ได้แรงหนุนจากผลกระทบที่เพิ่มขึ้นจากสงครามในตะวันออกกลาง แต่เพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันถูกจำกัด เนื่องจากประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ เตือนให้อิสราเอลหลีกเลี่ยงการโจมตีแหล่งผลิตน้ำมันของอิหร่าน
+ การจ้างงานในสหรัฐเพิ่มขึ้นในเดือนก.ย.มากที่สุดในรอบ 6 เดือน โดยมีตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 254,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 147,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้น 159,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค.
+ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ ไม่เชื่อว่าจะเกิด "สงครามเต็มรูปแบบ" ในภูมิภาคตะวันออกกลาง ซึ่งกำลังอยู่ในภาวะตึงเครียดเนื่องจากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซาและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน และอิหร่านได้เข้ามาร่วมวงด้วย
+ องค์การอนามัยโลก (WHO) อนุมัติชุดตรวจโรคฝีดาษลิง (mpox) ของบริษัทแอ๊บบอต ลาบอแรตอรีส (Abbott Laboratories) สำหรับใช้ในภาวะฉุกเฉิน เป็นการอนุมัติครั้งแรกพยายามของ WHO ที่จะเสริมสร้างขีดความสามารถในการตรวจโรคในประเทศต่าง ๆ ที่กำลังเผชิญกับการระบาดของโรคนี้
+ กระทรวงการคลังเสนอปรับกรอบเงินเฟ้อปีหน้าเพิ่มขึ้น 0.5% จากเดิมอยู่ในกรอบ 1-3% เพิ่มเป็น 1.5-3.5% เพื่อให้ธปท. มีช่องปรับลดดอกเบี้ยนโยบายได้มากขึ้น แต่มีระยะห่างการบริหารกรอบยังเท่าเดิมที่ 2%
+ เงินบาทอ่อนค่า หลังตัวเลขจ้างงานสหรัฐดีกว่าคาดหนุนดอลลาร์แข็งค่า
ปัจจัยลบ
- สานักข่าวกลางเกาหลี (KCNA) รายงาน ว่า คิม จองอึน ผู้นาสูงสุดของเกาหลีเหนือประกาศว่า เกาหลีเหนือจะใช้ศักยภาพทางการทหารทั้งหมดที่มี ซึ่งรวมถึงอาวุธนิวเคลียร์ หากศัตรูพยายามใช้กองกาลังติดอาวุธรุกล้าอานาจอธิปไตยของ เกาหลีเหนือ
- โกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์ว่า ราคาน้ามันจะพุ่งขึ้น 20 ดอลลาร์/บาร์เรล หากอิสราเอลตอบโต้อิหร่านกลับคืนด้วยการโจมตีแหล่งผลิตน้ามันของอิหร่าน
- สานักงานสอบสวนกลาง (FBI) และกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า การครบรอบ 1 ปีที่กลุ่มฮามาสบุกโจมตีอิสราเอลและความวุ่นวายต่อเนื่องในตะวันออกกลางนั้น อาจเป็นแรงกระตุ้นให้กลุ่มสุดโต่งก่อเหตุที่รุนแรงได้
- เชียงใหม่แจ้งอพยพใน 24 ชม. น้าจาก อ.เมือง จ่อไหลเข้า'สารภี-หางดง-สันป่าตองมา
- ตลท. สรุปมูลค่าซื้อขายหลักทรัพย์สะสมตามกลุ่มนักลงทุนตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-4 ตุลาคม 2567 พบว่าสถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 17,059.25 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ซื้อสุทธิ 37.25 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 106,436.68 ล้านบาท นักลงทุนในประเทศ ซื้อสุทธิ 89,340.17 ล้านบาท
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีวันนี้มีโอกาส Rebound ตามทิศทางตลาดต่างประเทศ โดยมีแรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานที่แข็งแกร่งเกินคาดของสหรัฐ ขณะที่ปัจจัยในประเทศยังถูกกดดันจากสถานการณ์อุทกภัยทางภาคเหนือ คาดกรอบดัชนีวันนี้ที่ 1,440-1,455 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทแข็งค่า : BGRIM GPSC EGCO RATCH TVO TMILL JUBILE SYNEX SIS
• หุ้นได้ประโยชน์จากการซ่อมแซมหลังน้ำลด : TASCO DOHOME GLOBAL HMPRO DCC DRT TOA DPAINT
• หุ้น ESG Rating เด่น (AAA) : ADVANC BANPU CPF PTTGC SCC
• สินค้าส่งออกเดือนส.ค.ที่ยังเติบโต : ITC AAI STA NER TEGH GFPT FM
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากแผนลงทุน Data Center : WHA ADVANC GULF TRUE INSET
• กกพ. เปิดประมูลพลังงานทดแทนรวม 2,180 MW (ลม 600 MW และแสงอาทิตย์ 1,580 MW) : GUNKUL SSP GULF BGRIM GPSC
หุ้นรายงานพิเศษ
AU - "ซื้อ" ราคาเหมาะสม 13.50 บาท Upside 35%
มุมมองบวกต่อแนวโน้มกำไร 2H67 ซึ่งคาดจะเติบโตต่อเนื่อง HoH
•คาดแนวโน้มกำไร 3Q67 จะเติบโตต่อเนื่อง YoY แต่อ่อนลงเล็กน้อย QoQ จากการเข้าสู่หน้าฝน และฐานสูงใน 2Q67 ที่มีกำไร 73 ลบ. +69%YoY +34%QoQ อย่างไรก็ตาม ผลประกอบคงเติบโต YoY จากกำลังซื้อที่ยังคงโตต่อเนื่อง สะท้อน SSSG ซึ่งคาดเติบโตราว 5% และมีรายได้จากการวางขาย “ขนมปังเนยโสด” ใน 7-Eleven ซึ่งเริ่มต้น 1 ก.ค และเราคาดรายได้กลุ่มดังกล่าวราว 10-15 ลบ./เดือน รวมถึงช่วงเดือน ก.ย มีขยายสาขาใหม่ 1 แห่งที่เยาวราชซึ่งเป็นแหล่งนักท่องเที่ยวและมีกำลังซื้อสูง
•ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อแนวโน้มกำไร 2H67 ซึ่งคาดจะเติบโต HoH โดยหลักมาจาก 1) กำลังซื้อเติบโตดี 2) ขยายสาขาใหม่อีก 4 แห่ง 3) เปิดแฟรนไชส์ที่กัมพูชา 4) แผนการเพิ่มกำลังผลิตสินค้าเข้าสู่ 7-Eleven และ 5) การเป็นพาร์ทเนอร์ กับบริษัทอื่นๆ ล่าสุดเพิ่งนำส่งสินค้าให้กับการบินไทยเมื่อวันที่ 1 ต.ค ที่ผ่านมา โดยเรามีการปรับประมาณกำไรปี 67 เพิ่มขึ้น 20% สู่ 268 ลบ. +50%YoY (1H67 คิดเป็น 47%) และปรับราคาเหมาะสมขึ้นสู่ 13.50 บาท (เดิม 11.70 บาท) มี Upside 35% คงคำแนะนำ “ซื้อ”
หุ้นมีข่าว
(+) BAM (Bloomberg Consensus 8.50 บาท) มั่นใจผลงานไตรมาส 4/2567 แตะระดับสูงสุดของปี เดินหน้าซื้อทรัพย์เข้าพอร์ตต่อเนื่อง ด้าน ARI-AMC เตรียมเคาะวงเงินซื้อทรัพย์ก้อนแรก เน้นหนี้ไม่มีหลักประกัน ด้าน JV-KBANK อยู่ระหว่างยื่นขอไลเซนส์ประกอบธุรกิจ AMC จากธปท. มั่นใจสามารถจัดตั้ง-ดำเนินธุรกิจได้ในอนาคต (ที่มา ทันหุ้น)
(+) GFC (Bloomberg Consensus 12.10 บาท) "กรพัส อัจฉริยมานีกูล" บอสใหญ่ GFC กางแผนเจาะตลาดใหม่ต่างประเทศปีนี้ มองโอกาสเติบโตสูง เล็งนำผู้ป่วยเข้ารับบริการในคลินิก แย้มอยู่ระหว่างรอใบอนุญาตทำเด็กหลอดแก้ว 2 สาขาใหม่ พระราม 9 และอุบลราชธานี ส่งสัญญาณทิศทางธุรกิจ Q3 เติบโตดี (ที่มา ทันหุ้น)
(+) ITD (Bloomberg Consensus - บาท) “บอร์ดอิตาเลียนไทยฯ” อนุมัติเพิ่มทุน “เอพีพีซี โฮลดิ้ง” วงเงินกว่า 14,124 ล้านบาท ดึงพันธมิตรจีน SDIC SPV เข้าถือหุ้น 49.90% ส่วน ITD ถือ 50.10% ดีลจบภายในต้นปี 68 ก่อนเดินหน้า “โครงการเหมืองโปแตซอุดรใต้” กำลังผลิต 2.1 ล้านตันต่อปี (ที่มา ข่าวหุ้น)
(+) BCH (Bloomberg Consensus 21.00 บาท) ส่งซิกผู้ป่วยคูเวตฟื้นตัว! หลังเริ่มยื่นหนังสือเข้ามารักษาโรงพยาบาลในเครือมากขึ้น พร้อมมั่นใจติด 1 ใน 3 โรงพยาบาลเอกชนที่รัฐบาลคูเวตจะเลือกส่งผู้ป่วยเข้ามารักษา แม้ยังไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการ (ที่มา ข่าวหุ้น)