วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก CPI สหรัฐชะลอตัว

ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อ (CPI) ของสหรัฐ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางเงินเฟ้อ และอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ ส่งผลให้ SET Index ปิดตลาดที่ 1,468.52 จุด +11.55 จุด +0.79% มูลค่าการซื้อขาย 50,401.96 ลบ. Program Trading -430.13 ลบ. ต่างชาติ -1,603.88 ลบ. TFEX +28,263 สัญญา ตราสารหนี้ +392.01 ลบ.

ปัจจัยบวก  

+สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 2.61 ดอลลาร์ หรือ +3.56% ปิดที่ 75.85 ดอลลาร์/บาร์เรลหลังมีรายงานว่าการใช้เชื้อเพลิงในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอย่างมากก่อนที่พายุเฮอร์ริเคนมิลตัน (Milton) จะเคลื่อนตัวผ่านรัฐฟลอริดา และแรงหนุนจากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่าอุปสงค์พลังงานจะเพิ่มขึ้นในจีนและสหรัฐฯ รัฐบาลจีนได้ออกมาตรการสนับสนุนการพัฒนาภาคเอกชน
+ผู้จัดการตลท.คาดวอลุ่มเฉลี่ยปี 67 กลับมาแตะ 5-6 หมื่นล้านบาทผ่าน "วายุภักษ์-กองทุน ThaiESG" ได้รับอานิสงส์จากกองทุนสถาบันแรงหนุนหุ้นไทยท้ายปี เตรียมแผนเพิ่มสัดส่วนสถาบันผ่านรูปแบบกองทุนใหม่ ด้านต่างชาติกลับมาซื้อหุ้นไทยสูงสุดรอบ 22 เดือน จับตาเดือนพ.ย. MSCI กลับมาเพิ่มน้ำหนักหุ้นไทย
+กรมทางหลวงชนบทเปิดเผยว่า ในปี 68 ได้รับจัดสรรงบประมาณกว่า 5 หมื่นล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ 2567 ที่ได้รับประมาณ 4.7 หมื่นล้านบาท
+สำนักงานเศรษฐกิจการคลังเปิดเผยผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลดีขึ้น รายได้ที่จัดเก็บต่ำกว่าประมาณการลดลงต่อเนื่อง จากเคยต่ำกว่าประมาณการ 2.7% ในช่วง 7 เดือนแรกของปีงบประมาณ เหลือเพียง 0.7% ในช่วง 11 เดือนแรกของปีงบประมาณ กระทรวงการคลังจึงมีความมั่นใจว่าจะสามารถจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิปีงบประมาณนี้ได้ตามเป้าหมายแน่นอน ทั้งนี้ ช่วง 11 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2567 (ตุลาคม 2566-สิงหาคม 2567) รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 2.45 ล้านล้านบาท 

ปัจจัยลบ 

 

-ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 57.88 จุด หรือ -0.14% หลังสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อและตัวเลขคนว่างงานที่สูงกว่าคาด ขณะที่นักลงทุนจับตารายงาน ผลประกอบการ 3Q67 ของธนาคารรายใหญ่ในวันนี้
-สหรัฐเปิดเผยว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ปรับตัวขึ้น 2.4%YoY ในเดือนก.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 2.3%YoY ดัชนี CPI ปรับตัวขึ้น 0.2%MoM สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.1%MoM ซึ่งจะมีผลให้คาดการณ์ลดลงที่ FED จะลดดอกเบี้ย 0.50%
-สหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก พุ่งขึ้น 33,000 ราย สู่ระดับ 258,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ วันที่ 5 ส.ค.2566 และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 230,000 ราย
-ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ใน วันที่ 16 ต.ค.67 ยังมีมติไม่เป็นเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 2.50% ต่อเนื่องมองความเป็นไปได้ว่า กนง.อาจเริ่มปรับลดดอกเบี้ยอย่างเร็วสุดในเดือน ธ.ค.67

แนวโน้มตลาดวันนี้    

คาดดัชนีในวันนี้เคลื่อนไหว Sideway โดยได้แรงหนุนจาก CPI สหรัฐที่ปรับตัวลงสู่ 2.4% และราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นจากความกังวลเรื่องสงครามในตะวันออกกลาง อย่างไรก็ตามยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐที่ปรับตัวขึ้นและ Fund Flow ที่ไหลออกจาดไทยเป็นปัจจัยกดดันต่อดัชนี มองกรอบดัชนี 1,460-1,475 จุด

กลยุทธ์การลงทุน     

• หุ้นได้ประโยชน์จากการซ่อมแซมหลังน้ำลด : TASCO DOHOME GLOBAL HMPRO DCC DRT TOA DPAINT
• สินค้าส่งออกเดือนส.ค.ที่ยังเติบโต : ITC AAI STA NER TEGH GFPT FM
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากแผนลงทุน Data Center : WHA ADVANC GULF TRUE INSET
• กกพ. เปิดประมูลพลังงานทดแทนรวม 2,180 MW (ลม 600 MW และแสงอาทิตย์ 1,580 MW) : GUNKUL SSP GULF BGRIM GPSC

 

หุ้นรายงานพิเศษ  

SISB -  "ซื้อ" Bloomberg consensus 44 บาท
"Consensus คาดกำไร 3Q67 เติบโต QoQ และ YoY"

•2Q67 บริษัทมีรายได้จากการให้บริการการศึกษา 559 ลบ. ทรงตัว QoQ และ +32%YoY จากจำนวนนักเรียนที่เพิ่มขึ้นทั้งนักเรียนไทยและนักเรียนต่างชาติ ประกอบกับ การปรับขึ้นค่าธรรมเนียมการศึกษาราว 3% อัตรากำไรขั้นต้น 56% เพิ่มขึ้นจาก 55% ใน 1Q67 แต่ลดลงจาก 57% ใน 2Q66 เนื่องจากบริษัทปรับผลตอบแทนให้บุคคลากรทางการศึกษา และมีการรับบุคคลากรทางการศึกษาเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับการเปิดการเรียนของโรงเรียนสาขาเดิมและสาขาใหม่ ขณะที่ SG&A +4%QoQ +25%YoY จากค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการรับพนักงานเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับโรงเรียนสาขาใหม่ ส่งผลให้มีกำไรสุทธิ 210 ลบ. -1%QoQ +35%YoY คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 38% ทรงตัวใน 1Q67 และ เพิ่มขึ้นจาก 37% ใน 2Q66 โดยกำไรสุทธิ 1H67 เท่ากับ 422 ลบ. +34%YoY

•ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อผลประกอบการช่วง 2H67 โดยเป็นช่วงเริ่มปีการศึกษาใหม่ที่จะรับรู้รายได้ในช่วงกลางไตรมาส 3 ถึงช่วงปลายไตรมาส 4 คาดจำนวนนักเรียนเดิมที่เลื่อนชั้นการศึกษา จะทำให้สามารถเก็บค่าธรรมเนียมได้มากขึ้น ขณะที่แนวโน้มจำนวนนักเรียนยังคงอยู่ในทิศทางเติบโต บริษัทตั้งเป้าสิ้นปี 67 มีจำนวนนักเรียน 4,600 คน สอดคล้องกับการขยายสาขาเพื่อรองรับจำนวนนักเรียนที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับการปรับขึ้นค่าธรรมเนียมราว 5% เป็นปัจจัยหนุนการเติบโตของรายได้ โดย Bloomberg consensus คาดกำไรสุทธิ 3Q67 เฉลี่ย 222 ลบ. +6%QoQ +73%YoY และปี 67 เฉลี่ย 913 ลบ. +40%YoY กำไรช่วง 1H67 คิดเป็น 46% ของประมาณการ ราคาเหมาะสม 44 บาท มี Upside ราว 25% เราจึงแนะนำ "ซื้อ"

หุ้นมีข่าว

(+) SPALI (ราคาเหมาะสม 20.30 บาท) ฟุ้งไตรมาส 4/2567 ยอดขายนิวไฮ หนุนจากโครงการใหม่แนวสูง-เศรษฐกิจฟื้นตัว พร้อมเดินหน้าปั้นคอนโดใหม่ปลายปีนี้อีก 5.8 พันล้านบาท เสริมพอร์ต โกยเงินเพิ่ม แถมเปรยปีหน้าเปิดคอนโดให้มากขึ้น จากปี 2566 หลังดีมานด์ขยายตัวต่อเนื่อง (ที่มา ทันหุ้น)

(+) HMPRO (Bloomberg Consensus 12.85 บาท) ทุ่มงบลงทุน 115 ล้านบาท เปิด "โฮมโปร x เมกาโฮม แม่สอด" โมเดลไฮบริดสโตร์ สาขาที่ 6 บนพื้นที่ทำเลทอง เพื่อรองรับกำลังซื้อผู้บริโภคเขตเศรษฐกิจพิเศษฝั่งไทย และชายแดนเมียวดี ด้วยศูนย์กลางความครบ คุ้ม เรื่องบ้านและงานช่าง พร้อมอัดแคมเปญและโปรโมชันพิเศษหนักขนาด คาดสร้างยอดขายได้ไม่ต่ำกว่า 45 ล้านบาทต่อเดือน (ที่มา ทันหุ้น)

(+) AHC (Bloomberg Consensus 21.00 บาท) “โรงพยาบาลเอกชล” หรือ AHC ยกระดับการบริการ พร้อมก้าวสู่ผู้นำด้านการดูแลสุขภาพแบบครบวงจรในภาคตะวันออก ชูกลยุทธ์ Lifestyle Healthcare มุ่งเน้นการป้องกันและดูแลสุขภาพครอบคลุมผู้ใช้บริการทุกกลุ่ม เริ่มเปิดตัว 5 Business Unit ใหม่ อาทิ Genetic Testing, Weight Management, Sleep Test, Pride Clinic และ Plastic Surgery ตอบโจทย์เทรนด์รักสุขภาพ หวังขยายฐานลูกค้ากลุ่ม Gen Y ถึง Z ขับเคลื่อนการเติบโตทางธุรกิจ (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) SIRI (Bloomberg Consensus 2.10 บาท) ทุ่มงบลงทุนกว่า 15,000 ล้านบาท ปั้น "Sansiri Phuket และ The Society" ในทำเลบางเทา-เชิงทะเล เป็น Strategic Location คอมมูนิตี้ฮับใหม่ ภายในเป้าหมายระยะเวลา 5 ปี มุ่งสู่การเป็น Global Brand (ที่มา ข่าวหุ้น)