วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก Sideway

อย่างไรก็ตามความขัดแย้งในภูมิภาคตะวันออกกลางที่ทวีความรุนแรงขึ้น เป็นปัจจัยกดดันดัชนีปรับตัวขึ้น ได้อย่างจำกัด ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,470.10 จุด +1.58 จุด +0.11% มูลค่าการซื้อขาย 60,173.24 ลบ. (ในสัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนี +25.85 จุด +1.79%) Program Trading -446.55 ลบ. ต่างชาติ -1,164.79 ลบ. TFEX +2,909 สัญญา ตราสารหนี้ -1,219.94 ลบ.

ปัจจัยบวก    

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 201.36 จุด หรือ +0.47% โดยดัชนีดาวโจนส์ปิดบวกเหนือระดับ 43,000 จุดเป็นครั้งแรก เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีก่อนเปิดเผยผลประกอบการและข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ ในสัปดาห์นี้ ขณะที่การซื้อขายเบาบางเนื่องจากตลาดพันธบัตรสหรัฐฯ ปิดทำการเนื่องในวันโคลัมบัส (Columbus Day)
+ องค์การการค้าโลก (WTO) ปรับเพิ่มคาดการณ์ปริมาณการค้าโลกในปี 2567 เป็นเพิ่มขึ้น 2.7% จากเดิม 2.6% พร้อมคาดการณ์ว่าการค้าโลกมีแนวโน้มขยายตัว 3% ในปี 2568 หากสามารถควบคุมความขัดแย้งในตะวันออกกลางได้
+ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะปรับลด อัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 17 ต.ค. ซึ่งจะเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 3 ในปีนี้ หลังจากความเสี่ยงจากเงินเฟ้อผ่อนคลายลงเร็วกว่าที่คาดไว้
+ จีนเตรียมยกระดับการสนับสนุนทางการเงินแก่บริษัทต่าง ๆ โดยกำหนดให้ความน่าเชื่อถือด้านคุณภาพเป็นหนึ่งในเกณฑ์การตัดสินใจให้สินเชื่อด้วย
+ ธนาคารกลางจีน (PBOC) อัดฉีดเงิน 1.95 หมื่นล้านหยวน (2.76 พันล้านดอลลาร์) ผ่านทางข้อตกลง reverse repos ประเภทอายุ 7 วัน โดยกำหนดอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 1.5%

ปัจจัยลบ

- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 1.73 ดอลลาร์ หรือ -2.29% ปิดที่ 73.83 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ประกาศปรับลดตัวเลขคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันทั้งในปีนี้และปีหน้า

- โอเปคคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันขยายตัว 1.9 ล้านบาร์เรล/วันในปีนี้ ลดลงจากระดับ 2 ล้านบาร์เรล/วัน
- สำนักข่าวกลางเกาหลี (KCNA) รายงาน ว่า คิม โยจอง น้องสาวของ นายคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ กล่าวเตือนว่าเกาหลีใต้จะต้องเผชิญกับหายนะ หากพบว่ามีโดรนของเกาหลีใต้บินอยู่เหนือกรุงเปียงยาง
- อิสราเอลสั่งให้ชาวเลบานอนอพยพออกจากเมืองต่างๆ ทางภาคใต้ของประเทศ และได้โจมตีพื้นที่ทางตอนเหนือของประเทศ ขณะที่เจ้าหน้าที่รักษาสันติภาพของสหประชาชาติ (UN) ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ ความขัดแย้งที่ทวีความรุนแรงระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ในเลบานอน

แนวโน้มตลาดวันนี้    

คาดดัชนีในวันนี้มียังแกว่งตัวในลักษณะ Sideway ออกข้าง โดยยังขาดปัจจัยใหม่เข้าหนุนตลาด ขณะที่ราคาน้ำมัน WTI ที่ปรับตัวลงแรง หลังกลุ่มโอเปคประกาศปรับลดตัวเลขคาดการณ์อุปสงค์น้ำมัน ยังกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน มองกรอบดัชนี 1,465-1,475 จุด

กลยุทธ์การลงทุน      

• หุ้นได้ประโยชน์จากการซ่อมแซมหลังน้ำลด : TASCO DOHOME GLOBAL HMPRO DCC DRT TOA DPAINT
• สินค้าส่งออกเดือนส.ค.ที่ยังเติบโต : ITC AAI STA NER TEGH GFPT FM
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากแผนลงทุน Data Center : WHA ADVANC GULF TRUE INSET
• กกพ. เปิดประมูลพลังงานทดแทนรวม 2,180 MW (ลม 600 MW และแสงอาทิตย์ 1,580 MW) : GUNKUL SSP GULF BGRIM GPSC

 

 

 

หุ้นรายงานพิเศษ  

MEDEZE : บริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
SET / HELTH (ราคา IPO 9 บาท)
ราคาเหมาะสม 11.40 บาท (Consensus 11.20-12.60 บาท)  

•MEDEZE เป็นผู้ให้บริการตรวจวิเคราะห์ คัดแยก เพาะเลี้ยง และรับฝากเซลล์ต้นกำเนิด (Stem Cells) และตรวจศักยภาพ เซลล์ภูมิคุ้มกัน (NK Cells) โครงสร้างรายได้มาจากการจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิดที่เก็บจากเลือดสายสะดือ 10% การจัดเก็บ เซลล์ต้นกำเนิดที่เก็บจากเนื้อเยื่อสายสะดือ 54% การจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิดที่เก็บจากเนื้อเยื่อไขมัน 17% และบริการทดสอบศักยภาพเซลล์ภูมิคุ้มกัน 16%

•รายได้มีอัตราการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) ระหว่างปี 2564 – 2566 เท่ากับ 25%ต่อปี กำไรสุทธิในปี 2566 เท่ากับ 239 ล้านบาท +63%YoY งวด 6M67 มีรายได้ 404 ล้านบาท +22%YoY และกำไรสุทธิ 146 ล้านบาท +27%YoY จากรายได้จากการให้บริการเซลล์ต้นกำเนิดเนื้อเยื่อสายสะดือและบริการเพิ่มเซลล์ต้นกำเนิดสำหรับเนื้อเยื่อไขมันที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องและการเริ่มธุรกิจใหม่ ในบริการรับฝากเซลล์ต้นกำเนิดจากเซลล์รากผม

•จำนวนหุ้น IPO 268 ล้านหุ้น Par หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 2,412 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 9,612 ล้านบาท ราคา IPO คิดเป็น historical P/E 35.6x เทียบกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 29.2x วัตถุประสงค์ระดมทุนเพื่อขยายธุรกิจเซลล์รากผม ลงทุนติดตั้งระบบจัดเก็บเซลล์ด้วยหุ่นยนต์ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ

  *บล.โกลเบล็กเป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้ซึ่งจะได้รับค่าธรรมเนียมในฐานะผู้จัดจำหน่าย

หุ้นมีข่าว

(+) GIFT (Bloomberg Consensus 20.30 บาท) เข้าช่วงไฮซีซัน หนุนโค้งท้ายฟอร์มสวย พร้อมย้ำปี 2567 ยืนเป้ารายได้ทะยานแตะ 2.5 พันล้านบาท รับฐานไอทีสดใส-ได้กลุ่มอาหารเสริม แถมอานิสงส์แจกเงินดิจิทัลในรูปแบบเงินสดในกลุ่มเปราะบาง 1 หมื่นบาท ชี้ช่วยหนุนยอดขายพุ่ง (ที่มา ทันหุ้น)

(+) SAV (Bloomberg Consensus 26.13 บาท) รับอานิสงส์ท่องเที่ยวกัมพูชาบูม แอร์เอเชียกัมพูชาเพิ่มเที่ยวบินระหว่างประเทศไตรมาส 3/2567 ต่อเนื่องไตรมาส 4/2567 หนุนรายได้ครึ่งหลังปี 2567 เติบโตโดดเด่น ทั้งยังรับรู้รายได้เต็มปีในปี 2568 ลั่นรุกธุรกิจจำหน่ายสินค้าและให้บริการเพื่อรองรับการปฏิบัติงานและการให้บริการแก่ผู้โดยสาร ณ ท่าอากาศยาน (ที่มา ทันหุ้น)

(+) LH (Bloomberg Consensus 6.50 บาท) ลั่นตลาดเชียงใหม่ศักยภาพสูงเป็นอันดับหนึ่งของภาคเหนือ โดยไตรมาส 4/67 มีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ในเชียงใหม่ 1 โครงการ “มัณฑนา 2” ในพื้นที่โครงการ ซีรีน เลค เชียงใหม่ เป็นโครงการบ้านเดี่ยวระดับราคา 15-50 ล้านบาท จำนวน 90 ยูนิต บนพื้นที่ขนาด 45 ไร่ มูลค่าโครงการรวม 2,000 ล้านบาท(ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) RJH (Bloomberg Consensus 25.90 บาท) ไฟเขียวทุ่มงบไม่เกิน 420 ล้านบาท ซื้อหุ้นคืน ไม่เกิน 18 ล้านหุ้น คิดเป็น 6% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด กำหนดระยะเวลาซื้อตั้งแต่วันที่ 15 พ.ย. 67–30 เม.ย. 68 เพื่อเพิ่ม ROE เพิ่มอัตรากำไรต่อหุ้น ทำให้ราคาหุ้นในอนาคตสะท้อนมูลค่าที่แท้จริงของบริษัท และเพื่อให้ผู้ถือหุ้นจะได้รับเงินปันผลต่อหุ้นสูงขึ้น(ที่มา ข่าวหุ้น)