วิเคราะห์หุ้น : บล.เคจีไอฯ Bank Sector แผนกลับเข้าตลาดของ THAI ทำให้ BBL และ KTB มี upside
THAI ได้เผยแพร่รายงานของที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ (IFA) เพื่อเตรียมออกจากแผนฟื้นฟู และ กลับเข้ามาจดทะเบียนใน SET ซึ่งเรามองว่าจะทำให้เจ้าหนี้ของ THAI มีอัพไซด์
โดยเฉพาะ BBL และ KTB ซึ่งเป็นเจ้าหนี้สถาบันการเงินรายใหญ่ ทั้งนี้ จากข้อมูลเจ้าหนี้ของ THAI ซึ่งมีการแบ่งออกเป็นทั้งหมด 36 กลุ่ม มียอดหนี้คงค้างรวม 4.04 แสนล้านบาท BBL และ KTB ถูกจัดเป็นเจ้าหนี้หลักกลุ่มที่ 6 ซึ่งมียอดหนี้คงค้างรวมประมาณ 3.1 หมื่นล้านบาท และ เนื่องจากหนี้ของเจ้าหนี้กลุ่มที่ 6 ถูกจัดชั้นเป็นหนี้ปลอดหลักประกัน เราจึงมองว่าว่าทั้ง BBL และ KTB ได้มีการตั้งสำรองฯ บางส่วนในหนี้ส่วนนี่แล้ว
ธนาคารได้รับหลายทางเลือกในการรับชำระหนี้
หลังจากที่ได้สัมภาษณ์ผู้บริหาร THAI ทำให้ทราบว่าธนาคารได้รับชำระหนี้จากการ THAI aอย่างสม่ำเสมอตั้งแต่เริ่มใช้แผนฟื้นฟูเมื่อ 5 ปีก่อน โดยบริษัทไม่ได้เปิดเผยอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ซึ่งตามแผนการออกจากการฟื้นฟู เจ้าหนี้ของ THAI (สถาบันการเงิน, ผู้ถือหุ้นกู้, กระทรวงการคลัง, รัฐวิสาหกิจ) ได้รับการชำระคืนหนี้ผ่านหลายรูปแบบ อาทิเช่น การบังคับแปลงหนี้เป็นทุน และ แปลงหนี้เป็นแบบสมัครใจที่ราคา 2.54 บาท (figure 2) และการยืดอายุหนี้ ทั้งนี้ เจ้าหนี้กลุ่มที่ 6 ถูกจัดกลุ่มใหม่ และ ได้รับทางเลือกหลายทางในการรับชำระหนี้ดังกล่าวข้างต้น และ การขยายระยะเวลาชำระหนี้สูงสุดเป็น 15 ปี โดยคิดดอกเบี้ย 1.5%
อัพไซด์ขึ้นอยู่กับการประเมินมูลค่าหุ้น THAI
ตามรายงานของ IFA ชี้ให้เห็นว่า BBL อยู่ในกลุ่มเจ้าหนี้ที่ต้องถูกบังคับแปลงหนี้เป็นทุน และ จะกลายมาเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นหลักที่ 6.8% (figure 3) และ อาจจะมีทางเลือกแปลงหนี้เป็นทุนตามความสมัครใจด้วย ในขณะที่ในรายงานของ IFA ยังประเมินมูลค่าหุ้น THAI ไว้ในช่วงกว้างระหว่าง 0-13 บาท/หุ้น ซึ่งหาก THAI กลับเข้ามาจดทะเบียนในตลาด และ ราคาหุ้นสูงกว่าราคาแปลงหนี้เป็นทุนจะทำให้ BBL และ KTB สามารถปลดสำรองออกมาได้ และ บันทึกกำไร FVTPL ทั้งนี้ เรายังคงชอบ BBL และ KTB มากกว่าหุ้นอื่นในกลุ่ม เพราะมีส่วนรองรับรายได้ และสามารถบริหารจัดการรายได้ที่อาจจะลดลงจากการที่ NIM ลดลงจากการลดดอกเบี้ยในปี 2568 ได้
Risks
NPLs เพิ่มขึ้น และ ตั้งสำรองเพิ่มขึ้น, รายได้ค่าธรรมเนียมลดลง, ผลขาดทุน FVTPL จากการลงทุน