กลยุทธ์การลงทุนรายสัปดาห์ : บล.เคจีไอฯ ตลาดน่าจะพักตัว หลังจากที่วิ่งขึ้นมาแรงในช่วงก่อนหน้านี้

ปัจจัยแรก คือ ถึงแม้ว่าภาวะของหุ้นกลุ่มหลักอย่างเช่นพลังงาน และ ธนาคารจะยังอยู่ในเชิงกลาง ๆ แต่
เราพบว่ามีแนวซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่ม ICT และ อิเล็กทรอนิกส์ซึ่งช่วยหนุนให้ตลาดขยับสูงขึ้น ในขณะที่หุ้นกลุ่มการบริโภคก็ฟื้นตัวได้ดี เพราะนักลงทุนคาดว่าจะมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาเพิ่มอีกในช่วงที่จะผ่านเข้าสู่ปีใหม่ 2568

ปัจจัยที่สอง คือกระแสข่าวการเมืองที่ฉุดภาวะตลาดในช่วงวันศุกร์ โดยมีรายงานข่าวจากสื่อในประเทศว่าคณะกรรมการการเลือกตั้งตกลงที่จะพิจารณาคำร้องว่าคุณทักษิณ ชินวัตรครอบงำหรือชี้นำกิจการของพรรคเพื่อไทย

สำหรับในสัปดาห์นี้ (21-25 ตุลาคม) เราคาดว่าดัชนี SET น่าจะพักตัว โดยเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบจากเหตุผลดังต่อไปนี้

ข้อแรก ถึงแม้ว่าประเด็นใหม่ทางการเมืองที่กล่าวมาข้างต้นจะส่งผลกระทบจำกัดในระยะสั้น แต่ก็อาจจะทำให้แรงซื้อจากนักลงทุนสถาบันแผ่วลง และ กด upside ของตลาดหุ้นไทยเอาไว้

ข้อที่สอง ความตึงเครียดของสถานการณ์ในเชิงภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น หลังจากที่นายสีจิ้นผิง ผู้นำจีนสั่งการกองทัพให้เตรียมพร้อมสำหรับกรณีพิพาท ซึ่งเป็นสิ่งที่อยู่เหนือความคาดหมายถึงแม้จะไม่ได้มีการให้รายละเอียด แต่นักลงทุนส่วนใหญ่คาดว่านายสีน่าจะหมายถึงความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างจีน และ ไต้หวัน

 

ติดตามปาฐกถาของ Fed, กระแสข่าวการเมืองไทย และ ประเด็นภูมิรัฐศาสตร์

ปัจจัยต่างประเทศ: นักลงทุนควรติดตาม i) ปาฐกถาหลายชุดจากผู้บริหาร Fed ในสัปดาห์นี้ โดยคณะกรรมการ FOMC ส่วนใหญ่น่าจะส่งสัญญาณว่าจะเดินหน้าลดดอกเบี้ยต่ออีก แต่จะไม่ลดทีละมาก ๆ ii)
กระแสข่าวล่าสุดเกี่ยวกับความตึงเครียดระหว่างจีน-ไต้หวัน

ปัจจัยในประเทศ: นักลงทุนควรติดตาม i) ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปีนี้ และ ต้นปีหน้า ซึ่งรวมถึงมาตรการที่เกี่ยวข้องกับการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี และ การกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ

หุ้นกลุ่มที่น่าสนใจในเชิงเก็งกำไรยังคงเป็นกลุ่มสาธารณูปโภค และ การบิน ในขณะที่หุ้นหลักที่แนะนำให้ถือยังคงเป็นกลุ่มการบริโภค และ หุ้นที่มีผลประกอบการ 3Q67 มีแนวโน้มดี

เนื่องจากปัจจัยเชิงมหภาค และ การคัดหุ้นแบบบ top-down ยังไม่เปลี่ยนแปลงไปจากสัปดาห์ที่แล้ว เราจึงยังคงแนวคิดในการเก็งกำไร และ หุ้นหลักที่แนะนำเอาไว้เหมือนเดิม เรามองว่ากลุ่มสาธารณูปโภค อย่างเช่น BGRIM* และ GSPC* จะได้อานิสงส์จากเงินบาทที่ฟื้นตัวดี และ อัตราผลตอบแทนจากพันธบัตรไทยที่ลดลงอย่างมาก นอกจากนี้ กลุ่มการบิน อย่างเช่น AAV* น่าจะได้อานิสงส์จากราคาน้ำมันที่เริ่มทรงตัว และ การเข้าสู่ช่วง high season ของการท่องเที่ยว สำหรับหุ้นกลุ่มหลักที่เราแนะนำยังคงเป็นกลุ่มการบริโภค อย่างเช่น CPALL*, CPAXT, CBG* และ กลุ่มที่ผลประกอบการ 3Q67 มีแนวโน้มแข็งแกร่ง อย่างเช่น BH* และ TRUE*