วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ KKP - ปรับใช้รายได้จากธุรกิจตลาดทุนเป็นตัวนำหลักในการเติบโต

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ KKP - ปรับใช้รายได้จากธุรกิจตลาดทุนเป็นตัวนำหลักในการเติบโต

นอกจากการปรับนโยบายสินเชื่อเช่าซื้อ (H/P) แบบระมัดระวังนับตั้งแต่กลางปี 2566 เป็นตันมา ปัจจุบันนี้ ธนาคารยังขยายการใช้นโยบายสินเชื่อที่ระมัดระวังไปยังกลุ่มสินเชื่ออื่นๆ เช่น สินเชื่อธุรกิจและอสังหาริมทรัพย์

ขณะที่ สินเชื่อ H/P ลดลง 3% QoQ, 8.5% YTD และลดลง 11% จากจุดสูงสุดใน 2Q66 ทั้งนี้ธนาคารมองว่าบางธุรกิจประสบปัญหามากขึ้น โดยเฉพาะสินเชื่อโครงการอสังหา ฯและสินเชื่อบ้าน ซึ่งส่งผลให้ธนาคารจะเรียกคืนสินเชื่อแทนการดำเนินโครงการต่อไปอีก ด้วยเหตุนี้ทำให้การหดตัวของสินเชื่อขยายเป็นวงกว้างใน 3Q67 โดยลดลง 4% QoQ และ 7% YoY ทั้งนั้ เรามองว่าจากนี้ไป การขยายตัวของสินเชื่อจะหดตัวต่อเนื่องสู่ทุกกลุ่มสินเชื่อใน 4Q67 และปี 2568F โดยเฉพาะสินเชื่อ H/P ที่น่าจะมีขนาดพอร์ตสินเชื่อสูงขึ้นอยู่ราว 1.20 แสนล้านบาท (จากปัจจุบัน 1.71 แสนล้านบาท)

ราคารถยนต์มือสองยังคงไม่ฟื้นตัว รวมทั้ง LOS ยังคงสูงอยู่

การลดสินเชื่อ H/P เป็นความตั้งใจเพื่อลดผลขาดทุนจากการขายรถยึด (LOS) โดยการฟื้นตัวของราคารถยนต์มือสองยังคงเป็นความท้าทายไม่ว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวหรือไม่ก็ตาม ขณะที่ การเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างซึ่งดีมานด์การใช้ไปรถยนต์ EV และราคารถ EV เองก็น่าดึงดูดใจ ทำให้ความต้องการรถที่ไม่ใช่ EV น้อยลง ดังนั้น ราคารถมือสองอาจอยู่ในระดับต่ำ และกินเวลานานหรือเป็นภาพถาวร ทั้งนี้ในระยะสั้น ราคารถยนต์มือสองใน 4Q67 ยังคงไม่อาจคาดการณ์ได้เพราะอาจมีรถยึดคงค้างจากทั้งธนาคารและผู้ให้บริการที่ไม่ใช่ธนาคารอื่น ๆ เพื่อล้างสต๊อกรถยึดดึงให้ราคาต่ำลงอีก ในส่วนของ KKP ธนาคารแนะว่ารถยนต์มือสองคงค้างของธนาคารนั้นยังต่ำเนื่องจากช่วงที่ผ่านเพราะได้มีการขายออกไปมากแล้ว เพื่อลดความเสี่ยงของการขายในปลายปี ทำให้คาดว่าผลขาดทุน LOS ไม่น่าจะเพิ่มขึ้นอีกใน 4Q67F

 

 

 

รายได้จากตลาดทุนเพิ่มขึ้น

KKP มีรายได้จากตลาดทุนแข็งแกร่งใน 3Q67 โดยเฉพาะค่าธรรมเนียมนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์และ
ค่าธรรมเนียม IB จากการจัดสรรหุ้นและค่าธรรมเนียมจาก wealth management ธนาคารเผยว่ามีสินทรัพย์
ภายใต้การจัดการ (AUM) ปีนี้เติบโตเกือบ 20% และยังมีการทำ share placement ในตลาดรองอีกหลาย
รายการในมือ ซึ่งน่าจะหนุนให้ค่าธรรมเนียมตลาดทุนแข็งแกร่งขึ้นใน 4Q67F

ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2567F/2568F ขึ้น 9%/4% และขยับไปใช้ราคาเป้าหมายปี 2568F ที่ 54.50 บาท โดยคงคำแนะนำถือ

การปรับประมาณการกำไรของเราสะท้อนถึง 1) ค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ที่สูงขึ้นจากการเติบโตของตลาดทุน
และกำไรจาการเทรดเพิ่มขึ้น 23% และ 10% ในปี 2567F และ 2568F ตามลำดับ (จากที่เพิ่ม 10% และ 2%
ในการคาดการณ์ก่อนหน้า) 2) ปรับลดการขยายตัวสินเชื่อลง 7% และ 5% (จาก 4% และ 0%) ทั้งนี้ เรา
rollover ไปใช้ PBV ที่ 0.7x ทำให้ได้ราคาเป้าหมายใหม่ปี 2568F ที่ 54.50 บาท โดยคงคำแนะนำถือ

Risks

ผลขาดทุนมากขึ้นจากการขายรถที่ยึดมาและรายได้จากค่าธรรมเนียมลดลง

 

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ KKP - ปรับใช้รายได้จากธุรกิจตลาดทุนเป็นตัวนำหลักในการเติบโต

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ KKP - ปรับใช้รายได้จากธุรกิจตลาดทุนเป็นตัวนำหลักในการเติบโต

 

 

 

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ KKP - ปรับใช้รายได้จากธุรกิจตลาดทุนเป็นตัวนำหลักในการเติบโต

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ KKP - ปรับใช้รายได้จากธุรกิจตลาดทุนเป็นตัวนำหลักในการเติบโต