วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก Rebound
วันอังคารที่ผ่านมาดัชนีเคลื่อนไหว Sideway Down โดยหลักมาจากแรงขายกดดันในหุ้น DELTA และ PTT ขณะที่มีแรงซื้อนำโดยหุ้น TRUE จากคาดการณ์ผลประกอบการ 4Q67 ปรับตัวดีขึ้น
อย่างไรก็ตามนักลงทุน จับตาการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐในสัปดาห์นี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,340.25 จุด -14.09 จุด -1.04% มูลค่าการซื้อขาย 56,434.55 ลบ. Program Trading -2,130.5 ลบ. ต่างชาติ -2,187.2 ลบ. TFEX -9,719 สัญญา ตราสารหนี้ -1,387.7 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 221.16 จุด หรือ +0.52% หลังสหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ต่ำกว่าคาด อย่างไรก็ดี ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน โดย S&P500 ขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย และ ดัชนี Nasdaq ปิดลบ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับแนวโน้มเงินเฟ้อและทิศทาง อัตราดอกเบี้ยของ FED
+ สหรัฐฯ เปิดเผยว่าดัชนี PPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่าย ของผู้ผลิต ปรับตัวขึ้น 3.3%YoY ในเดือนธ.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.5%YoY หลังจากปรับตัวขึ้น 3%YoY ในเดือนพ.ย.
+ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่า ข้อตกลงที่จะยุติสงครามใน ฉนวนกาซาพร้อมบังคับใช้แล้ว หากกลุ่มฮามาสเห็นพ้อง
+กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยถึงแผนกิจกรรมส่งเสริม การส่งออกปี 68 ว่ากรมฯ ตั้งเป้าหมายเร่งผลักดันการส่งออกปีนี้ให้โต ไม่ต่ำกว่า 2-3%
ปัจจัยลบ
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 1.32 ดอลลาร์ หรือ -1.67% ปิดที่ 77.50 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (EIA) คงตัวเลขคาดการณ์อุปสงค์น้ำมัน และปรับเพิ่มคาดการณ์อุปทานน้ำมันของสหรัฐฯ ในปีนี้
- ทีมเศรษฐกิจของโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กำลังหารือกันเกี่ยวกับการปรับขึ้นภาษีอย่างช้า ๆ แบบเดือนต่อเดือนแบบค่อยเป็น ค่อยไปมีเป้าหมายที่จะเพิ่มอำนาจในการเจรจาต่อรอง
- เวียดนามและรัสเซียประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญในการลงนามข้อตกลงด้านพลังงานนิวเคลียร์และความร่วมมือหลายด้าน ระหว่าง เยือนกรุงฮานอยของมีฮาอิล มีชุสติน นายกรัฐมนตรีรัสเซีย
-มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (Consumer Confidence Index : CCI) ประจำเดือนธันวาคม 2567 อยู่ที่ระดับ 57.9 ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ได้รับผลเชิงบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลและการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว ขณะที่ ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทยยังคงอยู่ที่ระดับ 48.7 ซึ่งต่ำกว่าเกณฑ์ 50 สะท้อนถึงความไม่มั่นใจในภาวะเศรษฐกิจ โดยเฉพาะใน ภาคการลงทุนเอกชนและการเกษตรที่ยังไม่โดดเด่น
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาส Rebound ระยะสั้น หลังปรับตัวลงแรงวันก่อน โดยมีแรงหนุนจากสหรัฐเปิดเผย PPI ต่ำกว่าคาด ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนี CPI ในวันนี้ เพื่อดูแนวโน้มเงินเฟ้อและทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด มองกรอบดัชนีที่ 1,330-1,350 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
• หุ้นที่ได้ประโยชน์โครงการ “คุณสู้ เราช่วย” : KBANK SCB BBL TTB
• หุ้น ESG ดีเยี่ยม : ADVANC GULF BBL BEM RATCH CPN
• หุ้นได้ประโยชน์ Easy-E receipt : CRC COM7 ERW CENTEL MINT M AU TNP SIS SYNEX IP HL
• หุ้นเด่น IAA : AOT ADVANC BDMS CPALL
• Chat with Tony : VGI BTS BEM GULF INTUCH
หุ้นรายงานพิเศษ
ARROW ("ซื้อ" ราคาเหมาะสมปี 25 เท่ากับ 6.40 บาท)
"ต้นทุนวัตถุดิบเหล็กลดหนุนอัตรากำไรขั้นต้น"
•คาดแนวโน้มผลประกอบการ 4Q24 ขยายตัวต่อเนื่อง โดยลูกค้าที่ชะลอคำสั่งซื้อสินค้า ในงวด 3Q24 คาดว่าจะมารับรู้ในไตรมาสนี้ ขณะที่ผลประกอบการปี 25 คาดได้แรงหนุน จากโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของภาครัฐที่รอประมูล เช่น โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้และสายสีส้มด้านตะวันตก โครงการสนามบินอู่ตะเภาส่วนต่อขยาย และโครงการก่อสร้างศูนย์ราชการกระทรวงมหาดไทย เป็นต้น เราคงประมาณกำไรสุทธิปี 24-25 เท่ากับ 117.8 ล้านบาท และ 126.8 ล้านบาท เติบโต +37.5%YoY และ +6.8%YoY ตามลำดับ
•ความเห็น เราเริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัวของอุตสาหกรรมก่อสร้าง ตามการเบิกจ่ายงบประมาณของรัฐบาล เราประเมินราคาเหมาะสมอิง PER ที่ 13 เท่า (ค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปี) และประมาณการ EPS อยู่ที่ 0.49 บาท ได้ราคาเหมาะสมปี 25 ที่ 6.40 บาท คงแนะนำ “ซื้อ”
หุ้นมีข่าว
(+) BEM (Bloomberg Consensus 11.14 บาท) ลั่นพร้อมร่วมโครงการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย หวังปริมาณผู้โดยสารเติบโตอัตราเร่ง จากประมาณการผู้โดยสารเฉลี่ยทั้งปี 2568 ที่ 4.8-4.9 แสนคน-เที่ยว ทั้งรายได้จากธุรกิจพัฒนาเชิงพาณิชย์ เติบโตทั้งรายได้โฆษณา ให้เช่าพื้นที่ หนุนรายได้ทั้งปี 2568 พุ่งทำสถิติสูงสุดใหม่อีกปี ลุ้นโครงการทางด่วน Double Deck, งานจัดหาขบวนรถไฟฟ้าสายสีม่วง ส่วนต่อขยายชัดเจนปีนี้ (ที่มา ทันหุ้น)
(+) TMAN (Bloomberg Consensus 26.00 บาท) เล็งรับอานิสงส์รัฐบาลหนุนใช้ยาไทยแทนนำเข้า มั่นใจผู้ประกอบการในประเทศมาตรฐานสูง พร้อมเผยเป้าปี 2568 โตต่อเนื่อง 10-15% งบแย้ม Q4/2567 เป็นไปตามแผน หนุนทั้งปี 2567 แนวโน้มสดใส ส่วน Propoliz Plus ที่ได้ขึ้นทะเบียนยาปัจจุบัน เดินลุยทำตลาดได้เดือนมกราคม 2568 (ที่มา ทันหุ้น)
(+) TISCO (Bloomberg Consensus 100.00 บาท) วางเป้าสินเชื่อปี 2568 ขยายตัว 0-5% เดินเกมรุกสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ใหม่ คาดขยายตัว 15% ลั่นคุม NPL ให้ไม่เกิน 3% ขณะที่มาตรการ แก้หนี้ "คุณสู้ เราช่วย" จะมี บทบาทสำคัญในการบรรเทาภาระหนี้ของกลุ่มเปราะบาง ซึ่ง TISCO มีผู้ลงทะเบียน 7,000-8,000 คน ส่วนปี 2567 มีกำไร 6.9 พันล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)
(+) SGC (Bloomberg Consensus 1.95 บาท) ผยปี 2568 คืนฟอร์มเต็มรูปแบบ ธุรกิจสินเชื่อ Lock Phone ภายใต้โครงการ SG Finance+ ยังคงเป็นไฮไลต์ของปีนี้ ขณะที่ Q4/67 ยอดปล่อยสินเชื่อทำจุดสูงสุดรับไฮซีซันสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ทยอยเปิดตัว แย้มปีนี้เพิ่มพันธมิตรแบรนด์ใหม่ ส่วนกระแสข่าวแอปเงินกู้ที่ติดมากับสมาร์ทโฟนนั้นยืนยันไม่เกี่ยวข้องกับบริษัท โดยสินเชื่อของ SG Finance+ ต้องได้รับความยินยอมจากผู้ซื้อสมาร์ทโฟนในการทำรายการเท่านั้น ย้ำไร้ผลกระทบจากข่าวดังกล่าว (ที่มา ทันหุ้น)