เรื่องวุ่นๆ ที่ยังไม่จบของตลาดคริปโทฯ FTX
แน่นอนว่าตอนนี้ผมเชื่อว่าทุกๆ ท่าน ที่อ่านหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจอยู่ตอนนี้ น่าจะได้ยินข่าวของการล่มสลายของตลาดซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีอันดับ 2 ของโลกที่มีชื่อว่า FTX
ตอนที่การล่มสลายเกิดขึ้นนั้น มีคนเข้ามาสอบถามผมเป็นการส่วนตัวค่อนข้างมาก ผมเองก็ค่อนข้างตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น และตอนแรกไม่คิดว่าคนอย่างแซม แบงค์แมน ฟรีด์ (Sam Bankman-Fried) CEO และผู้ก่อตั้งตลาดซื้อขายคริปโทฯ FTX เขาเรียนจบจากมหาวิทยาลัยสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ หรือ เอ็มไอที ก่อนที่จะเริ่มทำงานที่บริษัทจัดการกองทุนอย่าง เจน สตรีท
ก่อนจะมาก่อตั้งบริษัทจัดการกองทุนคริปโทฯ อย่าง อาลาเมด้า รีเสิร์ช (Alameda Research) และกระดานเทรดคริปโทฯ อย่าง FTX เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นตั้งแต่รายงานงบการเงินของแพลตฟอร์มกองทุน อาลาเมด้า รีเสิร์ช (Alameda Research) ที่มีเจ้าของเป็น FTX
และมีอดีตแฟนสาวของแซมอย่าง แคโรไลน์ เอลลิสัน (Caroline Ellison) เป็น CEO จนไปถึงการยื่นล้มละลายของแพลตฟอร์ม FTX ผมจะไม่ได้พูดถึงในบทความนี้ แต่บทความนี้จะเน้นไปที่สิ่งที่คนส่วนใหญ่อาจจะยังอ่านไม่เจอ และเรื่องราวหลังจากนั้นครับ
พอ FTX ตัดสินใจปลดแซมออกจากการเป็นผู้จัดการใหญ่ของบริษัท ก็ได้จ้างจอห์น เรย์ ที่สาม (John Ray III) ซึ่งเขาได้รายงานผลจากการเข้ามาตรวจสอบบริษัท และผลการดำเนินงาน เขาได้รายงานว่า
“ในชีวิตการทำงานของเขา เขาไม่เคยได้เห็นการล้มเหลวที่สมบูรณ์แบบ และการหายไปของข้อมูลทางการเงินที่เชื่อถือได้ และการควบคุมการทำงานในมือเพียงไม่กี่คนที่ไม่มีประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญใดๆ เลย”
ซึ่งจอห์น เรย์ ก็เป็นคนที่เข้ามาตรวจสอบการล้มสลายของบริษัทเอนรอนตอนปี 2544 มีตัวเลขหนึ่งที่ท่านผู้อ่านควรทราบตอนที่บริษัทเอนรอนล้มมีหนี้สินที่ประมาณ 2 หมื่น 3 พันล้านดอลลาร์ แต่ตอนที่ FTX ล้มมีหนี้สินถึง 5 หมื่นล้านดอลลาร์ ในรีพอร์ตนั้นมีข้อที่น่าสนใจอยู่หลายข้อเลย ซึ่งผมจะมาสรุปในบทความนี้
- เรื่องแรก FTX ไม่รู้ว่ามีพนักงานอยู่ในบริษัทกี่คน ทั้งไม่รู้แม้กระทั่งข้อมูลของที่อยู่ของพนักงาน หรือ จะติดต่อพนักงานคนนั้นอย่างไร
- ข้อที่สอง เวลาพนักงานจะเบิกเงินของบริษัทนั้น สามารถเบิกผ่านแชตของบริษัทได้ ซึ่งนายจ้างจะอนุมัติหรือไม่อนุมัติผ่านไอคอนอีโมจิ
- ข้อที่สามทางอาลาเมด้าได้ปล่อยกู้ให้กับแซม 1 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการกู้ยืมส่วนตัวกับทางอาลาเมด้า นอกจากนั้นจาก 2 พันล้านดอลลาร์ ที่แซมระดมทุนมา แซมได้เอาเงิน 300 ล้านดอลลาร์ไปใช้จ่ายเองเป็นเงินส่วนตัว
- ข้อที่สี่ ในแชตของบริษัทนั้นได้มีการตั้งค่าให้สามารถลบแชตภายในระยะเวลาหนึ่ง
- ข้อที่ห้า FTX ที่เป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงถึง 3 หมื่น 2 พันล้านดอลลาร์ นั้นไม่เคยมีการประชุมบอร์ดมาก่อน
- ข้อที่หก บริษัทนั้นไม่ได้มีการทราบเลยว่าตอนนี้มีเงินสดอยู่ในมือมากน้อยเพียงใด หรือแม้แต่ว่าตอนนี้เงินสดอยู่ที่ไหนบ้าง ข้อที่เจ็ดผู้บริหารสูง และพนักงานได้เอาเงินของบริษัทไปซื้อบ้าน และอสังหาริมทรัพย์อื่นๆ และใช้ชื่อของตัวเองเป็นเจ้าของอสังหาฯ เหล่านั้น มีการรายงานว่าอสังหาริมทรัพย์เหล่านั้นได้จ่ายเงินด้วยเหรียญ FTT ครึ่งหนึ่ง และอีกครึ่งหนึ่งด้วยหุ้นของ FTX ด้วย
มีคำถามหนึ่งที่ผมคิดว่าอยู่ในใจของหลายๆ คนคือ ทำไมบริษัทที่เข้าไปลงทุนใน FTX ถึงกล้าเข้าไปลงทุนทั้งพวก Softbank Blackrock Sequoia Capital และ Temasek คำตอบคือ ว่าหลายๆ บริษัทไม่ได้สนใจตัวของ due diligence เลยหรือการตรวจสอบข้อมูลภายในของบริษัทแม้แต่อย่างใด
สิ่งที่แซมส่งไปให้กับนักลงทุนทั้งหลายคือไฟล์ excel ที่เต็มไปด้วยยอดขาย จำนวนผู้ใช้งานแพลตฟอร์มต่อวัน และค่าใช้จ่าย สิ่งที่ไม่ได้อยู่ในไฟล์นั้นคือ ตัวบริษัทของอาลาเมด้า รีเสิร์ช
และสิ่งที่ทำให้คนอยากมาลงทุนนั้นก็คือ การที่รีพอร์ตเขียนไว้ว่า FTX เติบโตจากตอนปี 2562 ที่ยอดขาย 15 ล้านดอลลาร์ตอนที่ก่อตั้ง จนไปเป็น 1 พันล้านดอลลาร์ตอนปี 2565 แต่ยอดขายนี้ไม่ได้มีคนมาตรวจสอบบัญชีเลย
ตอนนี้มีการสอบสวนหลายๆ คนที่อยู่ใน FTX และมีการรายงานว่าตอนนี้นักลงทุนหลายๆ คนอาจจะฟ้องแซมและ FTX ในเร็วๆ นี้ และอาจจะมีการให้การของแซมในเดือนธันวาคม นี้ มีแหล่งข่าวมาว่าทนายความ จอห์น ดีตั้น (John Deaton) กำลังจะสอบสวนความสัมพันธ์ระหว่าง แกรี่ เกนส์เลอร์ (Gary Gensler) ประธานของ SEC
ทางแกรี่ และแซม ได้รู้จักกันผ่านทางพ่อของอดีตแฟนสาวของแซมที่มีชื่อว่า เกล็น เอลลิสัน (Glenn Ellison) เพราะว่าทางเกล็นเคยเป็นหัวหน้าเก่าของแกรี่ช่วงที่ทั้งคู่สอนหนังสืออยู่ที่ MIT ซึ่งมีรายงานว่าทั้งคู่ได้โทรคุยกันช่วงเดือนมีนาคม ที่ผ่านมาเกี่ยวกับ แพลตฟอร์มใหม่ที่ทาง SEC จะอนุมัติ
ซึ่งหลายๆ คนที่รู้เรื่องนี้บอกว่าเป็นพฤติกรรมที่ผิดปกติอย่างยิ่ง มีการรายงานจากคนในสภาว่าแกรี่จะถูกสอบสวน และต้อนจนมุมจากทางคณะกรรมการไต่สวนอย่างแน่นอน การสอบสวนเรื่องคอร์รัปชันไม่หยุดเพียงเท่านี้สมาชิกวุฒิสภาของรัฐมิสซูรีอย่าง จอร์จ ฮาวลี่ย์ ก็อยากให้ทางสมาชิกใหญ่ของพรรคเดโมแครต
และโจ ไบเดน ส่งอีเมลทั้งหลายที่เกี่ยวข้องกับ อาลาเมด้า รีเสิร์ช และ FTX มาให้หมดด้วย เพื่อมาดูว่าจากการที่แซมบริจาคเงินทั้งหมด 50 ล้านดอลลาร์ ได้มีการปล่อยปละละเลยในกระดานเทรด FTX หรือไม่
คำถามคือ แล้วลูกค้าทั้งหลายของ FTX จะได้เงินคืนไหม? คำตอบคือ ลูกค้าทั้งหลายต้องรวมตัวกัน และไปต่อแถวกับเจ้าหนี้คนอื่นๆ เพราะว่ามันไม่มีการปกป้องลูกค้าจากบริษัทกระดานเทรดคริปโทเคอร์เรนซีที่ไม่ได้จดทะเบียนอย่าง FTX
จอห์น เรย์ บอกแม้กระทั่งว่า ไม่ได้มีรายงานชิ้นไหนเลยที่บอกว่า ลูกค้าคนนี้ฝากเงินไว้กับทาง FTX เท่าไร ตอนนี้เกิดอะไรขึ้นกับแซมบ้าง แซมได้จ้างบริษัททนายความ Paul Wiess
ซึ่งต่อมาได้ปลดแซมจากการเป็นลูกค้าเพราะสิ่งที่แซมทวีต มีการรายงานข่าวว่าตอนนี้แคโรไลน์ อดีตแฟนสาวของแซม ได้อพยพไปยังเมืองดูไบ ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่ไม่ได้มีการส่งตัวนักโทษกับทางสหรัฐอเมริกา
สุดท้ายนี้ผมอยากจะขอแสดงความเสียใจกับทางทุกท่านที่เสียเงินกับแพลตฟอร์ม FTX ในที่นี้ด้วยครับ ทางที่ดีเราควรเก็บเหรียญคริปโทเคอร์เรนซีไว้ในกระเป๋าฮาร์ดแวร์วอลเล็ตครับ
คอลัมน์: คุยให้... “คิด”
ทิวัตถ์ ชุติภัทร์
ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจบริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด
[email protected]
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์