เอลซัลวาดอร์ยังขาดทุน 'บิตคอยน์' หลังทุ่มเงิน 119 ล้านดอลลาร์ ทำ DCA เกือบ 1 ปี
นายิบ บูเคเล ประธานาธิบดีของเอลซัลวาดอร์ ประกาศลงทุนแบบ DCA ด้วยการซื้อบิตคอยน์ (Bitcoin)ทุกวัน วันละ 1 เหรียญ ทำให้ตอนนี้ถือบิตคอยน์ทั้งหมด 2,770 เหรียญ เป็นเงินกว่า 116 ล้านดอลลาร์ ซึ่งติดลบ 1.31% ขาดทุนเป็นเงินกว่า 1.54 ล้านดอลลาร์
นับแต่ปี 2564 นายิบ บูเคเล ได้ใช้งบประมาณของประเทศยากจนแห่งนี้กว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 3,500 ล้านบาท) ไปกับการซื้อบิตคอยน์
ในเดือนพฤศจิกายน 2565 นายิบ บูเคเล ประธานาธิบดีของเอลซัลวาดอร์ ประกาศจะทำการลงทุนแบบ DCA ด้วยการสัญญาว่าจะซื้อบิตคอยน์ (Bitcoin)ทุกวัน วันละ 1 เหรียญบิตคอยน์ พร้อมเปิดเผยว่า เอลซัลวาดอร์มีบิตคอยน์ทั้งหมด 2,381เหรียญ ที่ราคาเฉลี่ย 44,300 ดอลลาร์ แต่ราคาบิตคอยน์ ในตอนนั้นเฉลี่ยอยู่ที่ 19,000 ดอลลาร์ ทำให้ขาดทุนอยู่ประมาณ 60 ล้านดอลลาร์
หลังจากนั้น บูเคเล ก็ไม่ได้พูดถึงการซื้อบิตคอยน์ อีกเลย และไม่ชัดเจนว่าเอลซัลวาดอร์ถือ บิตคอยน์ ไว้เท่าไรกันแน่ เพราะรัฐบาลไม่ได้เปิดเผยข้อมูลออกมา
อย่างไรก็ตาม กรณีที่เอลซัลวาดอร์ซื้อ บิตคอยน์ วันละ 1 เหรียญ ทุกวันจริงๆ ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ (12 ธ.ค.66) เอลซัลวาดอร์จะถือ บิตคอยน์ ทั้งหมด 2,770 เหรียญ เป็นเงินกว่า 116 ล้านดอลลาร์ โดยหากพิจารณาราคาบิตคอยน์ตลอดปีที่ผ่านมา จะพบว่าราคา บิตคอยน์เฉลี่ยที่เอลซัลวาดอร์ถือไว้จะลดลงเหลือประมาณ 41,800 ดอลลาร์
หากเทียบราคาบิตคอยน์ เมื่อช่วงต้นเดือนธ.ค.66 ที่ 43,000 ดอลลาร์ ทำให้มีกำไรแล้วมากกว่า 3 ล้านดอลลาร์ แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ราคาบิตคอยน์ปรับตัวลดลงมาที่ 41,000 ดอลลาร์ ทำให้เอลซัลวาดอร์ยังคง "ขาดทุน" จากข้อมูล ซึ่งติดลบ - 1.31% ขาดทุนเป็นเงินกว่า 1.54 ล้านดอลลาร์
ใช้บิตคอยน์ ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย
นับตั้งแต่ บูเคเล ประกาศให้สามารถใช้บิตคอยน์ ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย (legal tender) กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ก็ออกมาเตือนหลายครั้งว่าการกระทำดังกล่าวมีความเสี่ยงต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจและความสามารถในการชำระหนี้ของประเทศ
อย่างไรก็ตาม แม้จะได้รับคำเตือนจาก IMF และการถือใช้บิตคอยน์ ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย ของประเทศก็ยังขาดทุนอยู่ แต่สถานการณ์ต่างๆ ในเอลซัลวาดอร์ดูจะเป็นไปในทางบวก
โดยพันธบัตรรัฐบาลของเอลซัลวาดอร์ในช่วงกลางเดือนสิงหาคม ให้ผลตอบแทน 70% จากต้นปีถึงปัจจุบัน และธนาคารรายใหญ่หลายแห่งแนะนำว่าจะมีผลตอบแทนเพิ่มขึ้นด้วย ขณะเดียวกันเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา S&P Global ก็ได้ปรับเพิ่มอันดับเครดิต (Credit Rating) ของเอลซัลวาดอร์จาก CCC+ เป็น B-
ประชาชนถือครองบิตคอยน์ ไม่ถึง 2%
แต่การปรับตัวมาใช้บิตคอยน์ ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย ของชาวเอลซัลวาดอร์ยังคงเป็นคำถามอยู่ โดยการโอนเงินจากต่างประเทศของเอลซัลวาดอร์อยู่ที่ 7 พันล้านดอลลาร์ ในปี 2565 โดยมีเพียง 1.2% ที่ใช้กระเป๋าเงินดิจิทัล
ข้อมูลจาก Triple-A แสดงให้เห็นว่า จากประชากรทั้งหมด 6.36 ล้านคนในประเทศเอลซัลวาดอร์ มีเพียงประมาณ 109,175 คนเท่านั้น ที่เป็นเจ้าของบิตคอยน์ ซึ่งคิดเป็นประมาณ 1.72%
นอกจากนี้ ข้อมูลยังชี้ว่า แม้เอลซัลวาดอร์จะเป็นประเทศที่สนับสนุนบิตคอยน์อย่างจริงจัง แต่ประเทศอยู่ในอันดับที่ 55 ในดัชนีการยอมรับคริปโต ระดับโลก แต่สิ่งที่น่าสนใจก็คือ หลายประเทศที่สั่งแบนคริปโต กลับมีสัดส่วนการถือครองที่มากขึ้นเป็นอย่างมาก เช่น ในประเทศจีน ปัจจุบันมีประชากรประมาณ 4.08% ของประชากรทั้งหมดที่ถือครองสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งคิดเป็นจำนวนมากถึง 58 ล้านคนเลยทีเดียว
เปิดตัว Freedom Visa ให้สัญชาติจากการถือบิตคอยน์
เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม ที่ผ่านมา มีรายงานว่าประเทศได้ริเริ่มโครงการการลงทุนเพื่อดึงดูดผู้อยู่อาศัยในระยะยาวเข้ามาในประเทศ และนักลงทุนเหล่านี้มีสิทธิที่จะขอสัญชาติในภายหลังได้ โครงการ Freedom Visa จะมอบวีซ่าผู้พำนักอาศัย และปูเส้นทางไปสู่การเป็นพลเมือง สำหรับบุคคลที่เตรียมจะลงทุน 1 ล้านดอลลาร์ในบิตคอยน์หรือ Tether ในประเทศ
สำหรับผู้ที่สนใจขอใบอนุญาตมีถิ่นที่อยู่ระยะยาว และต้องการเป็นพลเมืองเต็มรูปแบบ จะต้องสมัครโดยมีค่าใช้จ่าย 999 ดอลลาร์ ที่ไม่สามารถขอคืนได้ในสกุลเงิน BTC หรือ USDT ซึ่งกระบวนการดังกล่าวได้เริ่มใช้งานจริงในวันศุกร์ที่ผ่านมา
อ้างอิง cointelegraph nayibtracker
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์