Bitkub ย้ำจุดเปลี่ยนในวันที่เศรษฐกิจโลกหยุดหมุน “ผู้นำต้องสื่อสารกัน” 

Bitkub ย้ำจุดเปลี่ยนในวันที่เศรษฐกิจโลกหยุดหมุน “ผู้นำต้องสื่อสารกัน” 

“บิทคับ”ย้ำจุดเปลี่ยนในวันที่โลกหยุดหมุน “ผู้นำต้องสื่อสารกันมากกว่านี้” ด้วยการแชร์มุมมองของโลกหลังการประชุม World economic Forum ซึ่งเป็นภาพใหญ่ที่จะขับเคลื่อนอนาคต พร้อมสยายปีกเดินหน้าธุรกิจรับปีทองของดิจิทัลและ AI

“จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด ผู้นำทัพของ “Bitkub” เปิดมุมมองถึงความเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจตอนนี้บนเวที  “THE ICONIC : ROAD TO SUCCESSOR” ว่า เส้นทางสู่ความสำเร็จในอนาคตจะถูกขับเคลื่อนด้วย “ดิจิทัล และกรีน” 

ดังนั้นต่อจากนี้ “รูปแบบการค้า”ที่เปลี่ยนไป ทำให้บริษัทใดก็ตามที่ยังอยู่ในโลกเก่าจะเสียเปรียบบริษัทใหม่ที่ปรับตัว

ปี 2566 คือปีที่หนักที่สุด จึงต้อง “Rebuilding Trust” หรือการฟื้นคืนความเชื่อมั่นให้กลับมา หลังจากที่เศรษฐกิจทั่วโลกหยุดอยู่กับที่ เป็นหน้าที่ของผู้นำที่ต้อง “สร้างความเชื่อมั่น สร้างความเชื่อใจ”ให้กับโลกอีกครั้ง ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุด ในการเป็นฟันเฟืองของโลกคือ “ผู้นำ“ ดังนั้น ”ผู้นำต้องสื่อสารกันมากกว่านี้”

 โดย“หลี่ เฉียง”นายกรัฐมนตรีจีน ได้เผย 6 โซลูชันเรียก“ทรัสต์ระดับโลก”กลับมาเริ่มต้นด้วย 1.ผู้นำโลกต้องพูดคุยกันมากกว่านี้เพื่อแชร์มายเซ็ทในการขับเคลื่อนโลกไปด้วยกัน

 

2.แต่ละประเทศไม่ควรออกนโยบายระดับมหภาคระดับประเทศที่ขัดแข้งขัดขาเพราะโลกเราเชื่อมโยงกันมากกว่าที่เราคิดซึ่งควรต้องคำนึงถึงว่าจะออกกฎเกณฑ์อย่างไรให้ได้ประโยชน์ร่วมกันทั้งสองฝ่าย

3.สร้างความแข็งแกร่งให้กับซัพพลายเชนทั่วโลกเพื่อทำให้เทรดดิงพาร์ตเนอร์ทุกฝ่ายได้ประโยชน์ร่วมกัน

4.ภาคพลังงานต้องถูกเปลี่ยนแปลงไปสู่รูปแบบการผลิตให้เป็น“สีเขียว"โดยด่วนและต้องทำให้กรีนฮับ ที่ตอนนี้กระจุกตัวอยู่ในยุโรปกระจายตัวไปยังภูมิภาคอื่นด้วย เพื่อผลักดันให้ทุกคนเปลี่ยนแปลงไปสู่กรีนซัพพลายเชนอย่างราบรื่นที่สุด

5.โลกกำลังเข้าสู่การปฏิวัติทางเทคโนโลยี“ดิจิทัล” คือ 4th Industrial Revolution ที่เติบโตอย่างรวดเร็วดังนั้น จะทำยังไงให้ไม่เกิดการแย่งชิงและร่วมกันคิดค้นเทคโนโลยี นวัตกรรมใหม่ๆ รวมทั้งผลิตบุคลากรที่มีความสามารถเข้าสู่ตลาด 

สุดท้ายคือ 6.สร้างความเท่าเทียมระหว่างความสัมพันธ์ของทั่วทุกมุมโลกทั้ง Global North และGlobal South

“ดิจิทัล และ กรีน” เป็นเพียง 2 คำที่ธุรกิจไทยต้องเริ่มพูดถึงในทุกอาเจนด้าเพื่อคว้าเม็ดเงินลงทุนในระยะยาว ซึ่งไทยต้องรีบสร้าง เพราะกฎที่ดาวอสกำหนด คือ “กฎใหม่โลกธุรกิจ”

 อาจเป็นไปได้ว่าในปีนี้และปีหน้าอาจมีดีลดีๆเกิดขึ้น ไม่ว่าด้านใดก็ตาม ที่สามารถทำให้บริษัทเติบโตในทุกด้าน ซึ่งหนึ่งในเป้าหมายหลักคือการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไปพร้อมๆกัน ที่คาดว่าจะใช้เวลาราวๆ 1-2 ปี ในการดำเนินการ เพราะบิทคับมีความพร้อมในทุกด้านแล้ว