TikTok ดันรายได้ ByteDance แตะ 8 หมื่นล้านดอลล์ เท่า Tencent แม้สหรัฐขู่แบน
รายได้ปี 2566 ของ ไบท์แดนซ์ บริษัทแม่ TikTok ปรับตัวสูงขึ้น 30% แตะระดับ 8 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเทียบเท่ากับบริษัทคู่แข่งอย่าง เทนเซ็นต์ กูรูชี้เป็นการเติบโตท่ามกลางความท้าทายในการดำเนินธุรกิจมากมาย ทั้งสถานการณ์เศรษฐกิจที่ปั่นป่วนและสงครามด้านภูมิรัฐศาสตร์
สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานวันที่ 3 เม.ย. 2566 ว่า รายได้ปี 2565 ของ ไบต์แดนซ์ (ByteDance) ปรับตัวสูงขึ้น 30% แตะระดับ 8 หมื่นล้านดอลลาร์ (2.64 ล้านล้านบาท) เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าที่อยู่เพียง 6 หมื่นล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.98 ล้านล้านบาท)
ทั้งนี้รายได้ของไบต์แดนซ์ครั้งนี้ยังเทียบเท่ากับคู่แข่งรายสำคัญอย่าง เทนเซ็นต์ (Tencent Holdings Ltd.) ผู้ให้บริการ WeChat ด้วย โดยในปี 2565 เทนเซ็นต์ มีรายได้ 5.54 แสนล้านหยวน หรือประมาณ 8 หมื่นล้านดอลลาร์เช่นเดียวกัน
ด้านนักวิเคราะห์ประเมินว่าเป็นเพราะแพลตฟอร์มวิดีโออย่าง TikTok และ Douyin ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของ ไบต์แดนซ์ ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม
โดยการเติบโต “แบบเลขสองหลัก” ของ ไบต์แดนซ์ ครั้งนี้แซงหน้าผู้นำตลาดในโลกอินเทอร์เน็ตอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Meta Platforms Inc. และ Amazon.com Inc ด้วย
บทวิเคราะห์ของสำนักข่าวบลูมเบิร์ก ระบุว่า การขยายตัวดังกล่าวเน้นย้ำถึงความแข็งแกร่งและยืดหยุ่นของ ByteDance ท่ามกลางคำขู่ของสหรัฐ และอินเดียที่จะห้ามการใช้งานแพลตฟอร์มดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบัน TikTok และ Douyin ก็ยังได้รับเม็ดเงินโฆษณาจากธุรกิจแพลตฟอร์มจำนวนมาก
ทั้งนี้ ไบต์แดนซ์ ไม่เพียงต้องเผชิญกับสถานการณ์เศรษฐกิจที่ปั่นป่วนทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้นหรืออัตราเงินเฟ้อเท่านั้น ทว่ายังต้องรับมือกับการกดดันจากทั้งรัฐบาลสหรัฐและรัฐบาลกลางปักกิ่ง ท่ามกลางสงครามระหว่างมหาอำนาจโลก ทั้งในด้านการเมือง เศรษฐกิจ และเทคโนโลยีด้วย
โดยในอเมริกาปัจจุบันมีผู้ใช้ TikTok มากกว่า 150 ล้านรายต่อเดือน ซึ่งยิ่งกระตุ้นความกังวลของทางการสหรัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเข้าถึงข้อมูลของสหรัฐจากรัฐบาลจีน
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์มองว่าการเติบโตของไบต์แดนซ์ ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับนักลงทุนได้อย่างมาก แม้ต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนจากสถานการณ์ที่กล่าวไปมากมาย
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์