LHFG โชว์กำไรครึ่งปีแรก 1.2พันล้าน โต 61% ธุรกิจแบงก์โตเท่าตัว
LHFG กำไรอู่ฟู้ ครึ่งปีแรกกำไรโต 61% หรือ1.2พันล้าน หลังธุรกิจแบงก์เติบโต 100% จากสินเชื่อขยายตัว หนุนกำไรเฉียดพันล้าน
บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)LHFG ประกาศกำไรสุทธิครึ่งปีแรก โดยรวมมีกําไรสุทธิจํานวน 1,201.9ล้านบาท เพิ่มขึ้น 61.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี ก่อน
หลักๆ เป็นการเพิ่มขึ้นของกําไรสุทธิของธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ที่มีกําไรสุทธิ 943.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 119.0 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
นอกจากนี้ จากการเติบโตของ เงินให้สินเชื่อและการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อ
ทั้งนี้ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ยังคงตั้งสํารองค่าใช้จ่ายผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นตามหลักความระมัดระวังเพื่อรองรับการขยายตัวของสินเชื่อ และรองรับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการสิ้นสุดมาตรการช่วยเหลือลูกค้า โดยอัตราส่วนสํารองต่อสินเชื่อที่มีการด้อยค่าด้านเครดิต (Coverage Ratio) อยู่ที่ร้อยละ 228.73
และอัตราส่วนสินเชื่อที่มีการด้อยค่าด้านเครดิตต่อสินเชื่อรวม (NPL Ratio) เพิ่มขึ้นจากร้อยละ2.09 ณ สิ้
นปี 2565 เป็ นร้อยละ 2.32 ณ ไตรมาส ที่ 2 ปี 2566
อย่างไรก็ตาม ผลการดําเนินงานของธนาคารครึ่งแรกของปี 2566ธนาคารยังคงมุ่งเติบโตในพอร์ตสินเชื่อที่สร้างผลตอบแทนที่ดีหรือกลุ่ม Higher Yield ภายใต้การจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสม
โดยสินเชื่อที่อยู่อาศัยเติบโตมากกว่าร้อยละ 16จากสิ้นปี 2565 การขยายฐานลูกค้าเงินฝากรายย่อยผ่านช่องทางดิจิทัลโดย MobileApplication ใหม่
ได้แก่ LHB YOU ที่ตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้าแต่ละบุคคล และได้ออกผลิตภัณฑ์เงินฝากพิเศษ B YOU MAX ด้วยอัตราดอกเบี้ยพิเศษเพื่อขยายฐานลูกค้าควบคู่กับทําการตลาดผลิตภัณฑ์อื่น
นอกจากนั้นได้พัฒนาบริ การ Trade Finance เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการทําธุรกรรม
รวมทั้งการ Collaboration ภายในบริษัทในกลุ่มการเงินเพื่อบริหารฐานลูกค้าให้มีประสิทธิภาพมากยิงขึ้นการเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านเทคโนโลยี (Digital Transformation) เพื่อใช้เทคโนโลยีในการให้บริการลูกค้าให้รวดเร็วทุกที่ ทุกเวลา รวมถึงการนําระบบ Robotic Process Automation และ Data Analytic Tools ต่างๆ มาช่วยในการทํางาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขยายฐานลูกค้า
สำหรับผลประกอบการไตรมาส 2 มีกําไรสุทธิจํานวน 532.1ล้านบาท ลดลงร้อยละ 20.6 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1 ของปี 2566 ที่มีกําไรสุทธิจํานวน 669.9 ล้านบาทเป็นผลจากการลดลงของกําไร (ขาดทุน) สุทธิจากเครื่ องมือทางการเงินที่วัดมูลค่าด้วยมูลค่ายุติธรรมผ่านกําไรหรือขาดทุนและกําไรจากเงินลงทุน
และกําไรสุทธิเพิ่มขึ้นร้อยละ 128.1 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่2ของปี 2565 ที่มีกําไรสุทธิจํานวน 233.3 ล้านบาท เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการดําเนินงานอื่นกําไร (ขาดทุน) สุทธิจากเครื่องมือทางการเงินที่วัดมูลค่าด้วยมูลค่ายุติธรรมผ่านกําไรหรือขาดทุน และรายได้เงินปันผล