DSI แจง สอบสวน “STARK”ใกล้เสร็จสิ้น ‘ยึดทรัพย์’ แล้ว400ล้าน
‘ดีเอสไอ’แจงความคืบหน้าการทุจริต “STARK” ใกล้สอบสวนเสร็จสิ้น หลังดำเนินการสอบมาแล้วกว่า 5 เดือน เตรียมส่งสำนวนให้อัยการสิ้นเดือนนี้ สั่งยึดทรัพย์แล้ว400ล้านบาท ส่วน MORE เรียกสอบผู้ต้องหารายแรกต้นธ.ค.นี้
พันตำรวจโทจักรกฤษณ์ วิเศษเขตการณ์ ผู้อำนวยการกองคดีการเงินการธนาคารและการฟอกเงิน กรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้ากรณีการทุจริต ของบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (STARK) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับเป็นคดีพิเศษ เมื่อตั้งแต่วันที่ 20 มิถุนายน 2566 หรือกว่า 5 เดือนที่ผ่านมา เบื้องต้นมีผู้เสียหายทั้งสิ้นจำนวน 4,704ราย มูลค่าความเสียหายรวม 14,778 ล้านบาท
ขณะนี้การขั้นตอนการสอบสวนใกล้สิ้นสุดแล้ว และอยู่ระหว่างการสรุปสำนวน คาดว่า จะสามารถส่งสำนวนให้กับอัยการพิจารณาได้ภายในสิ้นเดือนนี้
สำหรับคดีนี้มีการสอบปากคำพยานไปแล้วกว่า 157 ราย และได้แจ้งข้อกล่าวหาไปแล้ว 11 ราย เป็นนิติบุคคล 5 ราย บุคคลธรรมดา 6 ราย ในความผิดตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ฐานตกแต่งบัญชีและงบการเงิน ฉ้อโกงประชาชน รวมถึงความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542
โดยได้ออกหมายจับแล้ว 1 ราย คือ นายชนินทร์ เย็นสุดใจ เพื่อติดตามมาดำเนินคดีตามกฎหมายแต่ผู้ต้องหาได้หลบหนีไปต่างประเทศแล้ว และจากการรายงานมีข่าวว่าผู้ต้องหาหลบหนี้อยู่ในประเทศโซนยุโรป แต่ยังไม่ชี้ชัด ขณะที่อีก 5 รายยังอยู่ในประเทศ
“การติดตามผู้ต้องหา ขณนี้ได้มีการประสานหน่วยงานบังคับกฎหมายต่างประเทศ ทั้งอัยการต่างประเทศแล้ว และจากรายงานข่าวน่าจะมีความเคลื่อนไหวอยู่ทางยุโรป แต่ยังไม่ชี้ชัด”
สำหรับทรัพย์สินในคดี นี้ทางสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. ได้ดำเนินการยึดอายัดทรัพย์สินเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดไปแล้วประมาณ 400 ล้านบาท
ทั้งยังพบทรัพย์สินของผู้ต้องหาบางรายที่ถูกถ่ายโอนไปยังต่างประเทศกว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งถูกถ่ายโอนไปก่อนกรมสอบสวนคดีพิเศษจะรับเป็นคดี โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษได้ตั้งพนักงานอัยการเป็นที่ปรึกษาในคดีเพื่อประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและติดตามทรัพย์สินในต่างประเทศเหล่านี้แล้ว
นอกจากนี้ในทางคดี ยังได้มีการดำเนินการสอบปากคำผู้สอบบัญชีเรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างรอสภาวิชาชีพบัญชีในพระบรมราชูปถัมภ์แห่งประเทศไทย ดำเนินการตรวจสอบว่าการสอบบัญชีถูกต้องตามมาตรฐานและหลักจริยธรรมของผู้ตรวจสอบบัญชีหรือไม่ ซึ่งทาง DSI ไม่ได้ยุติการตรวจสอบและได้เร่งการดำเนินการอยู่ หากพบว่าไม่ได้ม่ดำเนินการมาตรฐานทางบัญชี ก็จะมีการเอาผิดต่อไป
ส่วนกรณีของ นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ หนึ่งในผู้ต้องหาคดีดังกล่าว ทางก.ล.ต. ได้มีการสั่งอายัดทรัพย์ไว้ตั้งแต่แรกแล้ว ซึ่งเป็นบัญชีทุกบัญชีที่เกี่ยวกับกับ STARK ซึ่งมีมูลค่ามากพอสมควร ภายใต้ความผิดตามราชบัญญัติหลักทรัพย์ฯ
สำหรับกรณีของบริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด(มหาชน) MORE ที่มีกลุ่มบุคคล ร่วมสร้างราคา และซื้อขายหลักทรัพย์ ไม่เป็นธรรม หรือปั่นหุ้น จนนำมาสู่ความเสียหายกว่า 800 ล้านบาท และฉ้อโกง ที่มีมูลค่าความเสียหายรวมกว่า 4,000 ล้านบาท
ซึ่งคณะนี้ทางคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์หรือ ก.ล.ต. ได้มีการกล่าวโทษไปแล้ว ซึ่งมีทั้งสิ้น 32 ราย และระหว่างที่ดำเนินงานร่วมกันระหว่างพนักงานสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษและตำรวจสอบสวนกลาง ได้มีเรียกเจ้าหน้าที่จากก.ล.ต. และตลท. รวมถึงผู้เสียหายที่เป็นโบรกเกอร์ราว 10ราย มาให้การเพิ่มเติม และพรุ่งนี้ จะมีการออกหมายเรียก ว่าที่ผู้ต้องหาทั้งหมด28 ราย
โดยรายแรกๆที่จะมาให้การในคดี จะเข้ามาได้ราว ต้นเดือนธ.ค. ที่จะถึงนี้
ทั้งนี้ก่อนหน้า กรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับคดีนี้เป็นคดีพิเศษแล้ว และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาไปแล้ว 4 รายในข้อหาฉ้อโกง