บลจ.พาเหรดปั้นTESGใหม่ หวังดึงเม็ดเงินเข้าหุ้นไทยปีนี้3หมื่นล.

บลจ.พาเหรดปั้นTESGใหม่  หวังดึงเม็ดเงินเข้าหุ้นไทยปีนี้3หมื่นล.

หลังจากครม. มีมติปรับปรุงเกณฑ์ Thailand ESG Fund ( Thai ESG ) เพิ่มวงเงินหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จาก 100,000 บาทต่อปีภาษี เป็น 300,000 บาทต่อปีภาษี แต่ไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน รวมทั้งลดเวลาถือครองหน่วยลงทุนเหลือไม่ต่ำกว่า 5 ปี จากเดิม 8 ปี

ขณะนี้ บรรดาบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ยังอยู่ระหว่างขั้นตอนการพิจารณา ทั้งนำ “ปัดฝุ่นกองทุนThai ESG เวอร์ชั่นเดิม สู่เวอร์ชั่นใหม่” และ “ปั้นกองทุนThai ESGเวอร์ชั่นใหม่”

ประเดิมกองใหม่คงมีทั้ง “กองทุนตราสารหนี้” เน้นเข้ามาพักเงินก่อน หากตลาดหุ้นไทยปลายปีนี้ ยังไม่ปัง และ “กองทุนผสม” เป็นทางเลือกการลงทุน รอตลาดหุ้นไทยกลับสดใส คาดว่า กองทุนThai ESG เวอร์ชั่นใหม่ทุกส่วนที่เกี่ยวข้องหลังจากนี้ น่าจะเริ่มโปรโมทและพาเหรดออกสู่ตลาดได้คึกคักในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้  

บลจ.พาเหรดปั้นTESGใหม่  หวังดึงเม็ดเงินเข้าหุ้นไทยปีนี้3หมื่นล.

 

โดยช่วงไตรมาส 4 นับเป็นฤดูกาลช้อปปิ้งกองทุนลดหย่อยภาษี และในจังหวะนั้นทิศทางตลาดการลงทุน ทั้งในหุ้นและตราสารหนี้  รวมถึงภาวะเศรษฐกิจไทย มีความชัดเจนมากขึ้น ให้นักลงทุนตัดสินใจเข้าลงทุนกองทุนลดหย่อนภาษี ก็ยังไม่สายเกินไป 

“ชวินดา หาญรัตนกูล” นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) และกรรมการผู้จัดการ บลจ.กรุงไทย หรือ KTAM  มองว่า หลังจากนี้ หน่วยงานตลาดทุนต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงบรรดาบลจ. จะออกมากระตุ้นตลาด ทั้งนำเสนอกองทุน Thai ESG เดิมที่มี และออกกองทุน Thai ESG ใหม่ โดย บลจ.กรุงไทยจะกระตุ้นทั้งกองทุนThai ESG เดิมและออกกองทุน Thai ESGใหม่อีกอย่างน้อย 1 กองทุน 

เพื่อให้นักลงทุนรายเดิมที่รอคอยความชัดเจน Thai ESG เข้ามาลงทุน รวมถึงดึงนักลงทุนรายใหม่ๆ ให้ทราบข้อมูลของ Thai ESG ตั้งแต่ช่วงส.ค.นี้ เป็นต้นไปเป็นช่วงเวลาโปรโมท คาดหวังเม็ดเงินเริ่มทยอยเข้ามาช่วง ก.ย.นี้ และตลอดทั้งปีนี้ราว 30,000 ล้านบาท 

“ในจังหวะตลาดหุ้นไทยมีมูลค่าที่น่าลงทุนอยากให้เม็ดเงินเข้ามาเร็วๆ ในกองทุน Thai ESG แต่ต้องขึ้นกับว่าแจ้งให้นักลงทุนรับทราบประโยชน์ของกองทุนนี้ได้มากน้อยแค่ไหน”

นางสาวธิดาศิริ ศรีสมิต  รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุน  บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย กล่าวว่า บลจ.กสิกรไทย กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาว่า สามารถนำเสนอกองทุนThaiESG ในกลยุทธ์ที่แตกต่างจากกองทุนที่มีอยู่ รวมถึงสร้างโอกาสการลงทุนที่เพิ่มขึ้นจากนโยบายการลงทุนที่เปิดกว้างมากขึ้นให้กับผู้ลงทุนได้อย่างไรบ้าง

โดยในปัจจุบัน ผู้ลงทุนสามารถเลือกลงทุนในกองทุน ThaiESG จากกสิกรไทย ผ่าน 2 กองทุน ได้แก่ กองทุน K-TNZ-ThaiESG กองทุนแรกของของไทย ที่มีกลยุทธ์บริหารพอร์ตลงทุนโดยมีเป้าหมายให้ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของพอร์ตลงทุนเฉลี่ยต่ำกว่าดัชนีชี้วัด (SET100)

และ กองทุน K-ESGSI-ThaiESGเป็นกองทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ โดยมีนโยบายการลงทุนที่เน้นลงทุนตราสารหนี้ภาครัฐของไทยในกลุ่มความยั่งยืนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80%

มอร์นิ่งสตาร์ (ประเทศไทย)” มองว่า สำหรับกองทุน Thai ESG ใหม่ คาดบลจ. น่าจะออกกองทุนใหม่ เน้นลงทุนตราสารหนี้ก่อน เพราะที่ผ่านมา บลจ.ยังไม่มีออกสินทรัพย์การลงทุนประเภทนี้นัก หากไม่ออกอาจจะเสียโอกาสในเวลาเช่นนี้ 

แต่ก็มีการออกกองทุนผสมในหุ้นด้วย เพราะหลักทรัพย์ในขอบเขตการลงทุนของ ESG Rating ที่เพิ่มขึ้น จากหลากหลายบริษัทจดทะเบียน (บจ.) น่าจะทำให้บลจ. มีตัวเลือกมากขึ้น สามารถกระจายลงทุน และกระจายความเสี่ยงได้ดีขึ้น

“ส่วนกองทุน Thai ESG เวอร์ชั่นใหม่ จะระดมทุนได้มากน้อยตามเป้าหมายหรือไม่นั้น มองว่า ยังขึ้นอยู่กับสภาพตลาดและเศรษฐกิจในโค้งสุดท้ายปีนี้” 

ณ 30 มิ.ย. 2567 มูลค่าทรัพย์สินโดยรวมของกองทุนลดหย่อนภาษีในไทย มีมูลค่าประมาณ 7.33 แสนล้านบาท โดยกองทุน RMF มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิมากที่สุด รวมประมาณ 4.3 แสนล้านบาท คิดเป็นส่วนแบ่งตลาดประมาณ 59% ของตลาดโดยรวม รองลงมาคือกองทุน LTF ที่มีขนาดประมาณ 2.3 แสนล้านบาท, กองทุน SSF ประมาณ 6.4 หมื่นล้านบาท 

และกองทุน Thai ESG ซึ่งมีขนาดประมาณ 6.7 พันล้านบาท  เติบโต 3.3%  มีทั้งสิ้น 31 กองทุน เป็นกองทุน ตราสารหนี้ 2 กองทุน  770 ล้านบาท, กองทุนผสม 4 กองทุน 1,034 ล้านบาท และกองทุนหุ้น 25 กองทุน 4,893 ล้านบาท