‘ผู้ว่าแบงก์ชาติ’ พร้อม‘ปรับดอกเบี้ย’หากเสถียรภาพการเงินกระทบแรงกว่าคาด
‘เศรษฐพุฒิ’ผู้ว่าธปท.ย้ำการปรับนโยบายการเงินขึ้นอยู่กับ 3ปัจจัยหลัก ห่วงเสถียรภาพการเงินตึงตัว แบงก์ปล่อยกู้ยากขึ้น ชี้หากผลกระทบต่อเสถียรภาพการเงินรุนแรงกว่าคาด อาจนำไปสู่การพิจารณาปรับดอกเบี้ย
ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กล่าวว่า การปรับนโยบายการเงินยังคงขึ้นอยู่กับ 3ปัจจัยสำคัญ ทั้งการเติบโตเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ และเสถียรภาพการเงิน โดยหากดูภาพรวมเศรษฐกิจไทยปัจจุบัน จากภาพการขยายตัวเศรษฐกิจไทยหรือจีดีพีที่ออกมาล่าสุด ถือว่าออกมาเป็นไปตามคาด
โดยรวมมีภาพของการค่อยๆเข้าสู่ศักยภาพ ภาพดังกล่าวยังไม่มีมุมมองที่เปลี่ยนแปลงไป แต่ยอมรับว่า มีความเสี่ยงในบางมิติที่มากขึ้น เช่นการลดลงของการลงทุนเอกชนที่ลดลง แต่โดยรวมประมาณการณ์เศรษฐกิจที่ออกมายังใกล้เคียงกับที่กนง.ประเมินไว้
ด้านเงินเฟ้อ ถือว่าต่ำกว่ากรอบล่าง และมีแนวโน้มค่อยๆเข้าสู่กรอบล่างของกรอบเงินเฟ้อเป้าหมายที่ 1-3%
ซึ่งสิ่งที่สำคัญกว่าคือการรักษาการคากการณ์เงินเฟ้อให้อยู่ในระดับต่ำ และยังไม่เห็นภาพของเงินเฟ้อที่ต่ำลงจนนำไปสู่เงินฝืด หรือทำให้การบริโภคชะลอตัวลงต่อเนื่อง
สุดท้าย เรื่องของเสถียรภาพการเงิน ที่ธปท.มองเห็นการ “ตึงตัว”ของภาวะการณ์เงิน จากแบงก์ปล่อยสินเชื่อลดลง จนเริ่มมีผลกระทบเชื่อมโยงต่อเศรษฐกิจในภาพรวม ดังนั้นมองว่า หากสถานการณ์มีกระทบต่อเสถียรภาพทางการเงินรุนแรงกว่าที่ประเมินไว้ มีโอกาสที่กนง.จะปรับเปลี่ยน “ดอกเบี้ยนโยบาย”ได้
“เราโอเพ่นมากขึ้นในการปรับเปลี่ยนนโยบายดอกเบี้ยต่างๆ ตามสภาะที่เปลี่ยนแปลงไป หากความเชื่อมโยงทางการเงินที่ตึงตัวจนกระทบต่อเครดิตคลอลิตี้แรงกว่าควรก็พร้อมปรับเปลี่ยนนโยบายให้สอดคล้องกับบริบทนี้"