BANPU ชี้ ครึ่งปีหลัง 66 เน้น ลดต้นทุนดันกำไร เหตุ ราคาก๊าซ-ถ่านหินผันผวน
BANPU เปิดแผนครึ่งหลังปี66 เน้นลดต้นทุน-ค่าใช้จ่าย ดันกำไร หลังราคาถ่านหิน-ก๊าซผันผวน เชื่อไตรมาส3/66 ฟื้นตัว ยันไม่มีแผนเพิ่มทุน เหตุ ฐานะการเงินแกร่ง พร้อมเล็งลงทุนโครงการดักจับ-กักเก็บก๊าซคาร์บอนอีกหลายโครงการในสหรัฐ เน้นพื้นที่สร้างผลตอบแทนสูงเกิน 20%
นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU เปิดเผยว่า แผนกลยุทธ์การดำเนินงานครึ่งปีหลังที่จะทำกำไรได้นั้น บริษัทจะเน้นเรื่องของการลดต้นทุน และลดค่าใช้จ่ายต่างๆ เพราะ ราคาขายถ่านหินจะไม่สูงเท่าปีก่อน แต่ถือว่ายังอยู่ระดับที่สูง ส่วนที่เป็นการเติบโตสอดคล้องกับแผนกลยุทธ์ก็ยังคงเดินหน้าต่อ
“กำไรปีนี้ของบริษัทจะมีความผันผวน ตามราคาถ่านหินและก๊าซธรรมชาติ แต่บริษัทมีความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดได้ในระดับที่สูง ซึ่งครึ่งปีแรกบริษัทมีกระแสเงินสดที่ 600 ล้านดอลลาร์ ซึ่งบริษัทมีฐานะการเงินที่ดี และบริษัทยังคงนโยบายการจ่ายปันผลปีละ2 ครั้ง ซึ่งในช่วงที่บริษัขาดทุน ก็ยังคงจ่ายปันผล ”
สำหรับจากนี้บริษัทไม่มีแผนที่จะเพิ่มทุน หรือออกใบสำคัญแสดงสิทธิในการจะซื้อหุ้นสามัญ(วอร์แรนท์) ซึ่งBANPU-W5 เป็นวอแรนท์สุดท้ายของบริษัท ซึ่งจะมีการใช้สิทธิแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญวันที่ 14-28 ก.ย. ราคาใช้สิทธิที่หุ้นละ7.50 บาท และคาดว่าหุ้นสามัญใหม่ที่เกิดจากการแปลงBANPU-W5 จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)ในวันที่12 ต.ค. ซึ่งเงินที่ได้จากแปลงสภาพก็จะนำไปลดหนี้ บริษัทใช้เงินอย่างมีวินัย
ส่วนการนำบริษัทย่อย BKV Corporation (BKV) ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตก๊าซธรรมชาติ (Shale Gas) และธุรกิจโรงไฟฟ้าก๊าซฯ ในสหรัฐฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้น New York Stock Exchange (NYSE) คาดว่าจะเข้าจดทะเบียนได้ในไตรมาส 4ปี 2566 หรือ ไตรมาส1ปี 2567 ซึ่งยืนยันว่าหากมีการเลื่อนก็จะไม่ส่งผลกระทบกับการดำเนินงานของบ้านปู เพราะ บริษัทมีฐานะการเงินที่ดี ซึ่งการที่BKV เข้าจดทะเบียนนั้นถือว่าเป็นอัปไซด์กับBANPU
อย่างไรก็ตามอยากให้นักลงทุนมั่นใจในกลุ่มบริษัท ซึ่งเราเดินหน้าตามแผนกลยุทธ์ Greener & Smarter ซึ่งเป็นไปตามเทรนด์โลก โดยยึดหลักESG และเป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลงพลังงานไปสู่ความยั่งยืน ว่าบ้านปูจะเดินไปสู่พลังงานสะอาด ซึ่งการเปลี่ยนผ่านพลังงานเป็นพลังงานสะอาด ไม่จำเป็นที่ถ่านเหินเป็น 0 แต่เป็นการผสมผสานพลังงานที่สะสม
นายวิรัช วุฒิธนาเศรษฐ์ผู้อำนวยการสายอาวุโส กลยุทธ์องค์กร BANPU กล่าวว่า ราคาก๊าซธรรมชาติและถ่านหินในไตรมาส3 ปี 2566 มีแนวดน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากซัพพลายไม่ได้เพิ่ม ซึ่งปัจจุบันราคาก๊าซธรรมชาติปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2.5-2.6 ดอลลาร์ต่อล้านบีทียู จากไตรมาส2ที่ผ่านมาอยู่ที่ 2 ดอลลาร์ต่อล้านบีทียู
ส่วนราคาถ่านหินยังพึ่งพาประเทศจีนเป็นหลักแต่ด้วยเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวกดดันต่ออุตสาหกรรมถ่านหิน แต่ปัจจุบันราคาอยู่ที่ 150-160 ดอลลาร์ต่อตัน ถือว่าอยู่ระดับที่ดี และคาดว่าในระยะยาวราคาถ่านหินจะผันผวนน้อยลง เพราะไม่เห็นปัจจัยที่จะหนุนให้ราคาถ่านหินกลับไปแตะระดับ 400 ดอลลาร์ต่อตันได้ แต่มีโอกาสน้อยเช่นกันที่กดดันราคาถ่านหินปรับตัวลงมาอยู่ระดับ2 หลักในช่วง 1-2 ปีจากนี้
สำหรับการลงทุนโครงการดักจับและกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Carbon Capture, Utilization and Storage: CCUS) ในสหรัฐ บริษัทมีแผนจะดำเนินการหลายโครงการในสหรัฐ จากปัจจุบันที่มี 2 โครงการ โดยจะเน้นพื้นที่สร้างผลตอบแทนที่สูง ซึ่งคาดสร้างผลตอบแทนสูงกว่า 20%