ดาวโจนส์ปิดบวก ขานรับผลประกอบการแกร่ง

ดาวโจนส์ปิดบวก ขานรับผลประกอบการแกร่ง

ดัชนีดาวโจนส์ ปิดวันอังคาร(17ต.ค.)ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน โดยปรับตัวลงในช่วงแรก หลังสหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกสูงกว่าคาดในเดือนก.ย.

  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 13.11 จุด หรือ 0.04% ปิดที่ 33,997.65 จุด
  • ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 0.43 จุด หรือ 0.01% ปิดที่ 4,373.20 จุด
  • ดัชนีแนสแด็ก ลดลง 34.24 จุด หรือ 0.25% ปิดที่ 13,533.75 จุด

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 13.11 จุด หรือ 0.04% ปิดที่ 33,997.65 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 0.43 จุด หรือ 0.01% ปิดที่ 4,373.20 จุด และดัชนีแนสแด็ก ลดลง 34.24 จุด หรือ 0.25% ปิดที่ 13,533.75 จุด

หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา และจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ดีดตัวขึ้น ขานรับผลประกอบการที่สดใส

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทปรับตัวลงในช่วงแรก หลังสหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกสูงกว่าคาดในเดือนก.ย. ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

นักลงทุนเพิ่มน้ำหนักในการคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นการประชุมนโยบายการเงินครั้งสุดท้ายในปีนี้ หลังสหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกดังกล่าว

ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 37.1% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.50-5.75% ในการประชุมเดือนธ.ค. หลังจากที่ให้น้ำหนักเพียง 25.0% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

นอกจากนี้ นักลงทุนลดน้ำหนักในการคาดการณ์ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในเดือนธ.ค. โดยให้น้ำหนัก 58.8% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ย หลังจากที่ให้น้ำหนักสูงถึง 72.9% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกพุ่งขึ้น 0.7% ในเดือนก.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 0.3%

ยอดค้าปลีกได้รับแรงหนุนจากยอดขายรถยนต์ และยอดขายของสถานีบริการน้ำมัน

หากไม่รวมยอดขายรถยนต์และน้ำมัน ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนก.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 0.1%

นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด มีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ที่สมาคมเศรษฐกิจแห่งนิวยอร์ก (Economic Club of New York) ในวันพฤหัสบดีนี้

นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนายพาวเวลเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด 

การกล่าวสุนทรพจน์ดังกล่าว ถือเป็นการแสดงความเห็นของนายพาวเวลเป็นครั้งสุดท้าย ขณะที่เจ้าหน้าที่เฟดจะเริ่มเข้าสู่ช่วงงดเว้นการแสดงความเห็นเกี่ยวกับนโยบายการเงิน (Blackout Period) ในวันเสาร์นี้ ก่อนที่เฟดจะจัดการประชุมกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ในวันที่ 31 ต.ค.-1 พ.ย.

ทั้งนี้ กฎระเบียบของเฟดได้ระบุห้ามเจ้าหน้าที่เฟดแสดงความเห็นต่อสาธารณะ หรือให้สัมภาษณ์ในช่วง Blackout Period เกี่ยวกับนโยบายการเงิน โดยเริ่มตั้งแต่วันเสาร์ที่สองก่อนที่การประชุม FOMC จะเริ่มขึ้น และสิ้นสุดในวันพฤหัสบดีหลังการประชุม FOMC