หุ้นน้องใหม่ LTS พุ่งกระฉูด! เปิดซื้อขายวันแรก เหนือจอง 163% จากราคา IPO 3 บาท

หุ้นน้องใหม่ LTS พุ่งกระฉูด!  เปิดซื้อขายวันแรก เหนือจอง 163%  จากราคา IPO 3 บาท

หุ้นน้องใหม่ LTS เปิดเปิดซื้อขายวันแรก เหนือจองพุ่ง 163.33% หรือเพิ่มขึ้น 4.90 บาท หรือระดับราคาอยู่ที่ 7.90 บาท จาก IPO ที่ 3.00 บาท

ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทยภาคเช้า ณ วันที่ 17 พ.ค. 2567 หุ้นน้องใหม่ LTS หรือ บริษัท ไลท์อัพ โทเทิล โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเทรดวันแรก เหนือจองพุ่ง 163.33% หรือเพิ่มขึ้น 4.90 บาท หรือระดับราคาอยู่ที่ 7.90 บาท จาก IPO ที่ 3.00 บาท

ธีร์ธนัตถ์ จิราศิริวัชร นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า รายได้เฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีของ LTS อยู่ที่ 244 ล้านบาท ถือว่ายังเป็นบริษัทขนาดเล็กเมื่อเทียบกับรายใหญ่ในตลาดหลอดไฟและโคมไฟอย่าง L&E ที่มีรายได้ต่อปีเกือบ 3.0 พันล้านบาท แต่หากพิจารณาในด้านกำไรสุทธิ LTS ถือว่ามีพัฒนาการต่อเนื่องโดยมีกำไรสูงสุดที่ 31 ล้านบาท ในปี 2566 ดีที่สุดในกลุ่มเมื่อเทียบกับธุรกิจจำหน่ายหลอดไฟ และโคมไฟที่จดทะเบียนในตลาด SET และ mai เนื่องจากการให้บริการแบบครบวงจร และเสริมด้วยบริการด้าน IT Solution ของตัวเอง ทำให้ความสามารถในการทำกำไรสูงกว่ากลุ่มทั้ง GPM และ NPM ด้วยฐานรายได้ที่ยังต่ำ คาดจะยังเติบโตได้อีกมาก 

หุ้นน้องใหม่ LTS พุ่งกระฉูด!  เปิดซื้อขายวันแรก เหนือจอง 163%  จากราคา IPO 3 บาท

โดยมีฐานลูกค้ากลุ่มสถาปนิคเป็นรายได้ประจำราว 140 ล้านบาทต่อปี แต่ยังเติบโตได้จากมาตรกระตุ้นอสังหาฯ ของภาครัฐฯ ขณะที่ตัวเร่งการเติบโตจากขายสินค้าที่เพิ่มมูลค่าเช่น Smart Street Light และ Smart Pole เนื่องจาก 1 เสา สามารถให้บริการได้หลากหลายตามต้องการ ทำให้ลดจำนวนเสา และสายไฟ คาดรายได้เฉลี่ยต่อปีเติบโตที่ 38.0% CAGR 3Yr (2566 – 2569F) แต่คาดกำไรเติบโตสูงกว่าที่ 47.2% ต่อปี เนื่องจากงาน IoT จะมีอัตรากำไรสูงกว่า และหลัง IPO รับงานขนาดใหญ่มากขึ้นได้ โดยที่ค่าใช้จ่ายด้านบุคคลากร และดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มขึ้น ในอัตราที่น้อยกว่า

สำหรับ LTS เริ่มจากเป็นผู้นำเข้า และจัดจำหน่ายอุปกรณ์ส่องสว่าง เช่น หลอดไฟ และโคมไฟมีประสบการณ์ยาวนาน 14 ปี ได้พัฒนาสินค้าและบุคลากรมาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้สามารถให้บริการลูกค้าที่มีความต้องการด้านนี้อย่างครบวงจร ปัจจุบันเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านอุปกรณ์IoT เช่น ระบบ Home automationและ เสาไฟฟ้าอัจฉริยะ มีการพัฒนาทีม IT Solution รับงานให้คำปรึกษา วางแผน จำหน่ายและสร้างระบบ Software รวมถึงให้บริการหลังการขาย 

นอกจากนี้ยังมีการพัฒนา Software ของบริษัทเองเพื่อใช้กับอุปกรณ์อัจฉริยะที่บริษัทพัฒนาขึ้น ถือว่าเป็นจุดแข็งและข้อแตกต่างจากบริษัทจำหน่ายหลอดไฟ และโคมไฟทั่วไปใตลาด ท าให้ LTS มีอัตรากำไรขั้นต้น และอัตรากำไรสุทธิมากกว่าอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อเทียบกับบริษัทอื่นที่มีประสบการณ์ยาวนานกว่า และรายได้สูงกว่า LTS มาก ตัวอย่างงานโครงการที่สำคัญที่ผ่านมาของ LTS เช่น งานขายโคมไฟ Solar cell พร้อมระบบ IoTควบคุมให้สนามบิน 9แห่งทั่วประเทศ, งานโคมไฟส่องสว่างอาคารผู้โดยสารสนามบินสุวรรณภูมิส่วนต่อขยาย และ งานออกแบบและจำหน่ายเสาไฟในโครงการสวนสาธารณะอัจฉริยะ เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ราคาเป้าหมาย 4.12 บาท เนื่องจากคาดว่า กำไรสุทธิปี 2567 ทำระดับสูงสุดใหม่ที่ 57 ล้านบาท หรือ +82.0% YoY เทียบเท่า EPS ที่ 0.274 บาท อิง PER ที่ 15 เท่า ได้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2567 ที่ 4.12 บาท มี Upside gain 37.3% จากราคา IPO ที่ 3.00 บาท ซึ่งเทียบเท่า PER67 ต่ำเพียง 11 เท่า 

ดาริน กาญจนะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออพท์เอเชีย แคปิตอล จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน เปิดเผยว่า โครงสร้างรายได้และกำไรของ LTS ในช่วงที่ผ่านมา โดยในปี 2564 มีรายได้รวมประมาณ 163 ล้านบาท และมีกำไร 0.72 ล้านบาท ปี 2565 มีรายได้รวมประมาณ 232 ล้านบาทและกำไร 15.01 ล้านบาท ขณะที่ในปี 2566 มีรายได้รวม 227 ล้านบาท และกำไร 31.43 ล้านบาท การตอบรับซื้อหุ้น IPO ได้ตามเป้าหมายครั้งนี้ จึงมั่นใจว่าการขยายธุรกิจด้าน IT Solutions เข้ามาเสริม ยิ่งช่วยทำให้แนวโน้มการเติบโตทางธุรกิจมีแนวโน้มที่ดีได้ต่อไป”

ภัฏ ตรัสโฆษิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไลท์อัพ โทเทิล โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ LTS เปิดเผยว่า วัตถุประสงค์ของการเข้ามาระดมทุนในครั้งนี้เพื่อเพิ่มศักยภาพในการบริหารงาน โดยจะใช้เป็นทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ และขยายโชว์รูม รวมทั้งโกดังสินค้า เพื่อขยายกิจการให้มีความแข็งแกร่งขึ้น รองรับการขายสินค้าแก่โครงการขนาดใหญ่ 

ในปัจจุบัน LTS มีรายได้จากการการขายอุปกรณ์ส่องสว่างและอุปกรณ์เสริมสำหรับการติดตั้งอุปกรณ์ส่องสว่าง เช่น โคมไฟฟ้า ไฟสปอตไลท์ ไฟเพื่อการตกแต่ง แก่ลูกค้า 3 กลุ่มหลักคือ 

1) ลูกค้าสถาปนิกหรือผู้รับเหมา 
2) ลูกค้าโครงการรัฐบาล รัฐวิสาหกิจและเอกชนขนาดใหญ่ และ 
3) ลูกค้าค้าส่งและค้าปลีก ผ่านช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านทางพนักงานขายและช่องทางออนไลน์

โดยในอนาคตยังสามารถขยายธุรกิจเพื่อรองรับโครงการขนาดใหญ่ของบริษัทฯ อาทิ สวนสาธารณะอัจฉริยะ โครงการ smart pole, โครงการ smart city, โครงการ smart street light และ โครงการในอนาคตสำหรับ IT Solution โดยบริษัทจะเข้าไปมีส่วนร่วมในการพัฒนาและจำหน่ายชุดคำสั่งต่าง ๆ ให้แก่องค์กรต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น อุตสาหกรรม มหาวิทยาลัย ภาครัฐ และภาคเอกชน โดยมีการบริการแบบครบวงจร ซึ่งมีผลิตภัณฑ์หลัก 3 กลุ่ม ได้แก่ 

1) ด้าน Subscription เป็นการซื้อลิขสิทธิ์โปรแกรมมาเพื่อจัดจำหน่ายต่อเพื่อให้ลูกค้าสมัครใช้บริการในรูปแบบรายเดือนหรือรายปี 

2) Software Development เป็นการพัฒนาโปรแกรมขึ้นมาจากทีมงานของบริษัทซึ่งจะมีทั้งการขายสิทธิ์โปรแกรมให้แก่ลูกค้าหรือการให้เช่าใช้โปรแกรม และ 

3) General Service เป็นบริการให้คำแนะนำในการใช้โปรแกรมที่บริษัทให้บริการ รวมถึงการบริการอบรมพนักงานทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศรวมอยู่ด้วย
 
ทั้งนี้ บมจ. ไลท์อัพ โทเทิล โซลูชั่น หรือ LTS ผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าส่องสว่าง และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ภายใต้กลุ่มอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภค 

LTS ดำเนินธุรกิจจัดจำหน่าย ออกแบบและติดตั้งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ซึ่งประกอบด้วยผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าส่องสว่าง ในรูปแบบ smart pole, smart home automation โดยการออกแบบระบบส่องสว่างได้นำรูปทรงสถาปัตยกรรมของอาคารมาเป็นแนวความคิดในการออกแบบเพื่อให้เกิดความงดงามและมีเอกลักษณ์ประจำอาคาร หรือการรับติดตั้งระบบส่องสว่างให้แก่อาคารที่อยู่อาศัยทั้งบริเวณภายในและภายนอกอาคาร เช่น ห้างสรรพสินค้า คอนโด รีสอร์ต และโรงแรม เป็นต้น รวมถึงมีช่องทางการจำหน่ายแบบค้าส่งและค้าปลีก 

และในช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2566 บริษัทได้เพิ่มธุรกิจ IT Solutions เพื่อต่อยอดผลิตภัณฑ์และบริการให้สอดรับกับอุปกรณ์ IoT (Internet of Things) โดยในปี 2566 โครงสร้างรายได้จำแนกตามกลุ่มลูกค้า ได้แก่ 

1) กลุ่มผู้รับเหมาหรือสถาปนิก 
2) กลุ่มลูกค้าโครงการรัฐบาล รัฐวิสาหกิจและเอกชน 
3) กลุ่มค้าส่งและค้าปลีก และ 
4) ธุรกิจใหม่ 

LTS มีทุนชำระแล้วหลังเสนอขาย 103.30 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 151.60 ล้านหุ้นและหุ้นสามัญเพิ่มทุน 55 ล้านหุ้น โดยเป็นการเสนอขายต่อบุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์จำนวน 46.2 ล้านหุ้น เสนอขายต่อผู้มีอุปการคุณของบริษัท 4.4 ล้านหุ้น และเสนอขายต่อกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงาน 4.4 ล้านหุ้น เมื่อวันที่ 9, 10 และ 13 พฤษภาคม 2567 ในราคาหุ้นละ 3.00 บาท คิดเป็นมูลค่าการเสนอขาย IPO 165 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO  619.80 ล้านบาท 

ทั้งนี้ การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO พิจารณาอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (Price to Earnings Ratio: P/E Ratio) เท่ากับ 19.72 เท่า ซึ่งคำนวณจากกำไรสุทธิงวดปี 2566 หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วภายหลังการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ (fully diluted) จะได้กำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.1521 บาท โดยมีบริษัท ออพท์เอเชีย แคปิตอล จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน  บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
 
อย่างไรก็ตาม บริษัทมีประสบการณ์และความชำนาญในธุรกิจมากว่า 14 ปี โดยมุ่งเน้นการใช้นวัตกรรมในการช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและตอบโจทย์ให้กับทุกกลุ่มลูกค้าของบริษัท สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุน บริษัทจะนำไปลงทุนในตึกออฟฟิศ Showroom โกดังสินค้า และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนรองรับโครงการขนาดใหญ่ ได้แก่ สวนสาธารณะอัจฉริยะ โครงการ smart pole โครงการ smart city และ โครงการ smart street light เป็นต้น

LTS มีผู้ถือหุ้นใหญ่หลัง IPO คือ 

  • นายภัฎ ตรัสโฆษิต ถือหุ้นร้อยละ 38.52 
  • นายกิตติพงษ์ วิมลโนช ถือหุ้นร้อยละ 22.38 และ
  • นางสาวสุวิมล เชาวนโยธิน ถือหุ้นร้อยละ 6.60 

ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิของงบการเงินบริษัทภายหลังจากหักภาษีและเงินทุนสำรองตามกฎหมาย