18 ส.ค. นี้ ! จีนจ่อระงับเปิด ฟันด์โฟลว์ต่างชาติรายวัน หวังกู้วิกฤตหุ้นร่วง
"รัฐบาลจีน" เตรียมกู้วิกฤตตลาดหุ้นร่วงหนักมากกว่า 3 ปีซ้อน ผ่านการปกปิดข้อมูลเงินทุนต่างชาติไหลเข้า-ออก ตั้งแต่วันที่ 18 ส.ค. 2567 เป็นต้นไป
สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานวันนี้ (29 ก.ค.) ว่า รัฐบาลจีนได้ดำเนินการอีกขั้นหนึ่งเพื่อปกปิดข้อมูลเกี่ยวกับเงินทุนจากต่างประเทศที่ไหลเข้าและออกจากตลาดหุ้นที่ซบเซา โดยจะยุติการเผยแพร่ข้อมูลการไหลเข้า-ออกของเงินทุนรายวัน ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนส.ค.เป็นต้นไป
สำหรับการตัดสินใจข้างต้น รัฐบาลจีนส่งสัญญาณไว้ตั้งแต่เดือนเม.ย. ทว่าตลาดหลักทรัพย์เพิ่งจะประกาศอย่างชัดเจนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังจากในเดือนพ.ค. ที่ผ่านมาประกาศยุติการเผยแพร่ข้อมูลการไหลเวียนของเงินทุนระหว่างวันผ่านช่องทางการซื้อขายกับฮ่องกง
บทวิเคราะห์ของบลูมเบิร์ก เผยว่า นักลงทุนจะสูญเสียความสามารถในการคำนวณการไหลเวียนของเงินทุนสุทธิ ณ สิ้นวันทำการแต่ละวัน ตั้งแต่วันที่ 18 ส.ค.เป็นต้นไป
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 18 ส.ค. เป็นต้นไป ข้อมูลรายวันเพียงอย่างเดียวที่จะเผยแพร่โดยตลาดหลักทรัพย์ จะมีเพียงมูลค่าการซื้อขายรวมและจำนวนรายการซื้อขายที่เกิดขึ้นในหุ้นและกองทุนอีทีเอฟผ่านช่องทางเชื่อมโยงกับฮ่องกง รวมถึงมูลค่าการซื้อขายของหลักทรัพย์ 10 อันดับแรกที่มีการซื้อขายมากที่สุดเท่านั้น
เจ้าหน้าที่ตลาดหลักทรัพย์ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เริ่มตั้งแต่กำหนดเส้นตายในเดือนส.ค. ข้อมูลรวมเกี่ยวกับกระแสเงินทุนที่เรียกว่า "Northbound Flows" (เม็ดเงินลงทุนจากนักลงทุนในฝั่งฮ่องกงที่เข้ามาซื้อหรือขายหุ้นจีน) ที่ไหลเข้าสู่หุ้นรายตัวจะมีการเปิดเผยเฉพาะรายไตรมาสเท่านั้น ข้อมูลเกี่ยวกับการถือครองหุ้นรายตัวของนักลงทุนทั่วโลกจะถูกเปิดเผยในวันทำการที่ห้าของแต่ละไตรมาส โดยเป็นข้อมูล ณ วันสิ้นสุดของไตรมาสก่อนหน้า
เร่งสร้างความเชื่อมั่นตลาดทุน
ท่าทีการปกปิดข้อมูลล่าสุดนี้ เกิดขึ้นหลังจากความพยายามของผู้กำหนดนโยบายจีนในการพยุงความเชื่อมั่นที่กำลังสั่นคลอนของนักลงทุนในประเทศ ซึ่งได้รับผลกระทบจากการไหลออกของเงินทุนจากต่างประเทศ
ที่ผ่านมา ผู้จัดการกองทุนจากต่างประเทศขายหุ้นในจีนแผ่นดินใหญ่ออกไปประมาณ 3 หมื่นล้านหยวน (4.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในเดือนก.ค.จนถึงวันศุกร์ที่ 19 ก.ค. 2567 ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะเป็นการไหลออกรายเดือนที่มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.
แม้ว่าจะมีการยุติการเผยแพร่ข้อมูลรายวันในอนาคตอันใกล้ ทว่านักลงทุนยังคงสามารถประเมินทิศทางการไหลเวียนของเงินทุนเข้าสู่หุ้นจีนได้ผ่านรายงานรายไตรมาสที่เผยแพร่โดยธนาคารกลางแห่งประเทศจีน (PBOC) ซึ่งเกี่ยวกับสินทรัพย์ทางการเงินที่ถือครองโดยหน่วยงานต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเหล่านี้มักจะล่าช้าอย่างน้อยหนึ่งเดือน และมีแนวโน้มที่จะเกิดความล่าช้าโดยไม่มีการอธิบายสาเหตุ
อ้างอิง: Bloomberg
