โบรกหั่นราคาหุ้น THG เหลือ 22 บาท คาด Q3/67 ขาดทุนจากหนี้สูญ

โบรกหั่นราคาหุ้น THG เหลือ 22 บาท คาด Q3/67 ขาดทุนจากหนี้สูญ

บล.กรุงศรีหั่นราคาหุ้น THG เหลือ 22 บาทจาก 30 บาท หวั่น Q3/67 เผชิญขาดทุนจากตั้งสำรองค่าใช้จ่ายหนี้สูญจากปัญหาภายในบริษัท และปัญหาการควบคุมภายในบริษัทจนความเสี่ยงต่ออันดับเครดิตองค์กร อาจกระทบต้นทุนเงินทุนในอนาคต

KEY

POINTS

      

 บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กรุงศรี วิเคราะห์ สถานการณ์ บริษัท  ธนบุรี เฮลแคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG  มีมุมมองลบต่อผลการดำเนินงานปีนี้จะแย่กว่ากลุ่มฯ จากผลกระทบการปรับโครงสร้างของ  2  ธุรกิจเพื่อลดผลขาดทุน 

 

           ทั้งนี้ได้ประเมินราคาเป้าหมาย ที่ 22 บาท (เดิม TP24F30 บาท)วิธี DCF WACC 7.8% L-T growth 3% คิดเป็น Imply PE ปี 2568 ที่ 55เท่า เนื่องจาก

1.ผลการดำเนินงานปี  2567 จะแย่กว่ากลุ่มฯ จากผลกระทบปรับโครงสร้าง รพ.ธนบุรี บำรุงเมือง, ธุรกิจที่อยู่อาศัยผู้สูงอายุ และค่าใช้จ่ายพิเศษ

2 .ไตรมาส 3 ปี 2567 มีโอกาสขาดทุนหากต้องตั้งสำรองค่าใช้จ่ายหนี้สูญ

และ 3.ปัญหาการควบคุมภายในบริษัทส่งผลลบต่อภาพลักษณ์บริษัทเพิ่มเติมจากกรณีผู้บริหาร (อจ.บุญ วนําสิน)ถูกก.ล.ต สั่งปรับฐานให้ข้อมูลมีผลต่อราคาหุ้น (เมื่อ ส.ค. 65)  ทำให้เป็นความเสี่ยงด้านอันดับเครดิตองค์กร ซึ่งอาจกระทบต้นทุนเงินทุนในอนาคต

นอกจากนี้ THG มี Valuation แพงสุดในกลุ่ม รพ.ที่ศึกษาจากซื้อขาย PEปี 2568 ที่ 63เท่า สูงกว่า PEเฉลี่ย 34เท่า ของกลุ่ม รพ.ที่ศึกษา

     ก่อนหน้านี้ THG   แจ้งข่าวตลาดหลักทรัพย์ฯ ระบุ คณะกรรมการตรวจพบการทำรายการของบริษัทย่อย 2แห่ง ได้แก่ บ.โรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง (THB)และบ.ที เอช เฮลท์ (THH)ซึ่ง THGถือหุ้น 83%และ 51.2%  ตามลำดับ มีขั้นตอนการอนุมัติไม่ถูกต้องในการทำรายการ

1. ให้กู้ยืมเงินแก่ บ.ราชธานีพัฒนาการ (2014)ซึ่งมีครอบครัววนาสินถือหุ้นใหญ่ ในเดือน ธ.ค.22-ปี 23  มูลค่ารวม 145 ล้านบาท

2.ให้กู้ยืมเงินแก่ บ.ไทย เมดิเคิล กรุ๊ป (บ.ราชธานีพัฒนาการถือหุ้นใหญ่) ในปี 23มูลค่า 10 ล้านบาท  

และ 3.THH สั่งซื้อสินค้ําจํากบริษัทในสิงคโปร์ แต่ไม่ได้มีการรับมอบสินค้าจริง ในปี 23มูลค่า 55 ล้านบาท 

ปัจจุบันยอดหนี้คงค้างมูลค่ารวม 105 ล้านบาท (ไม่รวมดอกเบี้ย) มองว่าประเด็นที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาการควบคุมภายใน ซึ่งส่งผลลบต่อภาพลักษณ์บริษัท เบื้องต้นหาก THG ตั้งสำรองค่าใช้จ่ายหนี้สูญราว 110 ล้านบาทใน ไตรมาส 3 ปี 2667 (สมมติฐานอัตราดอกเบี้ย 7%ตั้งแต่ม.ค.23-ก.ย.24

โดยไตรมาส 3 ปี 2567 คาดว่าผลการดำเนินงาน THGมีโอกาสขาดทุน  หากไม่รวมการตั้งสำรองฯ คาดธุรกิจปกติจะมีกำไรลดลง  y-y  (3Q23กำไร308ลบ.)เนื่องจากคาดว่าธุรกิจ รพ. มีผลกระทบต้นทุนเพิ่มขึ้นจากการขยายศักยภาพให้บริการของ รพ.ธนบุรี 1(เพิ่มห้องตรวจ OPD 80ห้อง),รพ.ธนบุรี ทวีวัฒนา (เพิ่มห้องตรวจ OPD45ห้อง, IPD49เตียง), รพ.ราษฎร์ ยินดี (เพิ่มห้องตรวจ OPD5ห้อง)

ทั้งนี้เทียบ q-q คาดกำไรเติบโต (2Q24มีกำไร 43ลบ.)มีปัจจัยบวกฤดูกาลของการใช้บริการเพิ่มขึ้น ประกอบกับคาดผลกระทบของค่าใช้จ่ายปรับโครงสร้างลดลง และ รพ.ในพม่าไม่มีค่าใช้จ่ายพิเศษ

ดังนั้นปรับกำไรสุทธิปี 2567 ลงจากเดิม -69% เป็น 122 ล้านบาท (เดิม 393ลบ.) ส่วนปี 2568-2569 ปรับกำไรสุทธิลง -43% / -40%  เป็น 340ลบ. (เดิม 600ลบ.) /กำไรสุทธิ 495ลบ. (เดิม 825ลบ.) ตามลำดับ