NUSA อ่วม 9 เดือนขาดทุนต่อ 508 ล้าน จ่อเพิ่มทุน 2,613 ล้านหุ้น ราคา 0.20 บาท
NUSA อ่วมหนักงวด 9เดือน 67 ขาดทุน 508 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนขาดทุน 219 ล้านบาท รายได้ลดลงทุกธุรกิจ - ตุ้นทนพุ่ง โดยบอร์ดเตรียมเสนขายหุ้นเพิ่มทุน 2,613 ล้านหุ้น ที่ราคา 0.20 บาท อัตรา 5 : 1
บริษัท ณุศา จำกัด (มหาชน) หรือ NUSA รายงานผลประกอบการงวด 9 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2567 บริษัทฯมีรายได้รวมตามงบการเงินรวม จำนวน 914 ล้าน บาท ลดลงจำนวน 369 ล้านบาทหรือลดลง 29 % จากปีก่อน
โดยมีสาเหตุหลักมาจาก 1. รายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ลดลงจำนวน 75 ล้านบาท หรือลดลง17 % จากปีก่อน เนื่องจากปีก่อนมีการขายที่ดินเปล่า Big Lot โครงการแห่งหนึ่งของบริษัทฯ แต่ ณ ปัจจุบัน บริษัทฯไม่มีการขาย Big Lot แต่ยังคงมีการขายบ้านและห้องชุดตามสภาวะตลาดในประเทศ
2. รายได้จากการขายลดลงจำนวน 48 ล้านบาท หรือลดลง 75 % จากปีก่อน รายได้จากการขายส่วนใหญ่เป็นการขายสินค้าประเภท ATK ของบริษัทย่อย ของบริษัทฯ เนื่องจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด 19 บรรเทาลง จึงทำให้สินค้าประเภท ATK มีอัตราการขายที่ต่ำลง
3. รายได้อื่นลดลงจำนวน 145 ล้านบาท หรือลดลง 66 % จากปีก่อน ซึ่งส่วนใหญ่เกิดการลดลงของรายได้ดอกเบี้ยรับจากกิจการที่เกี่ยวข้อง กัน เนื่องจากมีการตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญส่วนที่เพิ่มขึ้นในงวดบัญชีทั้งหมด
4. รายได้จากการให้บริการทางการแพทย์ลดลงจำนวน 80 ล้านบาท หรือลดลง 44 % จากปีก่อน เนื่องจากในระหว่างไตรมาส 3 บริษัทย่อย ของบริษัทฯ หยุดดำเนินการประกอบธุรกิจการให้บริการทางการแพทย์และนำทรัพย์สินของบริษัทย่อยสำหรับการประกอบการดำเนินการไปให้บริษัทแห่งหนึ่งเช่า จึงทำให้รายได้ดังกล่าวลดลง
5. รายได้เงินปันผล ในระหว่างงวด 9 เดือน บริษัทฯ ได้รับเงินปันผลจำนวน 116 ล้านบาท
ต้นทุนขายอสังหาริมทรัพย์ งวดสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2567 จำนวน 415 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 51 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 14 % จากปีก่อน ต้นทุนขายอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้นในทิศทางตรงกันข้ามกับรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ที่ลดลง และเกิดจากตั้งค่าเผื่อการลดมูลค่าสินค้าจำนวน 19 ล้านบาทโดยบริษัทฯ มีอัตราขาดทุนขั้นต้นอยู่ที่ 11 % ซึ่งลดลงจากปีก่อน 30 %
ต้นทุนค่าเช่าและค่าบริการ งวดสิ้นสุด วันที่ 30 กันยายน 2567 จำนวน 220 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 20 ล้านบาท หรือ10 % จากปีก่อน ซึ่งสอดคล้องกับรายได้ค่าเช่า และค่าบริการที่เพิ่มขึ้น บริษัทฯมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 5 % (ปีก่อนอัตรากำไรขั้นต้นร้อยละ -1)
ต้นทุนขายสินค้างวดสิ้นสุด วันที่ 30 กันยายน 2567 จำนวน 18 ล้านบาท ลดลงจำนวน 46 ล้านบาท หรือ 72 % จากปีก่อน เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับรายได้ จากการขายที่ลดลง และบริษัทฯ มีอัตราขาดทุนขั้นต้นอยู่ที่ 2 ล้านบาท คิดเป็น 13 %
ค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหารงวดสิ้นสุด วันที่ 30 กันยายน 2567 บริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหารจำนวน 388 ล้านบาท ลดลงจำนวน 39 ล้านบาท หรือ 9 % เมื่อเทียบจากปีก่อน เนื่องจาก บริษัทฯมีการควบคุมค่าใช้จ่ายและบริหารจัดการค่าใช้จ่ายภายในโครงการ เพื่อให้สอดคล้องกับยอดขายและบริการที่ลดลง
ต้นทุนทางการเงิน งวดสิ้นสุด วันที่ 30 กันยายน 2567 บริษัทฯ มีต้นทุนทางการเงินจำนวน 252 ล้านบาท ลดลงจำนวน 29 ล้านบาท หรือ 10 % เมื่อเทียบกับปี ก่อน ซึ่งผันแปรตามกับการลดลงของหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ย
บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิผลการดำเนินงานรวมงวดสิ้นสุด วันที่ 30 กันยายน 2567 มีผลขาดทุนสุทธิ 499 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 211 ล้านบาท หรือ 73 % เมื่อเทียบจากปีก่อนขาดทุนสุทธิ ส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ ขาดทุนสุทธิ ส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่สำห รับงวดสิ้นสุด วันที่ 30 กันยายน 2567 มีผลขาดทุนสุทธิ 475 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 208 ล้านบาท เมื่อเทียบจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
นอกจากนี้บอร์ด NUSA มีมติ อกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน 2,613 ล้านหุ้น ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ ตามสัดส่วนการถือหุ้น โดยไม่จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นที่จะทําให้ บริษัทฯ มีหน้าที่ตามกฎหมายต่างประเทศ (Preferential Public Offering (PPO)) ในอัตราการจัดสรร 5 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นสามัญเพิ่มทุน ราคาเสนอขายหุ้นละ 0.20 บาท (ซึ่งเป็นราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าที่ตราไว้เนื่องจากบริษัทฯ มีผลขาดทุนสะสม) รวมมูลค่าไม่เกิน 522 ล้านบาท
และการออกและจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯ ครั้งที่ 6 (NUSA-W6) ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมที่มีสิทธิได้รับจัดสรรซึ่งได้จองซื้อและชำระค่าจองซื้อหุ้นภายใต้ธุรกรรมการออก และเสนอขายหุ้น PPO โดยไม่คิดมูลค่า ในอัตราจัดสรร 1 หุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ NUSA-W6 (“ธุรกรรมการออกและจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิNUSA-W6”) ซึ่งถือเป็นการเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิต่อผู้ถือหุ้นเดิม ตามสัดส่วนการถือหุ้น โดยไม่จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นที่จะทําให้บริษัทฯ มีหน้าที่ตามกฎหมายต่างประเทศ (PPO Warrant Sweetener)
โดยจัดสรรจำนวนไม่เกิน 2,613 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท เพื่อเสนอขายให้แก่ ผูู้ถือหุ้นเดิมที่มี สิทธิได้รับจัดสรร ในอัตราการจัดสรร 5 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นสามัญเพิ่มทุน ราคาเสนอขายหุ้นละ 0.20 บาท รวมมูลค่าไม่เกิน 522 ล้านบาท
จำนวนไม่เกิน 2,613 ล้าหุ้น เพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญ แสดงสิทธิNUSA-W6 ภายใต้ธุรกรรมการออกและจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิNUSA-W6 และ จำนวนไม่เกิน 136 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท เพื่อรองรับการปรับสิทธิตามใบสำคัญ แสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯ ครั้งที่ 5 (NUSA-W5)
บริษัทฯ ได้กำหนดวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนตามสัดส่วนการ ถือหุ้นเดิมที่มีสิทธิได้รับจัดสรร (Record Date) ในวันที่ 4 ธันวาคม 2567 และกำหนดวันจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขาย ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมที่มีสิทธิได้รับจัดสรรในระหว่างวันที่ 6 – 17 มกราคม 2568 (รวมเป็นระยะเวลา 10 วันทำการ)