“อัสสเดช” ย้ำเร่งรัดคดี “ฉ้อโกง” ชูแผนยุทธ์ศาสตร์ 3 ปี หุ้นไทยดึงดูดลงทุน
ผู้จัดการตลท. ย้ำความเชื่อมั่นตลาดทุนประสานทุกหน่วยงานเร่งดำเนินคดี พร้อมชูแผน 3 ปีเพิ่มเสน่ห์หุ้นไทยดึงดูดเม็ดเงิน ผุดโปรเจกต์ Jump+ Listing Hub เพิ่มแพลตฟอร์มลงทุนพันธบัตรด้วยบัญชีหุ้น ด้านตรวจสอบเพิ่มศักยภาพเทคโนโลยี AI จับรายการซื้อขายเตือนนักลงทุน
นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เผยแผนยุทธศาสตร์ตลาดทุนไทย 3 ปี (2568-2570) หลังเสนอบอร์ดเพื่อผลักดันตลาดหุ้นไทยให้กลับมาดึงดูดเม็ดเงินลงทุน ด้วยการเพิ่มสินค้าที่หลากหลาย และสร้างความเชื่อมั่นตลาดทุนไทยให้เข้าถึงการลงทุน การระดมทุนอย่างเท่าเทียม ซึ่งด้านการสร้างความเชื่อมั่นเคสคดีความในตลาดหุ้นไทยมีการประสานหน่วยงานเกี่ยวข้องดำเนินคดีรวดเร็ว เพื่อให้ผู้กระทำผิดเกิดความเกรงกลัวและสื่อสารให้นักลงทุนได้รับทราบ
สำหรับแผนงานดำเนินการ 3 กลยุทธ์หลักตั้งแต่ปี 2568 ซึ่งทางบอร์ดจะมีการประเมินผลงานเป็นเคพีไอถึงประสิทธิภาพการดำเนินการเป็นรายปีประกอบไปด้วย 1. มุ่งมั่นเพื่อโอกาสการเติบโต (Enable Growth Ambitiously) โดยจะมีโครงการ “Jump+”เพิ่มมูลค่าให้กับบริษัทจดทะเบียนอยู่ในตลาดที่ต้องการเพิ่มด้านการซื้อขาย ผลดำเนินการ และด้านผู้ถือหุ้น ให้มีการเสนอแผนที่ผ่านบอร์ดแล้วว่ากำหนดเป้าหมายด้านไหน เพื่อนำไปวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อให้นักลงทุนรับทราบเป็นการสมัครใจเข้าร่วมและพิจารณาตอบแทน เช่น ค่าธรรมเนียม โรดโชว์ การเปิดโอกาสให้บริษัทขนาดเล็ก MAI ขึ้นมาเติบโตในตลาด SET สามารถทำได้หลายด้านรวมทั้งควบรวมกิจการ
“ส่วนบจ.ใหม่ยังมีไอพีโออยู่ระหว่างยืนไฟลิ่ง 33 บริษัท แต่แผนระยะยาวต้องการเป็น Listing Hub แข่งระดับประเทศ ดึงบจ.-ธุรกิจต่างประเทศระดมทุนในกลุ่มธุรกิจที่ไทยมีจุดแข็ง เช่น อาหาร -ท่องเที่ยวและเฮลท์แคร์ ดึงสตาร์อัพ บริษัทขนาดเล็กเข้ามาระดมทุนศึกษา Venture Capital platform เป็นช่องทางพรีเซนต์ธุรกิจให้เจอแหล่งทุนและนักลงทุน ”
การนำระบบ AI ใช้ในงานด้านกำกับบริษัทจดทะเบียนมากขึ้นสร้างความน่าเชื่อถือและความเชื่อมั่น จากรายการซื้อขายสูงถึง 5.2 แสนรายการต่อวัน ข่าวรายงาน 260 ข่าวต่อวันจำนวนบจ. 900 บริษัท และมีบจ.ใหม่ปีละ 30-40 บริษัท ต้องใช้เทคโนโลยีเฝ้าระวัง ดำเนินมาตรการ และแจ้งเตือนแก่ผู้ลงทุนอย่างทันท่วงที
2. ร่วมพัฒนา เพื่อความทั่วถึง (Grow Together & Inclusively) พัฒนา Bond Connect Platform ซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลได้ทั้งตลาดแรกและตลาดรองผ่านบัญชี cash balance เพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้ลงทุนบุคคลเข้าถึงการลงทุนทั้งการซื้อขาย การโอนข้ามแพลตฟอร์มลงทุนได้จากบัญชีซื้อขายหุ้น
และ 3. สรรสร้างคนและอนาคต (Groom People & Our Future)สร้างคนรุ่นใหม่ (Next Gen) ที่มีความรู้ความเข้าใจด้านการเงิน และสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่ low carbon economy ร่วมกับพันธมิตร ด้วยการออกแบบรูปแบบ Carbon Market Platform ที่เหมาะสม เพื่อรองรับการซื้อขายคาร์บอนเครดิตทั้งในตลาดภาคบังคับ (Compliance market) และภาคสมัครใจ (Voluntary market) พัฒนาเครื่องมือในการคำนวณ Carbon Footprint ขององค์กร (SET Carbon) พร้อมสนับสนุนการสร้างหลักสูตรและจัดสอบผู้ทวนสอบ (Verifier) เพื่อส่งเสริมการมุ่งสู่ Low Carbon Economy และ Net Zero ในปี 259