ดัชนี S&P 500 เพิ่มเล็กน้อย นักลงทุนเมินคำเตือนเงินเฟ้อเฟด

ดัชนี S&P 500 เพิ่มเล็กน้อย นักลงทุนเมินคำเตือนเงินเฟ้อเฟด

ดัชนี S&P 500 ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในวันพุธ ในขณะที่ นักลงทุนประเมินศักยภาพในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในปีนี้ ท่ามกลางแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่

ซีเอ็นบีซีรายงานว่า ในวันพุธ ( 8 ม.ค.) ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 0.16% ปิดที่ 5,918.25 จุด ขณะที่ดัชนี Nasdaq Composite ลดลง 0.06% สู่ระดับ 19,478.88 จุด ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ Dow Jones Industrial Average ปรับตัวเพิ่มขึ้น 106.84 จุด หรือ 0.25% ปิดที่ 42,635.20 จุด ดัชนีหลักทั้งสามนี้มีแนวโน้มที่จะปรับตัวลดลงในรอบสัปดาห์เป็นสัปดาห์ที่สองติดต่อกัน

รายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐในเดือนธันวาคมที่เผยแพร่ในวันเดียวกัน สะท้อนให้เห็นว่าคณะกรรมการเฟดเกือบทั้งหมดเห็นว่าความเสี่ยงด้านขาขึ้นต่อแนวโน้มเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น ทำให้นักลงทุนกังวลว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอาจมีน้อยครั้งกว่าที่คาดไว้ในปีนี้

“ในการหารือเกี่ยวกับแนวโน้มของนโยบายการเงิน ผู้เข้าร่วมประชุมระบุว่าคณะกรรมการมาถึงจุดที่หรือใกล้จุดที่เหมาะสมที่จะชะลอการผ่อนปรนนโยบาย” รายงานการประชุมระบุ

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรพุ่งสูงขึ้นจากการคาดการณ์ว่าแผนการขึ้นภาษีศุลกากรและการลดภาษีของว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะส่งผลให้เงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้น บอนด์ยีลด์ผันผวนตลอดการซื้อขายวันพุธ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีพุ่งสูงถึง 4.7% ในช่วงหนึ่งซึ่งใกล้เคียงกับระดับเมื่อปลายเดือนเมษายน

หลังจากได้วิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจจำนวนมากในสัปดาห์นี้ ขณะนี้ นักลงทุนกำลังรอรายงานการจ้างงานประจำเดือนธันวาคมในจะเผยแพร่ในวันศุกร์

“บรรดานักวิเคราะห์พบว่าการสร้างแบบจำลองแนวโน้มของอัตราดอกเบี้ย การเติบโต และเงินเฟ้อเป็นเรื่องยากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายของทรัมป์ที่ยังอยู่ในขั้นตอนการจัดทำ” เจฟฟรีย์ โรช หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของบริษัทหลักทรัพย์ LPL Financial กล่าว “ตลาดอาจผันผวนหากมีเรื่องเซอร์ไพรส์ในรายงานการจ้างงานประจำวันศุกร์”

หุ้น Palantir หนึ่งในหุ้นที่ปรับขึ้นได้มากที่สุดใน S&P 500 ในปี 2024 โดยเพิ่มขึ้นมากกว่า 340% ลดลงเป็นวันที่สามติดต่อกันในวันพุธ โดยลดลง 2.5% ขณะหุ้น Advanced Micro Devices ผู้ผลิตชิป ลดลง 4.3% หลังจากที่ HSBC ปรับลดอันดับความน่าลงทุน