ดับหวัง! ทรัมป์ปัดข่าวลือ 'ผ่อนปรนแผนขึ้นภาษีทั่วโลก'

ดับหวัง! ทรัมป์ปัดข่าวลือ 'ผ่อนปรนแผนขึ้นภาษีทั่วโลก'

ข่าวดีเก้อ! ทรัมป์ปฏิเสธรายงานข่าวในวอชิงตัน โพสต์ เรื่องกำลังมองหาทางผ่อนปรนแผนขึ้นภาษีศุลกากรกับทั่วโลก ย้ำไม่เป็นความจริง เป็นแค่อีกหนึ่ง 'เฟกนิวส์'

ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ ปฏิเสธรายงานข่าวของหนังสือพิมพ์ชั้นนำอย่าง "วอชิงตัน โพสต์" ที่ระบุว่าทีมงานของเขากำลังหาทางผ่อนปรนความเข้มงวดในแผนขึ้นภาษีศุลกากรทั่วโลก โดยย้ำว่ารายงานข่าวนี้ไม่เป็นความจริง และเป็นเพียง "เฟกนิวส์" 

วอชิงตัน โพสต์ ได้รายงานอ้างแหล่งข่าววงใน 3 รายที่มีส่วนเกี่ยวข้องว่า ทีมงานของทรัมป์กำลังมองหาวิธีการใหม่ในการดำเนินมาตรการขึ้นภาษีศุลกากรกับ "ทุกประเทศ" โดยจะมุ่งเน้นไปที่สินค้าในเซกเตอร์สำคัญบางรายการที่ละเอียดอ่อนต่อความมั่นคงแห่งชาติหรือความมั่นคงทางเศรษฐกิจของสหรัฐเท่านั้น ไม่ใช่การขึ้นแบบเหมารวม ซึ่งจะถือเป็นการเปลี่ยนอย่างเห็นได้ชัดจากคำสัญญาที่ทรัมป์ให้ไว้ในช่วงหาเสียงว่าจะขึ้นภาษีศุลกากร 10% กับการนำเข้าสินค้าจากทุกประเทศ  

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวที่ปรึกษาหลายคนเปิดเผยด้วยว่า แผนดังกล่าวยังสามารถเปลี่ยนแปลงได้เสมอและยังไม่ได้ข้อสรุปชัดเจน ขณะที่วอชิงตัน โพสต์ ระบุว่ายังไม่ชัดเจนว่าภาษีศุลกากรจะมุ่งเป้าไปที่ภาคส่วนสำคัญใดบ้าง แต่จากการหารือเบื้องต้นได้เน้นในหลายด้านรวมถึง "ห่วงโซ่อุปทานอุตสาหกรรมการป้องกันประเทศ" ซึ่งจะทำให้มีการขึ้นภาษีกับเหล็ก เหล็กกล้า อะลูมิเนียม ทองแดง รวมถึงด้านอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่สำคัญ เช่น วัสดุทางเภสัชกรรม และด้านการผลิตพลังงาน ตั้งแต่แบตเตอรี่ แร่ธาตุหายาก ไปจนถึงแผงโซลาร์เซลล์

"เรื่องราวในวอชิงตันโพสต์ที่อ้างแหล่งข่าวไม่เปิดเผยตัวตนซึ่งไม่มีอยู่จริงนั้น ลงข่าวอย่างไม่ถูกต้องว่านโยบายภาษีศุลกากรของผมจะถูกผ่อนปรนลง ซึ่งนั่นไม่ถูกต้อง วอชิงตันโพสต์รู้ดีว่านั่นไม่ถูกต้อง นี่เป็นเพียงอีกตัวอย่างของข่าวปลอม" ทรัมป์ระบุในแพลตฟอร์ม Truth Social

รายงานข่าวดังกล่าวในวอชิงตัน โพสต์ ซึ่งเป็นสื่อหัวใหญ่ชั้นนำในสหรัฐ ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปพุ่งขึ้นอย่างมากในการซื้อขายเมื่อวันจันทร์ที่ 6 ม.ค. และค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ ในตะกร้าเงิน ก่อนที่ทรัมป์จะออกโรงปฏิเสธล่าสุด

ทั้งนี้ ทรัมป์ซึ่งจะสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 20 ม.ค. นี้ เคยประกาศเอาไว้ระหว่างการหาเสียงว่าจะขึ้นภาษีศุลกากร 10% กับการนำเข้าสินค้าจากทุกประเทศทั่วโลก และจะขึ้นภาษีศุลกากรอีก 60% กับสินค้านำเข้าจากจีน แต่ในภายหลังจากที่ชนะการเลือกตั้งแล้ว ทรัมป์ประกาศจะลงนามในคำสั่งบริหารตั้งแต่วันแรกที่เข้ารับตำแหน่ง โดยจะขึ้นภาษีจีน 10% และแคนาดากับเม็กซิโก 25% โดยอ้างเหตุผลเกี่ยวกับการทะลักของยาเสพติดผิดกฎหมายและการลักลอบเข้าเมือง

จอห์น เมอร์ฟี รองประธานอาวุโสของหอการค้าอเมริกัน ซึ่งเป็นกลุ่มล็อบบี้ยิสต์อันทรงอิทธิพลในวอชิงตันกล่าวกับรอยเตอร์สว่า ดูเหมือนทุกอย่างจะยังไม่ชัดเจนและยังไม่ได้ข้อยุติ "เราได้ยินการปฏิเสธอย่างเงียบๆ เรื่องแนวคิดที่จะมีการยกเว้นการขึ้นภาษีจำนวนมาก" 

เมอร์ฟีกล่าวด้วยว่า แม้ว่าการขึ้นภาษีศุลกากรในช่วงการดำรงตำแหน่งวาระแรกของทรัมป์จะไม่ทำให้เงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้น แต่ก็ส่งผลให้การลงทุนจากต่างประเทศและในประเทศรวมถึงความเชื่อมั่นทางธุรกิจลดลงอย่างเห็นได้ชัด “ยิ่งเราสามารถให้ความชัดเจน ความมั่นใจ และหลีกเลี่ยงต้นทุนอันสูงลิ่วของภาษีเหล่านี้ได้มากเท่าไร ก็จะยิ่งดีเท่านั้น”