ผู้นำ24ชั่วโมงฉบับ“ดร.ดาริกา ลัทธิพิพัฒน์” ผู้บริหารเข้าใจชีวิตลูกน้อง

ผู้นำ24ชั่วโมงฉบับ“ดร.ดาริกา ลัทธิพิพัฒน์” ผู้บริหารเข้าใจชีวิตลูกน้อง

มหาวิทยาลัยเปิด 24 ชั่วโมง ไม่มีวันหยุดดังนั้นไม่ว่าจะเป็นอาจารย์ หรือบุคลากรระดับไหน ทุกคนสามารถติดต่อ “อธิการบดี” ได้ไม่ว่าจะเป็นทาง Line หรือ E-mail และตอบคำถามเหล่านั้นด้วยตนเองเพราะการเป็นผู้บริหารจะต้องเข้าใจตารางการทำงานของบุคลากรแต่ละคนไม่เหมือนกัน

เมื่อเวลาเปลี่ยนผ่านการใช้ชีวิตของผู้คน ไม่ว่าจะเป็น ทัศนคติ พฤติกรรมย่อมเปลี่ยนแปลงตาม การปรับตัวให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจึงมีความสำคัญอย่างมาก การเป็นผู้นำมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (มธบ.หรือ DPU)ของ “ดร.ดาริกา ลัทธิพิพัฒน์” จึงต้องพัฒนาตนเองสม่ำเสมอ เปิดรับการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เพื่อนำไปสู่การผลิตบัณฑิตสร้างธุรกิจ สร้างมืออาชีพตอบโจทย์กับภาคธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรม

“ดร.ดาริกา” ถือเป็นทายาทรุ่น 3 ของ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (มธบ.) ที่กำลังก้าวเข้าสู่ปีที่ 55 ในเดือนพฤษภาคมปีหน้า ซึ่งมหาวิทยาลัยเปิด 24 ชั่วโมง ไม่มีวันหยุดดังนั้นไม่ว่าจะเป็นอาจารย์ หรือบุคลากรระดับไหน ทุกคนสามารถติดต่อ “อธิการบดี” ได้ไม่ว่าจะเป็นทาง Line หรือ E-mail และตอบคำถามเหล่านั้นด้วยตนเอง เพราะการเป็นผู้บริหารจะต้องเข้าใจตารางการทำงานของบุคลากรแต่ละคนไม่เหมือนกัน รวมทั้งการใช้ชีวิตแตกต่างกันออกไป 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

work life balance สไตล์ “นพ.พงษ์พัฒน์ ปธานวนิช” กก.ผู้จัดการ รพ.เมดพาร์ค

“หมอมิยู” ทันตแพทย์นักวิ่ง กับเป้าหมาย “วิ่งจนกว่าจะวิ่งไม่ได้”

ออกกำลังกาย กินคลีน ไม่สูบบุหรี่..แล้วทำไมเป็น "มะเร็งปอด"

เทคนิค "เตรียมความพร้อมก่อนเข้าอนุบาล" ที่คุณพ่อคุณแม่ต้องรู้

 

ผู้บริหารที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ 24ชั่วโมง

"บางคนส่ง line มาตอนตี 2 บางคนส่งมาตอนตี 4 ตี 5 หรือบางคนส่งช่วงเสาร์-อาทิตย์ จึงต้องเป็นผู้นำที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ตลอด 24 ชั่วโมง และต้องสามารถทำให้พนักงานทุกคนสามารถวางแผนการทำงานและใช้ชีวิตให้สอดคล้องกัน ทั้งตัวเราในฐานะผู้บริหารและผู้ใต้บังคับบัญชา โดยยึดหลักในการดำเนินชีวิตให้มีความสุขทั้งส่วนตัวและการทำงาน"

หลังเรียนจบด้านเคมีและการจัดการ และด้านบริหารธุรกิจจาก Imperial College London รวมทั้งเทคโนโลยีสารสนเทศที่ New South Wales University  “ดร.ดาริกา”.ในฐานะทายาทรุ่น 3 มธบ. ได้มาเรียนรู้งานแวดวงการศึกษา ในฐานะอาจารย์ประจำมากว่า 20 ปี กระทั่งถึงเวลาที่ต้องมาบริหารในตำแหน่งอธิการบดีเมื่อปี 2558

ผู้นำ24ชั่วโมงฉบับ“ดร.ดาริกา ลัทธิพิพัฒน์” ผู้บริหารเข้าใจชีวิตลูกน้อง

การทำงานช่วงเริ่มต้นเมื่อ 5 ปีก่อนไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเป็นจังหวะที่เทรนด์เทคโนโลยีในประเทศมีการเปลี่ยนแปลงมากมาย มีการปฎิวัติอุตสาหกรรม ภาคธุรกิจ ภาคการศึกษา มีการพูดถึง Start up มากขึ้น และมีการเปลี่ยนแปลงเชิงสังคมต่างๆ Thailand 4.0 

สิ่งที่ต้องทำอย่างแรก คือ การสื่อสาร การทำความเข้าใจ ด้วยกระบวนการที่ง่าย ให้เป็นไปตามเป้าหมายเดียวกัน ตามแผนกลยุทธ์ของมหาวิทยาลัย New Business New information ในการขับเคลื่อนยุคนั้นๆ

 

รับฟัง“ทุกคน”มีส่วนตัดสินใจ

ขณะที่ “อธิการบดี” มีหน้าที่เป็นผู้ผลักดันให้ผลผลิตนักศึกษาทุกคนเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ แต่ในทางปฏิบัติ “อธิการบดี”ไม่ได้รู้จักนักศึกษาทุกคน การขับเคลื่อนต่างๆจำเป็นต้องขอให้อาจารย์ผู้สอนเข้ามามีส่วนร่วมในการทำงาน

“การสื่อสาร” จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากและถือได้ว่าเป็นจุดที่ยากที่สุด เพราะต่อให้มีแผนงานดีเยี่ยม แต่ไม่มีใครให้ความร่วมมือก็ไม่สามารถขับเคลื่อนงานนั้นได้ ฉะนั้นการรับฟังความคิดเห็นของทุกฝ่ายมีความจำเป็นอย่างมากหลักการที่ใช้ในการทำงานคือจะไม่เป็นน้ำเต็มแก้วไม่ตัดสินใจคนเดียวจะเปิดรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย ผู้เกี่ยวข้อง ฟังให้มากที่สุด เพื่อมองหาแนวทางที่ดี ที่เหมาะสม

ช่วงแรกๆ ต้องปรับหลักสูตร การเรียนการสอน ห้องเรียน เนื้อหา วิธีการประเมินอาจารย์ ประเมินนักศึกษา โดยเน้นให้นักศึกษามีทั้ง Softskill และ Hardskill เพื่อให้ประสบความสำเร็จในชีวิตหลังเรียนจบออกไปสู่ตลาดงาน ซึ่งช่วง 5-6 ปีแรก เป็นช่วงยากลำบาก เพราะหลายคนมีคำถามมากมาย

โดยเฉพาะการรื้อหลักสูตร ที่ต้องปรับระบบข้างใน ปรับความเชื่อของคณบดี อาจารย์ในแต่ละคณะ จึงจำเป็นต้องมีการสื่อสาร เพื่อสร้างความเข้าใจให้แก่อาจารย์  ซึ่งการบริหารมหาวิทยาลัย ไม่สามารถทำคนเดียวได้ ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกคน จึงต้องสื่อสารไปยังทุกคณะและทุกระดับงานให้เข้าใจอย่างถ่องแท้

หลังจากบริหารมธบ.ผ่านไป 7 ปี ทุกวันนี้ “ดร.ดาริกา” ยังใช้หลักในการทำงาน ด้วยการรับฟังความคิดเห็นต่าง จากผู้ใต้บังคับบัญชา และฟังคำแนะนำจากผู้รู้ ผู้เชี่ยวชาญประกอบทุกเรื่องก่อนตัดสิน เพราะท่องไว้เสมอว่าจะต้อง“ไม่เป็นน้ำเต็มแก้ว” และเน้นการสื่อสาร การทำความเข้าใจ เพื่อให้การขับเคลื่อนทุกๆเรื่องเป็นไปตามเป้าหมายเดียวกัน

"เวลาอาจารย์เจอปัญหาหนักๆ เป็นความโชคดีที่จะ Switch off ปัญหาได้ทันที พอแก้ไม่ได้ ณ จุดนั้นจะไปทำอย่างอื่น ไม่นำปัญหากลับไปที่บ้าน แต่ไม่ได้ทิ้งปัญหา จะกลับมาค่อยๆ แก้ปัญหาที่เกิดขึ้นไปทีละเรื่องๆ ” ดร.ดาริกา กล่าวทิ้งท้าย