Checklist!! เตือนใจ 'เด็กรุ่นใหม่ GenZ' รู้เท่าทันสื่อ

Checklist!! เตือนใจ 'เด็กรุ่นใหม่ GenZ' รู้เท่าทันสื่อ

การเติบโตขึ้นมาในยุคดิจิทัล  ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้เด็กรุ่นใหม่ คน GenZสามารถเข้าถึงสื่ออินเทอร์เน็ต เพื่อการรับรู้ข้อมูลข่าวสารและเข้าถึงความบันเทิงรูปแบบต่าง ๆ ได้อย่างอิสระ

KEY

POINTS

  • เด็กและเยาวชนไทย หรือเด็กGenZใช้เวลาท่องโลกอินเทอร์เน็ตมากขึ้นถึงวันละ 3-10 ชั่วโมง/วัน อาจทำให้ มีพฤติกรรมติดอินเทอร์เน็ตและส่งผลเสียต่อสุขภาพ
  • “ความฉลาดทางดิจิทัล” Digital Intelligence Quotient (DQ) คือ กลุ่มความสามารถทางสังคม อารมณ์และการรับรู้ ที่ทำให้บุคคลสามารถเผชิญกับความท้าทายในการดำเนินชีวิตในยุคดิจิทัล
  • แนวทางการรู้เท่าทันสื่อ ต้องช่วยเพิ่มพูนปัญญาให้สามารถรู้คิด รู้เท่าทันสถานการณ์บริบทของสังคม  โดยต้องรู้จักการคิดวิเคราะห์ (Analytical Thinking) การคิดสังเคราะห์ (Synthesis Thinking) และการคิดวิพากษ์ (Critical Thinking)

 

การเติบโตขึ้นมาในยุคดิจิทัล  ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้เด็กรุ่นใหม่ คน GenZสามารถเข้าถึงสื่ออินเทอร์เน็ต เพื่อการรับรู้ข้อมูลข่าวสารและเข้าถึงความบันเทิงรูปแบบต่าง ๆ ได้อย่างอิสระ ซึ่งอาจส่งผลให้เด็ก ๆ มีความเสี่ยงที่จะเข้าถึงเนื้อหาที่เป็นอันตราย ผิดกฎหมาย  ถูกล่อลวงให้พูดคุยเรื่องที่ไม่เหมาะสม หรืออาจโดนกลั่นแกล้งทางออนไลน์

จากผลการสำรวจสถานการณ์เด็กไทยกับภัยออนไลน์ในปี พ.ศ. 2565 พบว่า เด็กไทยส่วนใหญ่มีแท็บเล็ตหรือสมาร์ทโฟนเป็น ของตัวเอง มีอินเทอร์เน็ตและ Wi-Fi ใช้งานที่บ้าน ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่ง ที่นำไปสู่ภาวะการเสพติดอินเทอร์เน็ตหรือเสี่ยงภัยออนไลน์เพิ่มขึ้น

ความพร้อมในการเข้าถึงโลกออนไลน์ดังกล่าวทำให้เด็กและเยาวชนไทย หรือเด็กGenZใช้เวลาท่องโลกอินเทอร์เน็ตมากขึ้นถึงวันละ 3-10 ชั่วโมง/วัน อาจทำให้ มีพฤติกรรมติดอินเทอร์เน็ตและส่งผลเสียต่อสุขภาพด้วย ปัญหาที่พบ ส่วนใหญ่มักเป็นเด็กที่ถูกหลอกลวงในโลกออนไลน์ เช่น หลอกให้รัก ขอภาพลับ และถูกล่วงละเมิดทางเพศเข้าข่ายเป็น “พฤติกรรมการเข้าหาเด็กเพื่อละเมิดทางเพศ (Child Grooming)”จนนำไปสู่ความเครียด เกิดภาวะซึมเศร้าและฆ่าตัวตายในที่สุด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

สภาการสื่อมวลชน พร้อมภาคีสมาชิกสื่อ 11 ฉบับ KICK OFF โครงการสร้างเสริมทักษะเท่าทันสื่อเพื่อเด็ก

70 ปี วารศาสตร์ มธ. ขับเคลื่อนภาคประชาชน รู้เท่าทันสื่อดิจิทัล

Gen Y -Gen Z ช่วงวัยที่ใช้อินเทอร์เน็ตมากที่สุด

ประเทศไทย ยังไม่มีกฎหมายรองรับในประเด็น Child grooming จึงเป็นประเด็น ที่ผู้ปกครองและผู้กำหนดนโยบายจะต้องให้ความสำคัญ เพื่อยุติกระบวนการแสวงหาผลประโยชน์และการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กและเยาวชนในยุคดิจิทัลนี้

นอกจากนี้ ประเทศไทยยังมีอัตราส่วน การใช้อินเทอร์เน็ตติดอันดับที่ 34 ของโลก คิดเป็นจำนวนผู้ใช้งาน มากกว่า 54 ล้านคน จากประชากรทั้งหมด 70 ล้านคน โดย ช่วงวัย ที่ใช้อินเทอร์เน็ตมากที่สุด คือ Gen Y (อายุ 22–41 ปี) ในขณะที่ GenZ (อายุน้อยกว่า 22 ปี) ซึ่งเคยเป็นช่วงวัยที่ใช้อินเทอร์เน็ต มากที่สุดในปีพ.ศ. 2564 กลับมีสถิติการใช้อินเทอร์เน็ตน้อยกว่า Gen Y ในปีพ.ศ. 2565

สำหรับ “กิจกรรม” ที่มีการเข้าใช้งานสูงสุด 5 อันดับแรก

  • อันดับ 1 ค้นหาข้อมูล (64.69%)
  • อันดับ 2 ติดตามข้อมูลข่าวสาร (58.1%)
  • อันดับ 3 ดูหนัง รายการ วิดีโอ (54.8%)
  • อันดับ 4 ค้นหาไอเดียใหม่ ๆ (54.4%)
  • อันดับ 5 ค้นหาHow To (50.6%)

Social Media ที่คนไทย “นิยม” ใช้งานมากที่สุด 5 อันดับแรก

  • อันดับ 1 Facebook (91%)
  • อันดับ 2 LINE (90.7%)
  • อันดับ 3 Facebook Messenger (80.8%)
  • อันดับ 4 TikTok (78.2%)
  • อันดับ 5 Instagram (66.4%)

Checklist!! เตือนใจ \'เด็กรุ่นใหม่ GenZ\' รู้เท่าทันสื่อ

เติมทักษะ DQ  รู้เท่าทันสื่อ รับมือภัยออนไลน์

นอกจากนั้น จากภาวะการฟื้นตัวภายหลังการระบาดของโรคโควิด-19 ในวงการศึกษา สะท้อนให้เห็นว่า “เด็กบางกลุ่มสามารถปรับตัวไปได้เร็วและบางกลุ่มปรับตัวได้ช้า” โดยกลุ่มที่มีการปรับตัวและเรียนรู้ได้เร็วนั้น เป็นกลุ่มที่มีความพร้อมในเรื่องการเรียนออนไลน์ทั้งด้านอุปกรณ์และอินเทอร์เน็ต พ่อแม่ผู้ปกครองให้การสนับสนุน และครูมีศักยภาพ สามารถปรับตัวในการจัดการเรียนการสอนรูปแบบออนไลน์ได้

ในขณะที่เด็กอีกกลุ่มเป็นกลุ่มที่ไม่ได้มีความพร้อม ฐานะยากจน ไม่มีอุปกรณ์สนับสนุนที่เพียงพอ อีกทั้งยังได้รับผลกระทบจากโควิด เช่น ผู้ปกครองตกงาน ขาดรายได้เจ็บป่วยหรือเสียชีวิตจากโควิด ทำให้เด็กกลุ่มนี้กลายเป็นเด็กกำพร้าและได้รับผลกระทบในระยะยาวอย่างรุนแรง

ในการพัฒนาทักษะดิจิทัลสำหรับผู้ใหญ่นั้น แรงงานไทยสามารถ ปรับตัวทางด้านดิจิทัลได้ดีส่วนหนึ่งมาจากโครงสร้างพื้นฐานของไทย ที่ดีขึ้น โดยเฉพาะเรื่องความครอบคลุมของสัญญาณอินเทอร์เน็ต แต่ความพร้อมด้านแรงงานอาจไม่ได้เพิ่มขึ้นเท่าที่ควร สะท้อนได้จาก แรงงานที่ใช้ทักษะด้านดิจิทัลเพื่อการทำงานได้ ยังมีสัดส่วนน้อย เพิ่มขึ้นช้า และกระจุกตัว รวมถึงผลการจัดอันดับความสามารถ ในการแข่งขันด้านดิจิทัล

โดยเฉพาะด้านการฝึกอบรมและการศึกษา ของไทยที่ลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปีพ.ศ. 2561 แม้ว่าความต้องการ ด้านแรงงานที่มีทักษะด้านดิจิทัลมีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องแต่ความพร้อม ของแรงงานที่มีทักษะด้านดิจิทัลไม่ได้ตอบสนองได้เท่าทันตามความ ต้องการอาจทำให้เห็น DigitalSkill Mismatch(ภาวะขาดทักษะด้าน ดิจิทัล) ในอนาคตรุนแรงมากยิ่งขึ้นด้วย

ความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลของไทยประจำปี พ.ศ. 2566 (World Digital Competitiveness Ranking 2023) จัดอยู่ในอันดับที่ 35 จก 64 ประเทศ โดยตั้งเป้าหมายการพัฒนา ให้อยู่ใน 30 อันดับแรกภายในปีพ.ศ. 2569 และก้าวสู่อันดับ 1 ในอาเซียนต่อไปในอนาคต จากการจัดอันดับของสถาบัน IMD (International Institute for Management Development) โดยวัดจากความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัล 3 ด้าน คือ ด้านองค์ความรู้(Knowledge) เทคโนโลยี(Technology)และความพร้อม สำหรับอนาคต (Future Readiness)

ความฉลาดทางดิจิทัล” เป็นหนึ่งในคุณลักษณะ ของผู้เรียนด้านผู้ร่วมสร้างสรรค์นวัตกรรม ซึ่งผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนา คุณภาพผู้เรียน คือ “ครูคณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษา” นับเป็นหัวใจ สำคัญในการถ่ายทอดองค์ความรู้ ทักษะ ตลอดจนเป็นแบบอย่างที่ดี ให้กับผู้เรียน ด้วยความสำคัญดังกล่าว

สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) ได้จัดทำโครงการพัฒนาเครือข่ายความร่วมมือในการ ส่งเสริมครูอาจารย์เพื่อพัฒนาคนสำหรับโลกยุคใหม่: การพัฒนา ความฉลาดทางดิจิทัลของผู้เรียนทุก ช่วงวัย เพื่อพัฒนาเครือข่ายความร่วมมือ กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ตลอดจนผู้ที่เกี่ยวข้องในมิติ ต่างๆและเปิดโอกาสให้ครูอาจารย์ในทุกระดับ และประเภทการศึกษาได้ร่วมกิจกรรมต้นแบบที่จะเป็นตัวอย่าง การพัฒนาความฉลาดทางดิจิทัลของผู้เรียนทุกช่วงวัยในการขับเคลื่อน พัฒนาคุณภาพผู้เรียนและยกระดับการจัดการศึกษาให้เกิดผลเป็น รูปธรรม นำพาประเทศไทยให้ก้าวไปสู่ประเทศที่มีรายได้สูงด้วยการ สร้างสรรค์นวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อการแข่งขันในโลกอนาคต

Checklist!! เตือนใจ \'เด็กรุ่นใหม่ GenZ\' รู้เท่าทันสื่อ

ความฉลาดทางดิจิทัล คืออะไร ?

“ความฉลาดทางดิจิทัล” Digital Intelligence Quotient (DQ) คือ กลุ่มของความสามารถทางสังคม อารมณ์และการรับรู้ ที่จะทำให้บุคคลสามารถเผชิญกับความท้าทายในการดำเนินชีวิต ในยุคดิจิทัล และสามารถปรับตัวให้เข้ากับสังคมดิจิทัลได้อย่าง มีความสุข ความฉลาดทางดิจิทัลจะครอบคลุมทั้งด้านความรู้ทักษะ ทัศนคติและค่านิยมที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิตด้วย

DQ Framework มีเป้าหมายเพื่อ “สร้างความฉลาดทางดิจิทัลในตัวบุคคล” ความฉลาดทางดิจิทัลเหล่านี้เป็นสิ่งที่เรียนรู้ได้ และเมื่อเรียนรู้แล้วจะช่วยให้เกิดประโยชน์สูงสุดจากการ ใช้เทคโนโลยี รวมถึงช่วยลดความเสี่ยงจากการใช้เทคโนโลยี ทั้งในชีวิตส่วนตัว และการทำงานด้วยเช่นกัน

DQ Framework แบ่งโครงสร้างของความฉลาดทางดิจิทัล ออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่“สาขา” หรือ“ด้าน”และ“ระดับ” โดยแบ่ง สมรรถนะของบุคคลเป็น 8 ด้าน ได้แก่

  • ตัวตนดิจิทัล(Digital Identity)
  • การใช้งานดิจิทัล(Digital Use)
  • ความปลอดภัยดิจิทัล(Digital Safety)
  • ความมั่นคงดิจิทัล(DigitalSecurity)
  • ความฉลาดทางอารมณ์ดิจิทัล(Digital Emotional Intelligence)
  • การสื่อสารดิจิทัล(Digital Communication)
  • การรู้ดิจิทัล (Digital Literacy)
  • สิทธิทางดิจิทัล (Digital Rights)

การรู้สื่อ (Media Literacy) ปัจจุบันสื่ออินเทอร์เน็ตเป็นช่องทางหลักในการรับข้อมูลข่าวสาร ผู้คนสามารถสร้างเนื้อหาต่าง ๆ ได้อย่างอิสระ (User Generated Content: UGC) ดังนั้นมาตรการการกำกับดูแลเนื้อหาต่าง ๆ ให้มี ความเหมาะสมต่อผู้ใช้งานจึงเป็นสิ่งสำคัญ สิ่งหนึ่งที่จะช่วยแก้ปัญหา ดังกล่าวได้คือ “การสร้างภูมิคุ้มกันให้ผู้เสพสื่อ” โดยการเสริมสร้าง ให้ทุกคนมี“ความรู้เท่าทันสื่อ” สามารถวิเคราะห์และประเมินข้อมูล ข่าวสารต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

แนวทางการรู้เท่าทันสื่อ ที่เด็กรุ่นใหม่ต้องมี 

โดยแนวทางการรู้เท่าทันสื่อ ต้องอาศัยการพัฒนาทักษะการคิดในหลายด้าน เพื่อเป็นการช่วยเพิ่มพูนปัญญาให้สามารถรู้คิด รู้เท่าทันสถานการณ์บริบทของสังคม  รวมถึงเพื่อสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงทั้งต่อตนเองและสังคมให้เป็นไปในทางที่ดี

  • การคิดวิเคราะห์ (Analytical Thinking)

เพื่อการจำแนกองค์ประกอบของเรื่องราว-เหตุการณ์  พร้อมอธิบายความสัมพันธ์และผลกระทบที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปสู่ข้อสรุปหรือคำตอบที่เหมาะสม

  • การคิดสังเคราะห์ (Synthesis Thinking)

โดยการนำเอาองค์ประกอบต่าง ๆ มาประมวลเข้าด้วยกัน  เพื่อสร้างข้อมูล ความรู้ และแนวคิดขึ้นใหม่

  • การคิดวิพากษ์ (Critical Thinking)

ผ่านการนำเอาข้อมูล ข้อเท็จจริง ข้อสนับสนุน และข้อโต้แย้งที่รอบด้าน มาใช้พิจารณาไตร่ตรองและประเมินอย่างรอบคอบ

Checklist!! เตือนใจ \'เด็กรุ่นใหม่ GenZ\' รู้เท่าทันสื่อ

รู้เท่าทันสื่อ โดยผู้รับสารจำเป็นต้องตระหนักว่า

  • ใครสร้างเนื้อหาสื่อนี้ขึ้นมา
  • ใช้วิธีการใดบ้างในการสร้างสื่อ
  • แต่ละคนรับรู้เนื้อหาสื่อต่างกันเพราะอะไร อย่างไร
  • มีเนื้อหาในสื่อที่ซ่อนและปลูกฝังค่านิยมบางอย่างไว้หรือไม่
  • สื่อผลิตเนื้อหานี้ส่งมาให้เราเพื่ออะไร

ความสามารถในการใช้ประโยชน์จากสื่อเป็นองค์ประกอบหนึ่งของการรู้เท่าทันสื่อ และการที่ผู้รับสารจะใช้สื่อให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและสังคมได้นั้น ผู้รับสารจำเป็นต้องประเมินสื่อได้ด้วยตนเองเพราะการรู้เท่าทันตนเองรู้เท่าทันสื่อจะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม เป้าหมายการเรียนรู้ของมนุษย์ไว้ 4 ประการ ดังนี้ 1. Learn to Know เรียนเพื่อให้มีความรู้  2. Learn to Do เรียนเพื่อที่จะทำเป็น 3. Learn to live with the others เรียนเพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้  4. Learn to Be เรียนเพื่อ รู้จักตนเอง

Checklist!! เตือนใจ \'เด็กรุ่นใหม่ GenZ\' รู้เท่าทันสื่อ