คุณเป็นผู้บริหารสายไหน? คนแบบใด? ทดสอบหลักการทำงานด้วย "DISC Personality"
คนแต่ละคนย่อมมีบุคลิก นิสัย ลักษณะ และความชอบที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งในองค์กร "การทำงานเป็นทีม" เป็นสิ่งที่ทุกองค์กรต่างมุ่งให้เกิดขึ้น เพราะผลลัพธ์ของการทำงานเป็นทีมจะทำให้ประสบความสำเร็จ องค์กรเติบโตอย่างรวดเร็ว
KEY
POINTS
- รู้จักตัวเอง รู้จักคน จะช่วยให้สามารถเข้าใจ ยอมรับ และปรับตัวเข้ากับผู้อื่น ทำงานเป็นทีมร่วมกันได้อย่างราบรื่น ไร้ความขัดแย้ง
- หลัก DISC Personality หรือ สัตว์ 4 ทิศ เป็นการแบ่งตามลักษณะบุคลิกของแต่ละคน ซึ่งจะช่วยผู้บริหาร ผู้นำ หรือนักลงทุน ได้รู้ว่าตัวเองควรจะบริหารคน หรือพัฒนาคนในแต่ละกลุ่มอย่างไร
- ลักษณะของคนในแต่ละกลุ่ม ย่อมมีจุดเด่น ข้อจำกัดที่แตกต่างกันออกไป การทำงานเป็นทีม จำเป็นต้องแบ่งงานให้เหมาะสมกับคน
ทุกคนในทีม ไม่ว่าจะเป็น ผู้นํา หรือพนักงาน สมาชิกในทีมล้วนมีความสำคัญในการขับเคลื่อนทีม ขับเคลื่อนองค์กรไม่ได้แตกต่างกัน “การทำงานเป็นทีม” สิ่งที่เป็นปัจจัยหลักๆ คือ การเข้าใจ การยอมรับและปรับตัวเข้าหากัน หากแต่ละคนมองแต่มุมของตัวเอง ไม่สนใจมุมมองของคนอื่น ย่อมเกิดความขัดแย้งขึ้นอย่างแน่นอน
เครื่องมือหนึ่งที่จะทำให้ผู้นำ ผู้บริหาร และพนักงานได้เข้าใจตนเอง และคนในทีมมากขึ้นนั้น คือ หลักสัตว์ 4 ทิศ หรือ DISC Personality ที่จะช่วยให้ทุกคนเข้าใจตัวเอง และผู้อื่นมากขึ้น ทำให้สามารถปรับตัวเขาหากันได้ง่ายขึ้น
“DISC Personality หรือ สัตว์ 4 ทิศ” เป็นหลักในการจัดกลุ่มบุคลิกลักษณะทางอารมณ์ และพฤติกรรมของนักเรียนตามทฤษฎีของนักจิตวิทยา William Moulton Marston ซึ่งหลายๆ คนอาจจะเคยทดสอบมาบ้างแล้วตอนเรียน เวลาคุณครูสั่งให้ทำกิจกรรมกลุ่ม ทำงานเป็นทีม ก็มักจะให้ทุกคนค้นหาตัวเองว่าเป็นลักษณะของสัตว์ประเภทไหน โดย สัตว์ที่จะนำมาเปรียบเทียบ จะมีทั้งหมด 4 ชนิด ได้แก่
- กระทิง (Dominance)
- อินทรี (Influence)
- หนู (Steadiness)
- หมี (Conscientiousness)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
ต่างวัยไร้ปัญหา!! "วิธีการทำงานเป็นทีม" หลากเจน หลายสไตล์ ก็blendกันได้
เทรนด์ใหม่ทั่วโลก!!ทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์ ข้อดี-ข้อจำกัดที่องค์กรต้องรู้
คุณคือคนที่มีลักษณะแบบสัตว์ชนิดไหน?
“DISC Model” คือ ลักษณะบุคลิกภาพของคนแต่ละประเภทที่สังเกตได้จากนิสัยการทำงานและสภาพแวดล้อมของคนแต่ละประเภท ซึ่งได้มีการจำแนกพฤติกรรมของมนุษย์ออกเป็น 4 ประเภทตามตัวอักษร DISC ได้แก่ D (dominance), I (influence), S (steadiness), C (conscientiousness) ซึ่งเปรียบได้กับสัตว์ 4 ชนิด เริ่มด้วย
- บุคลิกลักษณะแบบกระทิง (Dominance) : ตรงไปตรงมา, มีเป้าหมายชัดเจน, แข็งขันเด็ดเดี่ยว
บุคลิกลักษณะ : มีนิสัยรวดเร็ว ทันใจ หวังผลเลิศ ชอบลงมือทำงานด้วยตนเอง มากกว่าฟังคนอื่นว่าตามกันมา ดังนั้นความรู้ที่ได้สั่งสมมาจึงมาจากประสบการณ์ตรงของตัวเอง จึงไม่เชื่อทฤษฎี โดยบุคลิกแล้วจะมีลักษณะดุดัน กล้าชน กล้าเผชิญหน้า มีความมุ่งมั่น จริงใจ เคลื่อนไหวรวดเร็วอย่างมีเป้าหมาย
ชอบเห็นผลเร็ว ชอบอยู่แนวหน้า กล้าแสดงออก ชอบใช้พลัง มีปฏิกิริยาตอบสนองต่อปัญหาต่างๆ อย่างรวดเร็ว เหมือนวัวกระทิงที่เจอสีแดงแล้วจะวิ่งชนทันที ถือว่าเป็นทิศของนักรบ เพราะมีความกล้าเสี่ยง กล้าท้าทาย ชอบวิ่งชนกับปัญหา ผู้นำลักษณะนี้เหมือนนักการเมือง สื่อสารมวลชน ทนายความ มักจะมีบุคลิกของความเป็นกระทิงอยู่สูง
ข้อดี : พร้อมปกป้องดูแลคนอื่นแบบเป็นแม่ไก่กางปีกปกป้องลูกไก่ เป็นคนเอาพรรคเอาพวก ชอบอยู่เป็นกลุ่มก้อน ถือว่าเป็นทิศแห่งการยืนหยัด พร้อมเผชิญหน้ากับความขัดแย้งทุกรูปแบบ ท้าทายอำนาจอย่างเปิดเผย
ข้อเสียควรแก้ไข : ควรที่จะยอมผิดพลาดบ้าง รู้จักที่จะช้าๆ กับบางเรื่อง รู้จักอดทนรอคอย อย่าคิดเร็วทำเร็ว หัดทบทวนการตัดสินใจของตัวเองดูอีกครั้งว่าถูกต้องแม่นยำจริงๆ แล้วหรือไม่ เพราะอาจแฝงไว้ด้วยความมีความเป็นตัวตนสูง หรืออาจจะทำให้ดูเป็นคนชอบใช้อำนาจมากเกินไป
เช็กลักษณะนิสัยแบบอินทรี หนู และหมี
- บุคลิกลักษณะแบบอินทรี (Influence) : เข้าสังคม, ช่างพูดช่างคุย, ร่าเริงมีชีวิตชีวา
บุคลิกลักษณะ : เป็นคนชอบมองภาพรวมใหญ่ๆ เชื่อมโยงเครือข่ายแบบสร้างสรรค์ ไม่ค่อยสนใจรายละเอียด มีจินตนาการสูง เป็นนักคิดนักฝันสูง ชอบเรียนรู้เรื่องราวใหม่ๆ ชอบคิดนอกกรอบ แสวงหาความรู้ใหม่ๆ อยู่เสมอ มักจะไปที่ที่ไม่เคยไป เป็นจอมโครงการเจ้าแผนการ บางครั้งเหมือนพวกฝันกลางวัน สนใจทุกเรื่องราว
อยากทำทุกเรื่อง จนบางครั้งทำให้ไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน เพราะสนใจไปหมดทุกเรื่องแต่มักจะไม่อยู่กับอะไรนานๆ เป็นคนชอบอิสระสูง ชอบสร้างเรื่องประหลาดใจเสมอ อะไรที่เหนือความคาดหมายนั้นจะชอบเป็นพิเศษ ดังนั้นจะไม่ชอบทำอะไรแบบซ้ำซากจำเจ แบบพวกนักสร้างสรรค์งานโฆษณา ผู้กำกับภาพยนตร์ มักจะมีบุคลิกแบบอินทรีสูง
ข้อดี : จะมีชีวิตการทำงานที่มีสีสัน สนุกสนาน รักอิสระ มีความคิดสร้างสรรค์ ชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ จึงมีความรู้ที่หลากหลายและกว้างขวาง
ข้อเสียที่ควรแก้ไข : ไม่ค่อยจัดลำดับความสำคัญก่อนหลัง จับจด เบื่อง่าย
- บุคลิกลักษณะแบบหนู (Steadiness) : สุภาพ, ว่าง่าย, จิตใจโอบอ้อมอารี
บุคลิกลักษณะ : ให้ความสำคัญกับความรู้สึกและอารมณ์สูง ชอบใช้ใจมากกว่าการใช้กำลัง มีบุคลิกรวดเร็ว ว่องไว ปราดเปรียว ขี้เล่น ขับเคลื่อนพลังด้วยความรู้สึกที่ใส่ใจ ชอบช่วยเหลือดูแลคนรอบข้างแบบอบอุ่น ใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ หล่อเลี้ยงและดูแล ดึงคนมารวมกันอยู่ด้วยหัวใจได้อย่างมากมาย จะทำทุกวิถีทางที่ทำให้คนรอบข้างตัวรู้สึกดีอยู่เสมอ ถือว่ามีความเป็นผู้ให้สูง โดยลักษณะของหนูนั้นจะไม่เรียกร้อง เป็นคนไม่เปิดเผย มีแบบแผน และชอบสนองความต้องการของผู้อื่นมากกว่าความต้องการของตนเอง เป็นคนที่มีความประนีประนอมสูง ไม่ชอบเผชิญหน้ากับความขัดแย้ง จะหลีกเลี่ยงการปะทะรุนแรง
ลักษณะแบบหนูมักจะมีบทบาทหน้าที่เป็นผู้ประสานงานแบบเป็นกาวใจ มีความอ่อนโยนสุภาพ เป็นผู้บุคลิกในแบบผู้เยียวยา กล่าวคือเป็นฝ่ายตั้งรับ เป็นผู้ที่มีจิตวิทยาดี และผู้ที่เป็นจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยามักจะเป็นผู้ประสานงานให้เกิดความราบรื่นในหมู่คณะแบบกาวใจนั่นเอง คนในอาชีพศิลปิน นักร้อง นักแสดง นักดนตรี จิตรกร มักจะมีบุคลิกแบบหนูสูงสุด
ข้อดี : จะเป็นผู้ที่หลีกเลี่ยงความขัดแย้งรุนแรง ไม่ชอบปะทะหรือใช้กำลังทำลายล้าง จะได้กลิ่นของความขัดแย้ง หรือความไม่ลงรอยกันได้อย่างรวดเร็ว หน่วยงานใดที่ได้คนบุคลิกลักษณะแบบนี้จะโชคดี เพราะจะแก้ไขปัญหาความขัดแย้งได้รวดเร็วและราบรื่น
ข้อเสียที่ควรแก้ไข : หนูมักไม่ชอบเป็นผู้นำ โดยหากเป็นผู้นำลักษณะแบบหนูก็มักจะลาออกไปเสียก่อน เนื่องจากไม่สามารถจะอยู่ในท่ามกลางความขัดแย้งรุนแรงได้ และอาจจะถูกข่ม เนื่องจากมีความอ่อนโยน และประนีประนอมมากเกินไป เพราะจะเป็นขี้สงสารชอบความสงบ และรักสันติ
- บุคลิกลักษณะแบบหมี (Conscientiousness) : สันโดษ, ช่างวิเคราะห์, เจ้าหลักการ
บุคลิกลักษณะ : เป็นแบบเสถียร คือต้องการความมั่นคงสูง เป็นคนหนักแน่นแบบช้าแต่มั่นใจ มีนิสัยชอบวิเคราะห์วิจัย มีแบบแผนวิธีการทำงานที่ลงตัว หรือจะเรียกว่ามีระเบียบวินัยสูง มีความเชื่อว่าความเป็นระบบจะทำให้เกิดความสำเร็จ ไม่ชอบความวุ่นวาย มีความรอบคอบ จะมองทุกอย่างไปข้างหน้าเสมอ คิดล่วงหน้า ชอบวางแผนเป็นขั้นตอนอย่างมีตรรกะ
เป็นพวกอนุรักษนิยม คือมีขั้นมีตอนมีระบบระเบียบ ทำงานแบบใจเย็น มีหลักการสูง มีกรอบมีกติกา ในการดำเนินชีวิตใช้เหตุผลเยอะ บางครั้งอาจจะดูเหมือนเป็นคนที่สื่อสารยาก เพราะชอบทำงานแบบอนุรักษนิยม คือเป็นระบบเป๊ะๆ ไม่ค่อยชอบการเปลี่ยนแปลง ไม่ต้องการแบกรับความเสี่ยง จึงไม่ชอบทำอะไรแบบฉับพลันดำริ ชอบสังเกตการณ์ทุกสิ่งรอบตัว ไม่ชอบเกาะติดนัวเนีย รักษาระยะและพื้นที่ตัวเองสูง ไม่ให้ใครเข้ามาในชีวิตส่วนตัวมากนัก รักความสันโดษ เป็นลักษณะเหมาะกับการทำงานในอาชีพนักบัญชี นักการเงิน สรรพากร ดูแลเรื่องภาษี เนื่องจากมีความระมัดระวังและรอบคอบสูง
ข้อดี : จะเป็นผู้นำที่หาความผิดพลาดได้ยาก เพราะมีหลักการทำงานแบบมีระบบระเบียบ เคร่งครัดต่อกฎเกณฑ์ มีปรัชญาในการทำงานในลักษณะที่เรียกว่าป้องกันดีกว่าแก้ไข
ข้อเสียที่ควรแก้ไข : มีลักษณะการทำงานที่เคร่งเครียด ไม่ค่อยยืดหยุ่น ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง
เมื่อต้องทำงานร่วมกับคนในแต่ละลักษณะ
- การทำงานร่วมกับอินทรีย์
ฟังและให้ความสนใจกับไอเดียที่พวกเขาคิดค้น หลีกเลี่ยงการตำหนิหรือตัดสินในไอเดียที่พวกเขาแต่ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ อนุญาตและสนับสนุนการคิดอย่างสร้างสรรค์ เสนองานที่มีความหลากหลายให้กับเขา สนับสนุนพวกเขาด้วยการช่วยตรวจสอบเกี่ยวกับรายละเอียดหรือขั้นตอนการทำสิ่งต่างๆให้
- การทำงานร่วมกับกระทิง
สื่อสารอย่างตรงไปตรงมา สื่อสารด้วยความมั่นใจ แสดงให้เห็นว่าเขาสามารถมีส่วนร่วมในสิ่งที่กำลังจะทำได้อย่างไร พูดคุยเกี่ยวกับอุปสรรคที่น่าท้าทายให้พื้นที่สำหรับการปกครองตนเองในการทำงาน ตกลงเรื่องเวลาให้ชัดเจนและให้เกียรติเขาเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้คน
- การทำงานร่วมกับหนู
พิจารณาถึงความสำคัญในความสัมพันธ์ มีความยุติธรรมในการตัดสินใจทั้งในเรื่องของคุณธรรมและจริยธรรม อนุญาตให้สามารถแสดงความรู้สึกและอารมณ์ในเรื่องต่างๆ ได้ตระหนักอยู่เสมอว่าเค้าเป็นคนที่ปฏิเสธคนอื่นยากให้กำลังใจและทำให้เค้ารู้ว่าเขามีคุณค่าต่อคนอื่นอย่างไร
- การทำงานร่วมกับหมี
ให้เวลาตัดสินใจและให้ข้อมูลที่สำคัญ ในการพูดคุยให้ใช้หลักเหตุผล ค้นหาแบบแผนการทำงานและยอมรับการวิจารณ์ หากมีการเปลี่ยนแปลงอะไรควรต้องรีบแจ้งให้กระทิงรู้โดยเร็วที่สุด
หลักบริหาร พัฒนาตัวเองของสัตว์ทั้ง 4 ทิศ
- แนวทางการพัฒนาตัวเองของอินทรีย์
อินทรีย์มักจะขาดสมาธิในการจดจ่อเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่ต้องใช้ระยะเวลานาน อาจจะทำตามสิ่งต่างๆ ที่มีมาให้อยู่แล้วได้ไม่ค่อยดีนักขาดความใส่ใจในรายละเอียดที่จุกจิก บางครั้งอาจจะขาดความรอบคอบไม่อยู่กับปัจจุบันและให้ความสำคัญกับไอเดียมากกว่าข้อมูล ดังนั้นอินทรีย์ควรจะ
- เข้าใจความแตกต่างระหว่างความคิดกับสิ่งที่ทำได้จริง
- สังเกตว่าตัวเองจดจ่อเรื่องใดได้นานแค่ไหน
- เข้าใจว่าความสนุกสนานเฮฮาไม่สามารถใช้ได้ในทุกสถานการณ์
- แนวทางการพัฒนาตัวเองของกระทิง
กระทิงมักจะขาดการตัดสินใจที่รอบคอบ ใจร้อน ชอบแข่งขันและเปรียบเทียบง่ายและอารมณ์ร้อย บางครั้งปกป้องตนเองจากการถูกวิจารณ์และ อาจจะก้าวก่ายงาน ของคนอื่นที่ตัวเองไม่ได้รับมอบหมาย ดังนั้นกระทิงควรจะ
- ระมัดระวังอารมณ์ของตัวเองขณะที่โกรธ
- ใส่ใจการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้คน
- เพิ่มความสนใจในแผนการระยะยาวและรายละเอียด
- แนวทางการพัฒนาตัวเองหนู
หนูมักจะปฏิเสธไม่เป็นจนทำให้ถูกเอาเปรียบได้โดยง่าย มีปัญหาในการจัดการกับความขัดแย้งของตัวเอง ขี้เกรงใจขี้กังวลไ ม่กล้ายืนยันสิทธิ์ของตัวเอง ไม่กล้าตัดสินใจ ไม่ชอบเป็นผู้นำ ดังนั้นหนูควรจะ
- ฝึกฝนการทำอะไรคนเดียว และมั่นคงในการตัดสินใจ
- เรียนรู้วิธีการบอกข้อผิดพลาด แสดงความไม่เห็นด้วย อย่างตรงไปตรงมา
- เรียนรู้ที่จะเป็นผู้นำในบางครั้ง
- แนวทางการพัฒนาตัวเองของหมี
หมีมักจะผูกยึดติดอยู่ด้วยความคิด ไม่ยืดหยุ่น เชื่อหรือยอมรับผู้อื่นยาก ยึดติดในหลักการมากเกินไป คิดในกรอบจมอยู่กับรายละเอียดมากเกินไป ไม่เปลี่ยนแปลงอะไร มองข้ามเรื่องอารมณ์และความรู้สึกมีความคาดหวังที่สูงและกลัวความผิดพลาด ดังนั้นหมีควรจะ
- มีเวลาให้ตัวเองทำสิ่งที่ไม่คุ้นเคย แปลกใหม่
- รู้ตัวว่าควรให้ความรายละเอียดไหน ลดขั้นตอนที่ซับซ้อน
- ยืดหยุ่นตามสถานการณ์และผู้คนในบางครั้ง
การเข้าใจว่าผู้ร่วมงานหรือคนที่เราอยู่ด้วยมีลักษณะเป็นทิศอะไรจะช่วยให้เราเข้าใจการกระทำ เหตุผลที่อยู่เบื้องหลังของคนเหล่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณจะได้เข้าใจตนเองมากขึ้น เพราะเมื่อมีปัญหาอะไร ธรรมชาติของมนุษย์มักจะมองไปหาสิ่งที่เกิดขึ้นภายนอก ทั้งๆ ปัญหาอาจเกิดจากพฤติกรรมของตนเอง ความเป็นทิศเหล่านี้จะช่วยให้คุณเข้าใจกันมากขึ้น