3 ข้อต้องทำ คนไทยไปจีน หลังเปิดประเทศ ป้องกันโควิด-19
จีนเปิดประเทศ สธ. รอความชัดเจนมาตรการรัฐบาลจีน แนะคนไทยเดินทางไปจีนหลังเปิดประเทศ ปฏิบัติ 3 ข้อสำคัญ ฉีดวัคซีนโควิด-19เข็มกระตุ้นก่อนไป 2 สัปดาห์ เผยมาตรการรองรับกรณีเข้าไทยไม่แตกต่างระหว่างต้นทางฝั่งตะวันตก-เอเชีย
จากกรณีที่ประเทศจีนเปิดประเทศ ตั้งแต่ 8 ม.ค.2566 โดยยกเลิกการกักตัวสำหรับผู้โดยสารบนเที่ยวบินระหว่างประเทศ แต่ผู้เดินทางเข้าจีน ยังต้องทำการตรวจหาเชื้อแบบ PCR ก่อนออกเดินทางจากประเทศต้นทางเป็นเวลา 48 ชั่วโมง
เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.2565 นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ว่า ต้องรอความชัดเจนและนโยบายจากทางรัฐบาลของจีนก่อน เนื่องจากการเปิดประเทศมี 2 ส่วน คือ การเปิดประเทศในการให้มีนักท่องเที่ยวเข้าประเทศจีน และการเปิดประเทศให้คนจีนเดินทางออกนอกประเทศนั้น จะมีการกำหนดมาตรการ ขั้นตอนอย่างไร
สำหรับประเทศไทยไม่อยากให้มีการตั้งข้อรังเกียจหรือสงสัยเพราะการปฏิบัติในส่วนของนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าใครจะเหมือนกันทั้งหมดไม่ว่าจะมาจากฝั่งตะวันตกหรือฝั่งเอเซียก็ตาม สิ่งที่สำคัญ ต้องเตรียมคนไทยให้มีความพร้อม ต้องมีการรับวัคซีนให้ครบ 4 เข็ม เพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน โดยหากเข็มสุดท้ายนานเกิน 4 เดือนแล้วให้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น
และยังคงต้องใช้มาตรการเว้นระยะห่าง ล้างมือ สวมหน้ากากอนามัยในสถานที่ที่แออัดหรือมีผู้คนหนาแน่น เพื่อเสริมให้เกิดภูมิต้านทานและป้องกันโรค ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้ทีมวิชาการศึกษาว่ากลุ่มใดควรรับวัคซีนเข็มกระตุ้นและต้องเพิ่มจำนวนเท่าใด เพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน เป็นแนวทางการให้วัคซีนในปี 2566
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่คนไทยจำนวนไม่น้อยกังวลกรณีที่จีนเปิดประเทศ เนื่องจากยังมีรายงานการติดเชื้อในจีนที่ค่อนข้างสูง นพ.โอภาส กล่าวย้ำว่า สิ่งสำคัญต้องทำตัวเราให้พร้อม ฉีดวัคซีนโควิด-19 ตามที่กำหนด เพราะข้อมูลขณะนี้ คือ การฉีดวัคซีน 4 เข็มก็จะปลอดภัย เป็นมาตรการสำคัญ
“การติดเชื้อของ โควิด-19 ก็ใกล้จะเหมือนไข้หวัดทั่วไปแล้ว โดยพบว่าคนที่ติดเชื้อในรอบสองอาการรุนแรงน้อยลงเหมือนกับไข้หวัดตามฤดูกาล จึงให้ทางกรมควบคุมโรคเร่งสำรวจวิเคราะห์ผลการรับและติดเชื้อโควิดในรอบสองว่ามี จำนวนเท่าไหร่อาการของผู้ติดเชื้อมีความแตกต่างกันหรือไม่ แต่เท่าที่ทราบเบื้องต้นพบว่าอาการไม่รุนแรงและอาการค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับการติดเชื้อรอบแรก”นพ.โอภาส กล่าว
3ข้อต้องทำ คนไทยไปจีน
นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค(คร.) กล่าวว่า เนื่องจากสถานการณ์โรคโควิด-19ในประเทศจีนใกล้เคียงกับประเทศไทยไทย ดังนั้น คำแนะนำสำหรับคนไทยที่จะเดินทางไปหลังจีนมีการเปิดประเทศไทย ควรปฏิบัติตัวใน 3 ข้อสำคัญ ได้แก่
1.ฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มกระตุ้นก่อนเดินทาง 2 สัปดาห์ หากได้รับเข็มสุดท้ายมานานเกิน 4 เดือนแล้ว
2. สวมหน้ากากอนามัยตลอด ล้างมือบ่อยๆ
3.ปฏิบัติตามมาตรการที่จีนกำหนด
รพ.เอกชนพร้อมรับกลุ่มคนจีน
ขณะที่ ศ.นพ.เฉลิม หาญพาณิชย์ นายกสมาคมโรงพยาบาลเอกชน กล่าวว่า หากประเทศจีนมีการเปิดประเทศให้คนจีนสามารถเดินทางออกนอกประเทศได้ จะเป็นส่วนดีของภาคการท่องเที่ยวไทย อย่างไรก็ตามต้องดูในรายละเอียดอีกครั้งว่าเป็นการกำหนดกลุ่มที่จะเปิด หรือเปิดให้กลุ่มทั่วไป หากเปิดทั่วไปนักท่องเที่ยวจีนก็จะเดินทางเข้ามาประเทศไทยมาก
สำหรับรพ.เอกชน โดยปกติคนจีนจะเป็นลูกค้าภายในประเทศไทยส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยว จะมาในเรื่องของการตรวจสุขภาพ wellness และรักษาภาวะผู้มีบุตรยาก ก็จะดีกับตลาดด้านสุขภาพ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีกลุ่มคนจีนที่มาทำงานในประเทศเพื่อนบ้าน ก็เข้ารับบริการรพ.เอกชนด้วย กรณีสาขารพ.เกษมราษฎร์ที่เวียงจันทร์ สปป.ลาว กลุ่มคนจีนมารับบริการเพิ่มขึ้น 27 % หรือสาขาเชียงราย ลูกค้าคนจีนก็เข้ามารับบริการจำนวนมาก เนื่องจากฝั่งตรงข้ามเป็นแขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ที่จะพัฒนาเป็นเหมือนมาเก๊า ส่วนที่เข้ามารับบริการในกรุงเทพฯก็จะกระจายไปรับบริการ
“ในอดีตก่อนที่จะมีโควิด-19 ลูกค้าจีนมารับบริการตรวจสุขภาพและรักษาภาวะผู้มีบัตรยากจำนวนมาก หากจีนมีการเปิดประเทศ ก็จะทำให้ภาครพ.เอกชนไทยดีขึ้น เนื่องจากคนจีนไม่ได้เดินทางมาหลายปีแล้ว ซึ่ง 2 ปีที่ผ่านมาเผชิญกับการปิดเมือง เปิดเมือง และนักท่องเที่ยวทยอยเข้ามา ถึงสิ้นปี 2565 ได้ราว 11 ล้านคน แต่ที่เข้ามาส่วนใหญ่ไม่ใช่กลุ่มคนจีน ที่เข้ามามากที่สุดเป็นกลุ่ม CLMV คือ กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม กลุ่มนักท่องเที่ยวจากยุโรปที่มาท่องเที่ยว ส่วนการรักษา กลุ่มตะวันออกกลาง เป็นกลุ่มคนไข้ทยอยเข้ามามากขึ้นและเดินทางเข้ามารับการรักษาในไทยเร็วกว่ากลุ่มอื่นๆ”ศ.นพ.เฉลิมกล่าว
ถามถึงกรณีมีความกังวลเกี่ยวกับโควิด-19หรือไม่เมื่อจีนเปิดประเทศ ศ.นพ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่ เนื่องจากประเทศไทยผ่านเหตุการณ์หนักๆมามากแล้ว และผู้ติดโควิด-49ตอนนี้อาการรุนแรงไม่ได้มาก เพียงแต่จะต้องรับวัคซีนเข็มกระตุ้น หรือการรับวัคซีน 2 สายพันธุ์ที่จะเข้ามาในประเทศไทยต่อไปโดยภาคเอกชนที่จะนำเข้ามาซื้อขายได้ น่าจะราว ไตรมาส 2 ของปี 2566
“ผู้ป่วยโควิด-19 สู่ระบบการรักษาฟรีตามสิทธิประกันสุขภาพภาครัฐไปแล้ว โดยในส่วนระบบของภาคเอกชนเองก็มีความพร้อมในการให้บริการดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด-19 มีห้องรับ 200 ห้องต่อวัน ช่วง 1 เดือนที่ผ่านมามีมาใช้บริการ 160-170 ห้องต่อวัน ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนที่จ่ายเงินเองหรือผู้ที่มีประกันสุขภาพเอกชน แต่ตอนนี้การใช้บริการเริ่มซาลงแล้ว แต่หลังเทศกาลปีใหม่ต้องจับตาว่าจะเป็นอย่างไร เพราะคนมีการท่องเที่ยวและกิจกรรมอย่างมาก”ศ.นพ.เฉลิมกล่าว