"สธ." เตรียม 4 มาตรการรับ "คนจีน" คาดทยอยเข้าไทยเดือนละ 6 หมื่นคน

"สธ." เตรียม 4 มาตรการรับ "คนจีน" คาดทยอยเข้าไทยเดือนละ 6 หมื่นคน

"สธ." เตรียมเสนอ 4 มาตรการรับมือคนจากจีน แสดง ประวัติวัคซีน-ประกันสุขภาพ-ผลตรวจ ATK คาดทยอยเข้าไทยเดือนละ 6 หมื่นคน พร้อมคำแนะนำของประชาชนในประเทศ สวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในที่แออัด กลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนอย่างน้อย 4 เข็ม และตรวจ "ATK" เมื่อมีอาการ

เมื่อวันที่ 30 ธ.ค.2565 นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้าประเทศไทยในช่วงต้นเดือน ม.ค.2566 ว่า เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.ที่ผ่านมา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้เชิญ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา และตนเข้าร่วมประชุมหารือถึงมาตรการรองรับผู้เดินทางระหว่างประเทศ ตามที่มีการประชุมร่วมกันระหว่างกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และกระทรวงคมนาคม เมื่อวันที่ 28 ธ.ค. ที่ผ่านมา

 

โดยกระทรวงการต่างประเทศ รายงานว่า ก่อนที่จะมีการระบาดโควิด-19 ข้อมูลจำนวนผู้เดินทางจากประเทศจีนเข้าประเทศไทย สูงถึงปีละ 10 ล้านคน แต่ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ทำให้มีการจำกัดการเดินทาง และล่าสุด เมื่อรัฐบาลจีน ประกาศผ่อนคลายมาตรการเดินทางระหว่างประเทศแต่ยังอยู่ภายใต้เงื่อนไขต่างๆ จึงคาดการณ์ว่า ระยะแรกจะมีนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางเข้าประเทศไทยในลักษณะทยอยเข้ามาในแต่ละเดือน เพราะจะเป็นการเดินทางด้วยตนเองไม่ใช่ลักษณะการเดินทางผ่านทัวร์ท่องเที่ยว จึงมีเวลาตั้งตัว

 

โดยตัวเลขที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์ตั้งแต่เดือน ม.ค. - มี.ค. คือ จำนวน 6 หมื่นคน 9 หมื่นคน และ 150,000 คน ตามลำดับ หรือประมาณ 5% ของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมดในช่วงเวลาเดียวกัน

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

ประชากรในประเทศจีนได้รับวัคซีนป้องกันโควิดในเปอร์เซนต์สูง คือ 2 เข็มแล้ว 90% และ 3 เข็ม 58% ซึ่งหากติดเชื้อมักจะป่วยไม่รุนแรง ขณะเดียวกัน สายพันธุ์โควิดที่ระบาดในประเทศจีน ก็เคยพบในไทย อาทิ สายพันธุ์ย่อยโอมิครอน BA.5 ที่เคยระบาดในประเทศไทยในช่วงเดือน มิ.ย. - พ.ย.ที่ผ่านมา

 

ซึ่งข้อมูลจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ รายงานว่า ปัจจุบันสายพันธุ์หลักที่ระบาดในไทยเป็น BA.2.75 แล้ว ทั้งนี้ สธ.จะได้นำข้อเสนอในที่ประชุมมาพิจารณาปรับเป็นแนวทางเพื่อออกมาตรการที่เหมาะสมโดยคำนึงถึงผลกระทบทุกมิติ ทั้งสุขภาพและเศรษฐกิจสังคม และเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน

 

เตรียม 4 มาตรการ รับชาวจีน

 

นพ.จักรรัฐ กล่าวว่ามาตรการที่ สธ. จะเสนอในที่ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องวันที่ 5 ม.ค.2566 ประกอบด้วย

1.ผู้เดินทางเข้าประเทศไทยทุกคนจะต้องมีประวัติการรับวัคซีนโควิด-19 อย่างน้อยคนละ 2 เข็ม

2.ผู้เดินทางทุกสัญชาติที่มีต้นทางมาจากประเทศจีน จะต้องมีประกันสุขภาพที่ครอบคลุมการรักษาโรคโควิด-19 ส่วนคนไทยสามารถใช้สิทธิการรักษาในประเทศได้จาก 3 กองทุน คือ กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) กองทุนประกันสังคม และ กองทุนสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ

3.มีผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยเอทีเค (ATK) เป็นอย่างน้อย ผลเป็นลบก่อนเดินทางถึงไทย 48 ชั่วโมง

4.ขอความร่วมมือผู้เดินทางปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค DMH คือ สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง และล้างมือด้วยแอลกอฮอล์

 

ขณะเดียวกัน กรมควบคุมโรคจะปฏิบัติตามแนวทางการดำเนินงานเฝ้าระวัง และค้นหาโรคติดเชื้อโควิด-19 ในกลุ่มประชากรเสี่ยง และสถานที่เสี่ยง (Sentinel Surveillance) ด้วยการสุ่มตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR ในผู้เดินทางเข้าประเทศ ณ สนามบินระหว่างประเทศ ไปจนถึงการเฝ้าระวังการติดเชื้อในจังหวัดท่องเที่ยว สถานที่เสี่ยงและกลุ่มนักท่องเที่ยว

 

คำแนะนำของประชาชนในประเทศ 

 

1.สวมหน้ากากอนามัย เมื่อเข้าไปในที่ชุมชน หรือสถานที่แออัด

2.กลุ่มเสี่ยง 608 จะต้องได้รับวัคซีนโควิด-19 อย่างน้อยคนละ 4 เข็ม

3.หากมีอาการป่วยระบบทางเดินหายใจ ให้คัดกรองตนเองด้วยเอทีเค กรณีที่ติดเชื้อโควิด-19 ที่มีอาการน้อยสามารถรับประทานฟ้าทะลายโจร และยาตามอาการ สังเกตอาการอยู่ที่บ้าน หากมีอาการป่วยปานกลาง สามารถติดต่อสถานพยาบาลเพื่อรับการรักษาในโรงพยาบาลได้