"ขจัดความหิวโหย" ไทยคะแนนตกต่ำ เป้าพัฒนาที่ยั่งยืน SDGs
เป้าหมายที่ 2 การพัฒนาที่ยั่งยืน SDGs ขจัดความหิวโหย ไทยคะแนนตกต่ำทั้งความหิวโหย ความมั่นคงทางอาหาร คุณภาพและความปลอดภัยด้านอาหาร นักวิชาการชี้แก้ปัญหาระบบอาหาร ช่วยคลี่คลายอีกหลายปัญหา
เมื่อเร็วๆนี้ สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) จัดเวทีระดมความเห็นการขับเคลื่อนนโยบายอาหารปลอดภัยและความมั่นคงทางอาหาร โดยเชิญภาคีเครือข่ายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ ภาควิชาการ และภาคประชาสังคม มาร่วมกันแลกเปลี่ยนข้อมูลสถานการณ์ วิเคราะห์ช่องว่าง รวมทั้งระดมความเห็นและข้อเสนอแนะในการบูรณาการ การขับเคลื่อนนโยบายอาหารปลอดภัยและความมั่นคงทางอาหารของประเทศไทย
ขจัดความหิวโหย คะแนนSDGsไทยตกต่ำ
นพ.สุเทพ เพชรมาก เลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยยังพบปัญหาที่มีผู้คนจำนวนมากเข้าไม่ถึงอาหาร หรือเผชิญกับภาวะการขาดสารอาหาร ซึ่งหากไปดูสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดในหลายๆ โรค ก็จะพบว่ามีรากที่มาจากภาวะการขาดสารอาหารด้วย ประเด็นเรื่องอาหารจึงนับเป็นอีกหนึ่งภารกิจที่ต้องร่วมกันดำเนินการอีกมาก
ในระดับโลกมีเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ SDGs เป้าหมายที่ 2 ขจัดความหิวโหย ที่แต่ละประเทศมุ่งขับเคลื่อนให้บรรลุตามตัวชี้วัด ส่วนในไทยท่ามกลางสถานการณ์ที่ดูเหมือนจะเจริญขึ้น มีอาหารมากขึ้น มีกินมากขึ้น
"แต่กลับพบว่าไทยได้คะแนนตกต่ำลงในหลายดัชนี ไม่ว่าจะเป็นประเด็นความหิวโหย ความมั่นคงทางอาหาร คุณภาพและความปลอดภัยด้านอาหาร จึงเป็นโจทย์สำคัญที่เราจะมาร่วมกันทำอย่างไร เพื่อบูรณาการภารกิจ หน่วยงาน แผนปฏิบัติการต่างๆ ผนวกกับนวัตกรรม เทคโนโลยีที่มีมากขึ้น มาช่วยกันแก้ไขปัญหาเหล่านี้” นพ.สุเทพ กล่าว
ระบบอาหาร ความท้าทายเป้า SDGs ไทย
ขณะที่ ผศ.ชล บุนนาค ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG Move) กล่าวในการเสวนา “นโยบายอาหารปลอดภัยและความมั่นคงทางอาหารของไทย: ทิศทางและความท้าทาย”ว่า เป้าหมายที่ 2 ขจัดความหิวโหย หรือ Zero Hunger ของ มีประเด็นที่ครอบคลุมในหลายมิติมากกว่าเพียงแค่เรื่องของอาหาร
ความเข้าใจของคนมักคิดว่าไทยป็นประเทศผู้ส่งออกอาหาร น่าจะมีสถานะในเรื่องนี้ที่ดี แต่ความเป็นจริง จากการประเมินโดยหลายแหล่งกลับชี้ให้เห็นตรงกันว่า ระบบอาหาร กลับเป็นประเด็นความท้าทายที่สำคัญในเป้าหมาย SDGs ของประเทศไทย
“ตัวชี้วัดตามเป้าหมายที่ 2 ของ SDGs ไทยไม่พัฒนาขึ้นและยังมีแนวโน้มถดถอยลงด้วย สะท้อนว่ายังมีระบบอาหารที่ยังไม่ยั่งยืน ซึ่งต้องมองภาพที่กว้างกว่าแค่เรื่องของอาหาร เพราะยังมีความเกี่ยวข้องกับมิติอื่นๆ”ผศ.ชลกล่าว
ระบบอาหารยั่งยืน คลี่คลายหลายปัญหา เป้า SDGs
ในการพิจารณาระบบอาหารที่ยั่งยืน จึงอาจต้องเชื่อมโยงภาคีทุกภาคส่วนเพื่อมาร่วมขับเคลื่อนในเรื่องนี้ เพราะเรื่องของระบบอาหารและการเกษตรนั้น ยังมีส่วนไปสร้างผลกระทบทางลบให้กับเป้าหมายอื่นๆ ของ SDGs ได้อีกจำนวนมาก ฉะนั้นหากทำให้ระบบอาหารยั่งยืนได้ ปัญหาหลายๆ อย่างก็มีส่วนที่จะคลี่คลายลงไปได้ด้วย
ด้านดร.กนกวรรณ มนูญผล นักวิชาการอาหารและยาชำนาญการพิเศษ กองอาหาร สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า ปัจจุบันไทยมีแผนปฏิบัติการด้านการจัดการด้านอาหารของประเทศไทย ระยะที่ 1 (พ.ศ. 2566 - 2570) ที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 14 มี.ค. 2566 เป็นหนึ่งในเครื่องมือการทำงาน ที่กำหนดกลยุทธ์และเป้าหมายความสำเร็จต่างๆ
แต่ขณะเดียวกันในการดำเนินงานตามตัวชี้วัดต่างๆ ปัจจุบันก็ต้องเผชิญกับปัจจัยความท้าทายที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในแต่ละปี ไม่ว่าจะเป็นปัญหาสภาพแวดล้อม สภาวะสงคราม สภาพเศรษฐกิจและการเมืองโลก เป็นต้น
นางศศิวิมล ทับแย้ม ผู้เชี่ยวชาญด้านมาตรฐานสุขอนามัยพืช สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) กล่าวว่า สำหรับแนวทางการดำเนินงานที่จะต้องบูรณาการภาคส่วนต่างๆ ร่วมกันต่อจากนี้ จะต้องมาอัพเดทสถานการณ์ร่วมกันว่าหน่วยงานต่างๆ ที่รับผิดชอบอยู่ ปัจจุบันมีสถานการณ์ แผนงาน งบประมาณ ข้อจำกัด อย่างไร ตลอดจนเสียงสะท้อนและข้อเสนอที่รวบรวมจากภาคส่วนต่างๆ ช่วยในการเป็นข้อมูลนำเข้าสู่กลไกกลาง เพื่อพัฒนาไปเป็นโยบายในภาพใหญ่ของประเทศ