“ตู้ห่วงใย” รักษา 42 กลุ่มโรค 30 บาทรักษาทุกที่ กรุงเทพฯ
30 บาทรักษาทุกที่ กรุงเทพฯ เปิดตัว “ตู้ห่วงใย" ตั้งที่ชุมชน รักษา 42 กลุ่มโรค นวัตกรรมช่วยดูแลรักษาไม่ต้องไปรพ. เพิ่มความสะดวก-รวดเร็ว ลดความแออัด-ระยะเวลารอคอย นำร่องแห่งแรกที่ชุมชนสหกรณ์เคหสถานเจริญชัย นิมิตใหม่ เล็งขยายทั่วประเทศ
เมื่อวันที่ 18 พ.ย. 2567 ที่ชุมชนสหกรณ์เคหสถานเจริญชัยนิมิตใหม่ แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร มีการเปิดตัว "ตู้ห่วงใย"บริการการแพทย์ทางไกลเชิงรุกในชุมชนด้วย 30 บาทรักษาทุกที่" ซึ่ง ตู้ห่วงใย เป็นนวัตกรรมใหม่ที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) ร่วมกับ บริษัท ทัช เทคโนโลยี จำกัด พัฒนาขึ้นเพื่อดูแลสุขภาพประชาชนในพื้นที่ที่ไม่สะดวกในการเดินทางไปหน่วยบริการปฐมภูมิ
โดยมีลักษณะเป็น Health Station ที่ติดตั้งอุปกรณ์สื่อสารและอุปกรณ์วัดสัญญาณชีพต่างๆ เพื่อให้คนในชุมชนสามารถตรวจค่าสุขภาพพื้นฐานที่แม่นยำและรับผลการตรวจทันที อีกทั้งยังสามารถพบแพทย์ผ่านระบบวิดีโอคอล และกรณีที่ต้องรับยาสาสามารถเลือกรับยาที่บ้าน หรือไปรับที่ร้านยาที่เข้าร่วมโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ด้วยตัวเองได้ ช่วยให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์ได้ครอบคลุม สะดวก รวดเร็ว มากขึ้น
เล็งขยายตู้ห่วงใยทั่วประเทศ
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข กล่าวในการเป็นประธานเปิดตัวว่า รัฐบาลมีเป้าหมายที่จะยกระดับระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติผ่านนโยบาย 30บาท รักษาทุกที่ เพื่อให้คนไทยได้รับบริการที่ดี ครอบคลุมและทั่วถึง โดยการขับเคลื่อนให้สำเร็จจำเป็นต้องพัฒนานวัตกรรมบริการรูปแบบใหม่ด้วยการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย นวัตกรรมบริการ ตู้ห่วงใยจะช่วยให้ประชาชนเข้าถึงบริการสุขภาพที่มีคุณภาพและมาตรฐานผ่านระบบออนไลน์อย่างสะดวก รวดเร็ว และใกล้บ้าน พร้อมบริการจัดส่งยาถึงบ้านโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย
รวมถึง ช่วยลดความแออัดของรพ.เนื่องจากแต่ละปี มีประชาชนใช้บริการในโรงพยาบาลประมาณ 304 ล้านครั้ง ลดระยะเวลารอคอยการรักษาพยาบาล และ ลดปัญหาการขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์ หลังนำร่องแห่งแรกภายในปีนี้จะพยายามขยายให้ได้ 50 แห่งในกรุงเทพฯ ส่วนปีหน้าจะเริ่มขยายการให้บริการในพื้นที่ต่างจังหวัด จะขยายไปยังพื้นที่อื่น ๆ ทั่วประเทศต่อไป และอยากขอเชิญชวนบริษัทอื่นเข้ามาร่วมลงทุน เพื่อการให้บริการประชาชนครอบคลุมยิ่งขึ้น
“แนวนโยบายรัฐบาลในการตรวจรักษาประชาชนด้วยระบบเทเลเมดิซีนจากตู้ห่วงใย รักษา 42 กลุ่มโรค เพื่อให้หมอกับคนไข้ได้คุยกันใกล้ชิดโดยไม่ต้องไปโรงพยาบาล สปสช.ได้จัดตู้ห่วงใยมาให้บริการ ใช้พื้นที่ไม่มาก มีการตรวจวัด ส่วนสูง น้ำหนัก ความดัน ถามประวัติคนไข้ จากนั้นข้อมูลส่งไปยังศูนย์บริการ มีแพทย์รับสาย วิเคราะห์ข้อมูล ตรวจรักษา โดย 1 วัน ตู้ห่วงใยสามารถให้บริการได้ 72 คน เฉลี่ย 1 ชั่วโมงต่อ 6 คน”นายสมศักดิ์กล่าว
ตู้ห่วงใย ดูแล 42 กลุ่มโรค
นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกับสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า นโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ นับเป็นอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของของระบบบัตรทอง ไม่เพียงแต่เพิ่มความสะดวกในการเข้ารับการรักษาพยาบาลให้กับประชาชนผู้มีสิทธิ 48 ล้านคน โดยนอกจากเข้ารับบริการที่หน่วยบริการปฐมภูมิหรือประจำแล้ว ยังสามารถเข้ารับบริการได้ที่หน่วยบริการปฐมภูมิทุกแห่ง และในกรุงเทพมหานครยังมีหน่วยบริการนวัตกรรม 18 ประเภท จำนวนกว่า 1,600 แห่งให้บริการด้วย
"ตู้ห่วงใย เป็นแบบของการให้บริการสุขภาพเชิงรุกในชุมชนที่ให้การดูแลหากเกิดภาวะเจ็บป่วยขึ้นโดยครอบคลุม 42 กลุ่มโรค หลังติดตั้งแห่งแรกที่ชุมชนสหกรณ์เคหสถานเจริญและในเร็วๆ นี้ จะติดตั้งที่ สถานีกลางบางซื่อ โครงการเคหะชุมชนดินแดง 1 และ 2 และขยายการติดตั้งตู้ห่วงใยไปยังสถานที่ต่างๆ ต่อไป" นพ.จเด็จ กล่าว
ช่วยชุมชนรับบริการสะดวกขึ้น
ด้านนายวิเชียร แสงพลอย ประธานชุมชนสหกรณ์เคหสถานเจริญชัยนิมิตใหม่ กล่าวว่า ชุมชนสหกรณ์เคหสถานเจริญชัยนิมิตใหม่ มีประชากรร่วมอยู่อาศัยในพื้นที่เป็นจำนวนมาก ครอบคลุมทุกกลุ่มวัย แต่บ่อยครั้งที่มีคนในชุมชนมักเกิดภาวะเจ็บป่วย และมีความจำเป็นต้องได้รับการรักษาพยาบาล หรือพบแพทย์ ซึ่งหากต้องการใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ บัตรทอง 30 บาท จะต้องเดินทางไปใช้สิทธิรับบริการ ที่สถานพยาบาลในระบบเท่านั้น ก่อให้เกิดความไม่สะดวก แม้ว่าจะเจ็บป่วยด้วยโรคทั่วไปก็ตาม
"การติดตั้งตู้ห่วงใย จะทำให้ชาวชุมชนสหกรณ์เคหสถานเจริญชัยนิมิตใหม่ สามารถเข้ารับบริการรักษาพยาบาลโดยใช้สิทธิบัตรทอง 30 บาท ได้ง่าย สะดวกยิ่งขึ้น ช่วยลดค่าใช้จ่ายต่างๆทั้งค่ารักษาพยาบาล ค่ายา และค่าเดินทาง ช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดี" นายวิเชียรกล่าว