'Sleep Economy' เมกะเทรนด์มาแรง คนไทย3 ล้านคนหยุดหายใจขณะหลับ

'Sleep Economy' เมกะเทรนด์มาแรง  คนไทย3 ล้านคนหยุดหายใจขณะหลับ

ข้อมูลจาก Emergen Research ปี 2022 พบว่าตลาด Sleep Economy หรือเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับการนอนหลับ มีมูลค่าถึง 512.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐและมีอัตราการเติบโตต่อปีแบบทบต้น (CAGR) อยู่ที่ 6.3%

KEY

POINTS

  • คนไทยประมาณ 25% มีภาวะนอนกรนและพบผู้มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับประมาณ 5 % หรือราว 3 ล้านคน (Obstructive Sleep Apnea: OSA)  หากไม่ได้รับการรักษา อาจส่งผลให้เกิดโรคร้ายแรงเป็นอันตรายต่อชีวิต เสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง   
  • iNAP Sleep Therapy System นวัตกรรมใหม่ในการรักษาอาการนอนกรนและภาวะหยุดหายใจขณะหลับ เพิ่มทางเลือกในการแก้ปัญหาและเพิ่มคุณภาพการนอนหลับให้กับประชาชน 
  • กลุ่มเสี่ยงควรพบแพทย์ตรวจด้วยการทำ Sleep Test เพื่อวิเคราะห์การทำงานของร่างกายระหว่างนอนหลับโดยละเอียด เพื่อหาแนวทางรักษาอาการต่อไป

ข้อมูลจาก Emergen Research ปี 2022 พบว่าตลาด Sleep Economy หรือเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับการนอนหลับ มีมูลค่าถึง 512.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐและมีอัตราการเติบโตต่อปีแบบทบต้น (CAGR) อยู่ที่ 6.3% ปัจจุบัน ชี้ให้เห็นว่าภาวะนอนกรนและภาวะหยุดหายใจขณะหลับ เป็นภัยร้ายที่คุกคามสังคมโลกมากขึ้นเรื่อย ๆ 

ส่วนข้อมูลของ National Council on Aging (NCOA) ในสหรัฐฯ ระบุว่าประชากรโลกราว 936 ล้านคนกำลังเผชิญกับภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ตั้งแต่ระดับเล็กน้อยจนถึงรุนแรง ยิ่งไปกว่านั้น ยังพบว่าผู้ที่มีอาการนอนกรน เสี่ยงต่อภาวะดังกล่าวมากถึง 94% ส่วนสถิติในประเทศไทย ข้อมูลจากราชวิทยาลัย โสต ศอ นาสิกแพทย์แห่งประเทศไทย พบว่าคนไทยประมาณ 25% มีภาวะนอนกรนและพบผู้มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับประมาณ 5 % หรือราว 3 ล้านคน 

ในผู้ที่มีภาวะดังกล่าวมักมีอาการกรนมากจนหายใจติดขัด เกิดการสะดุดหยุดหายใจเป็นช่วง ๆ ทำให้ร่างกายขาดอากาศเป็นระยะ ๆ ระหว่างที่หลับ ซึ่งเป็นอันตรายต่อการทำงานของหัวใจ สมอง หลอดเลือด และอวัยวะอื่น ๆ ในร่างกาย ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ จึงเป็นอีกหนึ่งปัญหาสุขภาพร้ายแรงที่ทำให้ผู้คนเสี่ยงต่อโรคแทรกซ้อนมากมายโดยไม่รู้ตัว เช่น ภาวะใหลตาย, โรคหลอดเลือดสมอง, โรคหลอดเลือดหัวใจ, เบาหวาน, อัมพาต, ความดันโลหิตสูง และอีกหลายโรค

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

‘นอนกรน -โรคหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น’ เรื่องใกล้ตัวที่ต้องแก้

'นอนไม่หลับเรื้อรัง' ภาวะเสี่ยงของวัยทำงาน สูงวัย เสี่ยง 'โรคซึมเศร้า'

รู้จัก 'iNAP Sleep Therapy System'

วานนี้(1สค.) โรงพยาบาลวิมุต ร่วมกับบริษัท นําวิวัฒน์ เมดิคอล คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) เปิดตัว iNAP Sleep Therapy System นวัตกรรมใหม่ในการรักษาอาการนอนกรนและภาวะหยุดหายใจขณะหลับ เพิ่มทางเลือกในการแก้ปัญหาและเพิ่มคุณภาพการนอนหลับ และเป็นการเปิดตัวที่โรงพยาบาลครั้งแรกในประเทศไทย

“วิโรจน์ ชัยเทอดเกียรติ” กรรมการบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นําวิวัฒน์ เมดิคอล คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) หรือ NAM กล่าวว่าปัจจุบันทั่วโลกและคนไทยเริ่มตระหนักรู้ถึงความสำคัญของคุณภาพการนอนหลับและภัยเงียบที่เกิดจากการนอนที่ไม่มีคุณภาพ โดยข้อมูลของ Research And Markets บริษัทวิจัยตลาดชั้นนำระบุว่าตลาดเครื่องมือแพทย์ในการรักษาภาวะหยุดหายใจขณะหลับทั่วโลกจะมีมูลค่าถึง 9.95 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2573 โดยขยายตัวที่ CAGR ที่ 7.34% จากปี 2567 ถึง 2573 ปัจจุบันตลาดประเมินไว้ที่ 6.06 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ณ ปี 2566 

การเปิดตัว iNAP Sleep Therapy System ในครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการเพิ่มทางเลือกใหม่สำหรับการดูแลผู้ป่วยโรคหยุดหายใจขณะหลับในประเทศไทย เป็นนวัตกรรมใหม่ออกแบบมาเพื่อลดการอุดกั้นทางเดินหายใจส่วนบน ซึ่งเป็นสาเหตุของการนอนกรน ทำงานด้วยเทคโนโลยี Oral Negative Air Pressure Therapy สร้างแรงดูดอ่อน ๆ ทำให้ลิ้นและเนื้อเยื่ออยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ช่วยให้หายใจได้อย่างเป็นธรรมชาติขณะที่นอนหลับ

เป็นอุปกรณ์ที่ได้รับการทดสอบและรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ในประเทศไทย รวมทั้งผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาสหรัฐ (FDA) และในประเทศไต้หวัน ได้รับการยอมรับจากแพทย์และนักวิจัยในหลายประเทศ ว่ามีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัยในการลดภาวะหยุดหายใจขณะหลับในทุกระดับความรุนแรง 

\'Sleep Economy\' เมกะเทรนด์มาแรง  คนไทย3 ล้านคนหยุดหายใจขณะหลับ

ปรับพฤติกรรมหยุดปัญหาภาวะหยุดหายใจขณะหลับ

ผศ.พญ.กวินญรัตน์ จิตรอรุณฑ์ แพทย์เฉพาะทางสาขานาสิกวิทยาและภูมิแพ้ โรงพยาบาลวิมุต เล่าถึงสาเหตุของการนอนกรนและความเสี่ยงจากภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ว่าในสังคมยุคปัจจุบัน ปัญหาการนอนนับเป็นปัญหาสุขภาพเรื่องใหญ่ที่พบ เราพบว่าผู้คนทั่วโลกมักมีความเครียดสะสม นอนไม่หลับ นอนไม่พอ และมีปัญหาเรื่องคุณภาพการนอน 

พฤติกรรมนอนที่ผิดปกติเหล่านี้ก็ค่อย ๆ ส่งผลต่อร่างกายและจิตใจโดยที่เราไม่รู้ตัว และที่น่าเป็นห่วงคือหลายคนยังคิดว่าการนอนกรนเป็นเรื่องปกติ แต่แท้จริงแล้วไม่ใช่เช่นนั้น โดยเฉพาะในคนที่นอนกรนรุนแรงจนโรคหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้นร่วมด้วยนั้น อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพเป็นอย่างมาก ภาวะนอนกรนพบได้ในทุกอายุ โดยมักจะพบในผู้ใหญ่และพบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง โดยเฉพาะคนที่มีน้ำหนักตัวมาก

\'Sleep Economy\' เมกะเทรนด์มาแรง  คนไทย3 ล้านคนหยุดหายใจขณะหลับ

การนอนกรนระดับรุนแรงที่มีการหยุดหายใจร่วมด้วยเราเรียกว่า Obstructive Sleep Apnea ซึ่งเป็นภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น โดยระบบทางเดินหายใจส่วนต้นมีการตีบแคบลง สาเหตุอาจเกิดจากกายวิภาคของกล้ามเนื้อในช่องคอ โคนลิ้นมีการหย่อนไปปิดทางเดินหายใจส่วนต้น 

โดยเฉพาะขณะหลับหรือการที่ช่องคอมีลักษณะแคบ ทำให้ออกซิเจนไม่สามารถเข้าสู่ปอดไปเลี้ยงสมองและอวัยวะอื่น ๆ ได้ คนไข้จะมีภาวะออกซิเจนต่ำ มีการคั่งของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ทำให้เกิดการสะดุ้งเฮือกกลางดึกหรืออาการเหนื่อยหอบหลังสะดุ้งตื่น ทำให้รู้สึกเหมือนยังไม่ได้พักผ่อนเมื่อตื่นนอน แต่กลับเหนื่อยล้าและรู้สึกง่วง เมื่อเป็นเช่นนี้เป็นประจำจะส่งผลร้ายต่อสภาพร่างกายและจิตใจ รวมถึงความเสี่ยงต่อโรค อาทิ ความดันโลหิตสูง หัวใจล้มเหลว ภาวะหัวใจห้องบนผิดปกติ เบาหวานชนิดที่ 2 โรคหลอดเลือดสมอง รวมถึงซึมเศร้าและโรคอ้วน

ส่วนการปรับพฤติกรรมเพื่อลดปัญหาการนอนกรนและการหยุดหายใจขณะหลับที่ดีที่สุดคือ

  • การลดน้ำหนักตัว ควบคุมอาหาร ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
  • หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
  • ปรับท่านอนเป็นนอนตะแคงจะช่วยให้อาการลดลงบ้าง
  • อย่าอดนอน
  • ที่สำคัญหมั่นสังเกตอาการของตัวเองและคนรอบข้าง

หากพบอาการผิดปกติ เช่น นอนกรนเป็นประจำและมีอาการสะดุ้งเฮือก นอนเต็มที่แต่ตื่นมายังง่วงมาก ปากแห้ง-คอแห้งและเจ็บคอเมื่อตื่นนอน หรือปวดศีรษะหลังตื่นนอนเป็นประจำ ควรพบแพทย์เพื่อได้รับการตรวจวินิจฉัยอย่างทันท่วงที  และหากซักประวัติแล้วเข้าข่ายก็ควรตรวจด้วยการทำ Sleep Test เพื่อวิเคราะห์การทำงานของร่างกายระหว่างนอนหลับโดยละเอียด เพื่อหาแนวทางรักษาอาการต่อไปและกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่

\'Sleep Economy\' เมกะเทรนด์มาแรง  คนไทย3 ล้านคนหยุดหายใจขณะหลับ