ผกก. "บัณฑิต ทองดี" ชี้แจงปมดราม่า ทำงานกองถ่ายฯ 16 ชั่วโมง/วัน

จากกรณีแถลงการณ์ สหภาพแรงงานสร้างสรรค์แห่งประเทศไทย (CUT) ชี้ทำงานกองถ่ายฯ 16 ชั่วโมง/วัน ไม่ใช่เรื่องปกติ หยุดทำให้เรื่องผิดปกติกลายเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ในสังคม หลัง 2 ผู้กำกับภาพยนตร์แสดงความคิดเห็นนั้น

ล่าสุด บัณฑิต ทองดี ผู้กำกับฯและอดีตนายกสามคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊ค ระบุว่า คงจะมีคนโกรธจะโมโหก็แล้วแต่เขา เพราะพี่พูดเรื่องจริง ในฐานะที่ทำมาเกือบทุกวงการทั้งหนัง ละคร ซีรี่ส์ รายการ หนังสั้น

อุตสาหกรรมละครไทย มีวิธีการทำงาน 16 ชั่วโมง มายาวนานคงไม่ต้องนับว่ากี่สิบปี ซึ่งทีมงานก็คงเหนื่อยแต่ก็ยอมรับกันได้เพราะกระบวนการทำละคร มันมีความยาวหว่าหนัง คือตั้งแต่ 24-30 ตอน บางที่ต้องถ่ายไปออนแอร์ไป บางเรื่องต้องแข่งกับคิวนักแสดง บางเรื่องต้องแข่งกับคิว ผกก. จึงต้องมีการเร่งถ่ายกันแต่ละวันให้เยอะที่สุด จนมาจบที่เวลา 7.00-22.00 น. ซึ่งก็ประมาณ 15-16 ชั่วโมง. ทำแบบนี้กันมาหลายสิบปี

จนวันหนึ่ง อุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยถึงช่วงขาลง และเด็กจบใหม่สาขานิเทศฯล้นตลาด รวมไปถึง รูปแบบการถ่ายทำ ละครด้วยระบบ switching ถูกปรับเปลี่ยนมาใช้วิธีถ่ายกล้องแยกจากสวิทชิ่ง และสามารถเปลี่ยนเลนส์ได้แต่จำนวนตอนอาจลดลงหรือเท่าเดิม จึงถูกเปลี่ยนนามใช้ขื่อว่า ซีรี่ส์ คนทำหนังและเด็กอยากทำหนังรุ่นใหม่ ๆ จึงถาโถมเข้าสู่วงการซีรี่ส์ และด้วยการที่เคยทำงาน 12 ชม. มาตลอด จึงเกิดความคิดเห็นว่า 16 ชม. มันไม่ชอบธรรมกับคนทำงานจึงเกิดการรณรงค์ ให้วงการซีรี่ส์และละครที่เราเข้าไปทำงานกับเขา เปลี่ยนแปลงวิธีทำงาน นี่คือที่มาของประเด็นที่เกิดขึ้น
     
แต่สิ่งที่พี่จะสื่อสารคือการรณรงค์เป็นเรื่องที่ดี ก็คือทีมงานที่รับจ้างก็อยากทำงาน 12 ชม. แต่การรณรงค์ด้วยวิธีบ่นลง facebook หรือเม้าท์กันช่วงพักกินข้าวในกองหรือแม้แต่ในวงเหล้า มันไม่เกิดประโยชน์ ถ้าเจ้าของอุตสาหกรรมตัวจริงเขาไม่รู้เรื่อง และไม่เอาด้วย 

"ผมเองก็เคยร่วมรณรงค์โดยการพูดคุยกับหลายภาคส่วน รวมถึงมีอีกหลายองกรค์และหลายบุคคลที่พยายามหาทางออกและร่วมหารือกัน แต่สิ่งที่ทำให้เกิดผลยาก คือมีทีมงานบางคนยังยอมรับระบบ และหลายคนใช้วิธีบ่นลง facebook ให้ลองคุยกับผู้จัดละครตรงๆ ก็ไม่กล้าเพราะกลัวตกงานสุดท้ายก็ไม่เกิดผลใดๆ พี่เคยทำงานกับทีมงานหรือผู้จัดรุ่นใหม่ๆ ที่น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นเริ่องนี้ได้ ก็ยังเห็นถ่ายถึง 4 ทุ่ม เพราะไม่มีใครบอกความต้องการให้อย่างจริงจัง"

สิ่งที่ควรทำไม่ใช่แค่บ่นกันลงเฟส  ควรจะจัดหาตัวแทนบุคลากรในวงการส่วนต่างๆ ทั้ง ผกก. ตากล้อง ช่างไฟ ฝ่ายศิลป์  บริษัท กล้อง ไฟ เสียง  ผู้จัด สมาคมต่างๆ มานั่งหารือกันหาจุดลงตัวที่ทุกคน happy ที่สุด แล้วเชิญชวนกันมาก่อให้เกิดการปฏิบัติใช้ได้จริง แบบนี้จะเกิดผลที่สุด