“วันชีสแอนด์ไวน์” กิน "ชีส" พร้อม "ไวน์" และวิธีจับคู่ให้เข้ากัน

“วันชีสแอนด์ไวน์” กิน "ชีส" พร้อม "ไวน์" และวิธีจับคู่ให้เข้ากัน

วันที่ 25 กรกฎาคม เป็น “วันชีสแอนด์ไวน์” ชวนคนรัก "ไวน์" มาดื่มไวน์และเลือก “ชีส” ให้เข้ากัน วิธีเลือกไม่ยาก...

วันชีสแอนด์ไวน์ หรือ National Wine and Cheese Day ตรงกับวันที่ 25 กรกฎาคม ก่อตั้งโดยนักเขียนวรรณกรรมเยาวชน Jace Shoemaker-Galloway ที่อยากชวนคนมาดื่มไวน์ ให้อร่อยพร้อม ชีส (เนยแข็ง) ที่ชอบ

การจับคู่ ชีสกับไวน์ มีมาเนิ่นนานแล้ว นักเขียน Jace คิดว่าอาหารและเครื่องดื่มที่คู่กันเช่นนี้ ควรมีวันที่ระลึกถึง ทุกคนสามารถจัดปาร์ตี้เล็ก ๆ กับผองเพื่อนที่บ้านได้

“วันชีสแอนด์ไวน์” กิน \"ชีส\" พร้อม \"ไวน์\" และวิธีจับคู่ให้เข้ากัน     (Credit: freepik.com)

วัฒนธรรม ชีสกับไวน์ เริ่มจากชาวยุโรป เพราะเป็นชนชาติที่ผลิตไวน์และชีสก่อนใคร เช่น ไวน์ พบหลักฐานซากเหยือกและไหดินเผา อายุ 6,000 ปีก่อนคริสตกาล บริเวณประเทศจอร์เจียในปัจจุบัน

บางตำราระบุว่า ชาวฟีนิเชียน (Phoenician) นักเดินเรือและพ่อค้า ที่ตั้งถิ่นฐานบริเวณทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ในซีเรียและเลบานอน เป็นผู้คิดค้นทำไวน์ และส่งผ่านความรู้นั้นสู่ชาวกรีกและชาวโรมัน

“วันชีสแอนด์ไวน์” กิน \"ชีส\" พร้อม \"ไวน์\" และวิธีจับคู่ให้เข้ากัน     (Credit: creativelifestyle.com.au)

ใครทำไวน์ก่อนใคร : ยังไม่ระบุแน่ชัดนัก ขึ้นอยู่กับว่าขุดค้นหลักฐานซากไหโบราณ และซากฟอสซิลองุ่น เจอที่ไหนเก่ากว่าก็จะประกาศบอกถึงอายุได้

ใครทำชีสก่อนใคร : เมื่อ 4,000 ปีก่อน พ่อค้าชาวอาหรับบรรจุนมในถุงกระเพาะแกะ รอนแรมผ่านทะเลทรายไปยุโรป ไม่กี่วัน นมในถุงตกตะกอนกลายเป็นชีส พ่อค้าชิมแล้วอร่อยดี กินคลายหิวได้ด้วย

การทำชีสจึงเริ่มขึ้นด้วยเหตุบังเอิญ โดยนักเดินทางชาวเอเชียเผยแพร่ศิลปะการทำชีสสู่ยุโรป เริ่มที่อาณาจักรโรมัน ส่งต่อไปอังกฤษในยุคกลาง แล้วส่งต่อไปยังพระตามวิหารต่าง ๆ เช่น ชีสกอร์กอนโซลา (Gorgonzola) เริ่มโดยพระนักบวชใน Po Valley ในอิตาลี เมื่อปี ค.ศ.879 จากนั้นในศตวรรษที่ 10 อิตาลี กลายเป็นศูนย์กลางการผลิตชีสของชาวยุโรป 

“วันชีสแอนด์ไวน์” กิน \"ชีส\" พร้อม \"ไวน์\" และวิธีจับคู่ให้เข้ากัน     (Credit: eatingwell.com)

ใครเริ่มจับคู่ ชีสกับไวน์ : เล่าว่าชาวฝรั่งเศสคิดก่อนใคร แต่ก็มีผู้แย้งว่า ชาวโรมันผู้ชื่นชอบการดื่ม-กิน รู้จักดื่มไวน์พร้อมกินชีสก่อนใคร

อีกทั้งชาวโรมันคิดว่า ไม่ควรทิ้งของเสีย ไม่ควรมี food waste หมายถึงเครื่องในสัตว์ ทั้งตับ ไต ไส้พุง ปอด หัวใจ จับมาหมักเกลือและรมควันเพื่อถนอมอาหาร และกินพร้อมกับไวน์ จึงน่าจะเป็นคนยุคแรกที่กิน ชีสกับไวน์ โดยอาหารที่นิยมจับคู่กันนอกจากชีส ก็มีเนื้อรมควันชนิดต่าง ๆ มีถั่วและองุ่นสดด้วย

“วันชีสแอนด์ไวน์” กิน \"ชีส\" พร้อม \"ไวน์\" และวิธีจับคู่ให้เข้ากัน       (Credit: chucklingcheese.co.uk)

ชาวโรมันส่งต่อวัฒนธรรม ชีสกับไวน์ ไปอังกฤษและฝรั่งเศส ผู้ผลิตชีสและไวน์ได้ผลดี และเมื่อผู้แสวงบุญพิลกริมส์ (Pilgrims) ล่องเรือ Mayflower ขึ้นฝั่งที่อเมริกา ชีสก็เดินทางสู่โลกใหม่ และเริ่มวัฒนธรรมจับคู่ชีสกับไวน์ จากผลผลิตชีสบ้าน ๆ ไวน์บ้าน ๆ สู่การผลิตชีสเป็นอุตสาหกรรมในนิวยอร์ก เมื่อปี 1851

จับคู่ชีสกับไวน์ : ค.ศ.1500-1800 พื้นที่ต่าง ๆ ในยุโรปผลิตชีสได้หลากหลายขึ้น เช่น เชดดาร์ชีส (Cheddar) ปี 1500, พาร์มิจิอาโน เรจจิอาโน (Parmigiano-Reggiano) ปี 1597, คาเมมเบิร์ต หรือ คามองแบรต์ (Camembert) ปี 1791, เกาด้าชีส (Gauda) ปี 1897 เป็นต้น

ไวน์ซึ่งเป็นเครื่องดื่มประจำชาติชาวยุโรป จึงเป็นของคู่กัน และเมื่อนักวิทยาศาสตร์ หลุยส์ ปาสเตอร์ ค้นพบการถนอมอาหารด้วยวิธีพาสเจอร์ไรซ์ ชีสยิ่งผลิตได้มากขึ้น เข้าสู่ระบบอุตสาหกรรมเต็มตัว

“วันชีสแอนด์ไวน์” กิน \"ชีส\" พร้อม \"ไวน์\" และวิธีจับคู่ให้เข้ากัน    (Credit: gorgonzolacheese.com)

ปี 2015 อิตาลี ครองแชมป์ผลิตชีสแซงหน้าฝรั่งเศส ไม่นานจากนั้น นักเขียน Janet Fletcher เขียนหนังสือเรื่อง Cheese & Wine: A Guide to Selecting, Pairing and Enjoying ทำให้การจับคู่ ชีสกับไวน์ ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น

จับคู่อย่างไรให้เข้ากัน : ง่ายที่สุดคือ ไวน์ท้องถิ่นกับชีสท้องถิ่น (นั้น ๆ) ไม่ต้องแสวงหาไกล กินง่าย ๆ ปาร์ตี้เล็ก ๆ กับคนรู้ใจ แค่นี้ก็เลิศแล้ว

3 วิธี เพื่อจับคู่ : 1. เลือกไวน์แทนนินต่ำ  2.จัดสมดุลความเค็มกับความหวาน  3.เพิ่มผลไม้สด เช่น องุ่น เบอร์รี่ แอปเปิ้ล แคนตาลูป มะเดื่อ และถั่วเปลือกแข็ง

“วันชีสแอนด์ไวน์” กิน \"ชีส\" พร้อม \"ไวน์\" และวิธีจับคู่ให้เข้ากัน     (Credit: losvinos.com)

เช่น บรีชีส (Brie) + เบอร์รี่ + ไวน์จากองุ่นแมร์โลต์

บรีชีส + ปิโนต์ นัวร์

เชดดาร์ชีส + ถั่ววอลนัท + ไวน์จากองุ่นกาแบร์เนต์ โซวีญยอง

ชีสเอจเกาด้า + กาแบร์เนต์ โซวีญยอง

บรีชีส (Brie) ไวน์ที่บอดี้ปานกลางจากตอนเหนือของฝรั่งเศส + ไวน์แดง Beaujolais จากแคว้นบรี

“วันชีสแอนด์ไวน์” กิน \"ชีส\" พร้อม \"ไวน์\" และวิธีจับคู่ให้เข้ากัน      ชีสที่บ่มนานเกิน 1 ปี (Credit: worldatlast.com)

Asiago cheese + Chianti หรือ Brunello ไวน์ที่ค่อนข้างหนักมีกลิ่นโอ๊ค ผลิตจากตอนกลางของอิตาลี หรือไวน์จากทัสคานี จะเข้ากับชีสที่มีรสถั่วเข้มข้น

ชีสกรูเยร์ (Gruyere) + ไวน์ Pinot Grigio, ไวน์จากองุ่นกาแบร์เนต์ โซวีญยอง

มอซซาเรลลา ชีส + ไวน์ Pinot Grigio

กรูเยร์ + ไวน์ขาวชาร์ดอนเนย์ (Chardonnay)

“วันชีสแอนด์ไวน์” กิน \"ชีส\" พร้อม \"ไวน์\" และวิธีจับคู่ให้เข้ากัน    (Credit: kateris.org)

ริคอตต้า ชีส + ไวน์ขาวรีสลิ่ง (Riesling)

บลูชีส และ Wash-rind cheese (เนยแข็งที่ผิวนอกมีความเหนียวและมีสีน้ำตาลอมส้ม) เช่น Herve, Limburger เนยแข็งรสเข้มและมีกลิ่นเครื่องเทศ + ไวน์หวาน Moscato

บลูชีส + พอร์ต (Port)

บรีชีส, Muenster, Camembert, Cremont + สปาร์คกลิ้งไวน์

พาร์เมซาน + โปรเซคโก (Proseco สปาร์คกลิ้งไวน์)

Montery Jack (ชีสจากอเมริกา) + แมร์โลต์ (Merlot)

“วันชีสแอนด์ไวน์” กิน \"ชีส\" พร้อม \"ไวน์\" และวิธีจับคู่ให้เข้ากัน

    ชีสวีแกน (Credit: krishijagran.com)

จำไม่ถูกมีหลักง่าย ๆ คือ : ไวน์มีฟอง (สปาร์คกลิ้ง) กับชีสรสครีมมี่, ไวน์ที่ค่อนข้างหวานกับชีสรสหนัก ๆ ก็ได้, ไวน์แดงที่ค่อนข้างหนักกับชีสที่บ่มนาน เลือกชีสที่บ่มนานเกิน 1 ปี (เช่น เชดดาร์, กรูเยร์, เกาด้า, มอนเชโก, พาร์เมซาน)

ถ้าจับคู่ไม่ถูก ง่ายสุดคือ ชีสรสถั่วไปกันได้ดีกับไวน์แทบทุกประเภท ไขมันจากถั่วจะสร้างสมดุลกับแทนนินในไวน์ที่หนัก แต่ชีสรสอ่อนเข้ากันดีกับไวน์ขาว เช่น สวิสชีส, กรูเยร์, เอมเมนทัล ฯลฯ

“วันชีสแอนด์ไวน์” กิน \"ชีส\" พร้อม \"ไวน์\" และวิธีจับคู่ให้เข้ากัน      ชีสและอาหารที่จับคู่กับไวน์  (Credit: myrecipes.com)

หรือเลือกอาหารที่กินอยู่แล้วทุกวัน หากจับรสชาติที่ขัดแย้งกันมาคู่กัน เช่น อาหารที่มีครีม ชีสรสมัน ๆ เข้ากันดีกับรสขมฝาดของไวน์ ทำให้เกิดรสชาติที่อร่อย สร้างต่อมรับรสที่พึงใจ นักวิจัยพบว่า กิน ชีสกับไวน์ สร้างประสบการณ์การรับรู้รสชาติที่แตกต่าง

“วันชีสแอนด์ไวน์” กิน \"ชีส\" พร้อม \"ไวน์\" และวิธีจับคู่ให้เข้ากัน     (Credit: foodandwinemagazine.com)

พึงระวัง : ชีสกับไวน์ มีแคลอรี่สูง อีกทั้งอาหารอื่น ๆ ด้วย เช่น ผลไม้สด ผลไม้อบแห้ง (ที่จะหวานมาก) ถั่ว ผักดอง บิสกิต

ดังนั้น กินพอดี ๆ ดีที่สุด

ข้อมูลจาก : nationaltoday.com, chessegrotto.com, vinepair.com