คว้าตั๋วเข้ารอบชิง หลัง ทีมชาติไทย อัด กัมพูชา 3-1 ศึกชิงแชมป์อาเซียน
ผลการแข่งขัน ฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอ นัดที่ 4 ทีมชาติไทย เปิดบ้านชนะ กัมพูชา 3-1 ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ
ผลการแข่งขัน ฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอ นัดที่ 4 ทีมชาติไทย เปิดบ้านพบกับ กัมพูชา ณ สนามธรรมศาสตร์ รังสิต โดยสถานการณ์สามเกมแรก ทีมชาติไทย มีเจ็ดคะแนน ส่วนกัมพูชา มีหกแต้ม โดยผู้ชนะในเกมนี้จะได้ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ ทันที
เกมนี้ มาโน โพลกิ้ง ใช้ชุดเก่งโดยวาง ธีรศิลป์ แดงดา เป็นกองหน้าคู่กับ อดิศักดิ์ ไกรษร ส่วนตรงกลางมี เอกนิษฐ์ ปัญญา และ บดินทร์ ผาลา
ด้าน เคซุเกะ ฮอนดะ เกมนี้ใช้ สามประสานแดนหน้าเป็น เสียง จันเทียะ, เรือง บุนเฮียง และ ลิม พิโสธ
เริ่มเกมมาทีมชาติไทยเดินหน้าเข้าใส่ทันทีและช่วงทดเจ็บ ทีมชาติไทย มาได้จุดโทษ จากจังหวะที่ ศศลักษณ์ ไหประโคน โดนยิว มุสลิม ทำฟาวล์ และเป็น ธีรศิลป์ แดงดา ที่รับหน้าที่สังหารเข้าไปให้ ไทยนำก่อน 1-0 และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
ครึ่งหลังไทยเปลี่ยนตัวแล้วส่ง ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว, พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี และ สุมัญญา ปุริสาย ลงสนามมาแทนที่ เอกนิษฐ์ ปัญญา, ศศลักษณ์ ไหประโคน และ อดิศักดิ์ ไกรษร
ครึ่งหลังนาทีที่ 50 สารัช อยู่เย็น จ่ายให้ สุมัญญา ปุริสาย เบียดชนะแนวรับ กัมพูชา ก่อนจิ้มเข้าไปให้ ทีมชาติไทย นำห่างกัมพูชา เป็น 2-0
นาทีที่ 68 กัมพูชา มาได้ประตูตีไข่แตกจากจังหวะที่ ซา ตี้ ได้บอลตรงกลางก่อนไหลให้ เสียง จันเทียะ ยิงเข้าไปให้ สกอร์ขยับมาเป็น 1-2
นาทีที่ 90 พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี จ่ายให้ ธีรศิลป์ แดงดา ได้บอลหน้ากรอบเขตโทษก่อนกลับตัวยิงด้วยขวา เข้าไปให้ ทีมชาติไทย นำห่าง กัมพูชาเป็น 3-1
ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่มเติมจบเกม ทีมชาติไทย เฉือนชนะ กัมพูชาไป 3-1
ส่วนผลอีกคู่ ฟิลิปปินส์ แพ้ อินโดนีเซีย 1-2
จากสถานการณ์ดังกล่าวทำให้ทีมชาติไทย เข้ารอบเป็นแชมป์กลุ่ม ด้วยการมีสิบแต้มเท่ากับ อินโดนีซีย แต่ประตูได้เสียดีกว่า และจะเข้าไปพบกับ รองแชมป์กลุ่มเอ โดยเกมแรก จะไปเยือนก่อนในวันที่ 7 มกราคม 2566 และกลับมาเล่นในบ้าน ในวันที่ 10 มกราคม 2566 โดยทุกนัดจะถ่ายทอดสดทาง MCOT HD 30 และ T-Sports 7
รายชื่อ 11 ตัวจริง
ทีมชาติไทย : ศศลักษณ์ ไหประโคน, ธีราทร บุญมาทัน (C), พรรษา เหมวิบูลย์, สารัช อยู่เย็น , อดิศักดิ์ ไกรษร, ธีรศิลป์ แดงดา, บดินทร์ ผาลา, กฤษดา กาแมน, ศุภนันท์ บุรีรัตน์, เอกนิษฐ์ ปัญญา, กิตติพงษ์ ภูแถวเชือก (GK)