ส่อง ‘10 วัตถุดิบ‘ ราคาแพงที่สุดในโลก ‘ถั่งเช่า‘ รั้งอันดับ 1 กิโลกรัมละล้าน
เปิด 10 วัตถุดิบราคาแพงที่สุดในโลก รับกระแสภาพยนตร์อันดับ 1 ของโลกบนเน็ตฟลิกซ์ “Hunger” พบ “ถั่งเช่าทิเบต” ทะยานกิโลกรัมละ 1,500,000 บาท ตามมาด้วย “ไข่ปลาคาเวียร์อัลมาส” กิโลกรัมละ 850,000 บาท และเมลอน ยูบาริ คิง สนนที่กิโลกรัมละ 773,438
กระแสความร้อนแรงของภาพยนตร์ “Hunger คนหิวเกมกระหาย” ถูกพูดถึงในโลกออนไลน์ต่อเนื่อง ด้วยเนื้อหาที่มีการเสียดสี-สะท้อนภาพการมีอยู่ของชนชั้น ผ่านบทพูดของตัวละครที่ใช้เรื่องราวในครัว วัตถุดิบ กรรมวิธี และการรังสรรค์เมนูอาหารต่างๆ ในการเปิดปูมที่ซุกซ่อนในสังคมไทยมาอย่างยาวนาน
โดยฉากหนึ่งในภาพยนตร์ที่ถูกหยิบขึ้นมาถกเถียงไม่น้อย คือ เรื่องเล่าไข่ปลาคาเวียร์ของ “เชฟพอล” ที่ย้อนไปยังชีวิตวัยเด็กว่า ตนเคยอยากกินไข่ปลาคาเวียร์มาก จนมีเหตุทำให้กระปุกไข่ปลาคาเวียร์แตก แต่พอมีโอกาสได้กินจริงๆ ก็พบว่า ไม่ได้มีความอร่อยเลยแม้แต่นิดเดียว
ไม่ใช่แค่ไข่ปลาคาเวียร์เท่านั้นที่ถูกจัดให้อยู่ในแรงก์กิ้งของวัตถุดิบราคาแพง “กรุงเทพธุรกิจ” จะพาไปสำรวจวัตถุดิบอาหารที่ราคาแพงที่สุดในโลก 10 อันดับ มีตั้งแต่หลักหมื่น หลักแสน ไปจนถึงหลักล้านบาท
- ถั่งเช่าทิเบต (Yartsa Gunbu Fungus)
พืชสมุนไพรจีนชื่อดังที่ได้รับความสนใจ จนถูกนำมาเป็นส่วนผสมและวัตถุดิบของอาหารเสริมหลายชนิด ถั่งเช่าเกิดจากการที่หนอนผีเสื้อและเห็ดหลบหนีความหนาวไปจำศีลใต้หิมะ เมื่อหิมะละลาย หนอนผีเสื้อจะออกมากินสปอร์ที่ปะปนอยู่ในดิน สปอร์ดังกล่าวจึงดูดสารอาหารจากตัวหนอน และเติบโตจนกลายเป็นเห็ดรูปร่างคล้ายไม้กระบอกงอกออกจากปากของตัวหนอนผีเสื้อ
เนื่องจาก ถั่งเช่าหายาก เพราะแหล่งที่จะพบได้อยู่บริเวณที่มีความหนาวเย็น ยากต่อการเก็บเกี่ยว จึงทำให้มีราคาซื้อขายสูง เริ่มต้นตั้งแต่กิโลกรัมละ 1,000,000-1,500,000 บาท หรือหากมีคุณภาพสูงก็อาจทะยานไปถึงกิโลกรัมละ 3,000,000 บาทได้
- ไข่ปลาคาเวียร์อัลมาส (Almas Cavier)
นับเป็นไข่ปลาที่มีราคาสูงมาก เนื่องจาก แหล่งกำเนิดที่มีความเฉพาะเจาะจงเป็นพิเศษ มาจากปลาเบลูก้าสเตอร์เจียน หรือปลาสเตอร์เจียนเผือกที่ต้องมีอายุตั้งแต่ 70-100 ปีขึ้นไป ซึ่งเดิมที ปลาสเตอร์เจียนเผือกก็พบได้น้อยมากอยู่แล้ว แต่ไข่ปลาคาเวียร์อัลมาสยังต้องเป็นปลาสเตอร์เจียนเผือกที่มีอายุเยอะ และพันธุ์ปลาชนิดนี้ยังพบได้แถบทะเลแคสเปียนเท่านั้นด้วย
- เมลอน ยูบาริ คิง (Yubari King Melon)
ผลไม้ชื่อดังจากเกาะฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น ปลูกที่เมืองยูบาริ เกาะฮอกไกโดตามชื่อชนิดสายพันธุ์ เปลือกมีเส้นนูนตัดกันเป็นตาข่าย ส่วนเนื้อด้านในมีลักษณะสีส้มทอง มีรสชาติหอมหวาน โดยพันธุ์ยูบาริ คิง ที่มีคุณภาพสูงๆ จะยิ่งมีราคามากขึ้น เมลอน ยูบาริ คิง เคยมีราคาประมูลสูงที่สุดอยู่ที่กิโลกรัมละ 773,438 บาท
- องุ่นรูบี้ โรมาน (Ruby Roman)
พันธุ์องุ่นที่มีการพัฒนาสายพันธุ์นานนับสิบปี กว่าจะถูกเข็นออกมาจำหน่ายให้ได้ลองลิ้มชิมรสกัน องุ่นรูบี้ โรมาน มีผลใหญ่พิเศษกว่าองุ่นทั่วไป เพราะได้รับการดูแลสุดพรีเมียม ตั้งแต่แสงแดด อุณหภูมิ เพื่อให้ได้สี รส ขนาด น้ำหนักตามกำหนด มีโรงเพาะปลูกที่สามารถคัดกรองและตรวจสอบคุณภาพได้ตลอดเวลา โดยองุ่นรูบี้ โรมาน ได้รับการพัฒนาและปลูกที่เมืองอิชิคาวา ประเทศญี่ปุ่นแห่งเดียวในโลก จึงนับเป็นวัตถุดิบที่มีเกรดพรีเมียมและหายากมากที่สุดสายพันธุ์หนึ่ง
- เบลูก้า คาเวียร์ (Beluga Cavier)
คาเวียร์ชนิดคล้ายกันกับ “ไข่ปลาคาเวียร์อัลมาส (Almas Cavier)” ต่างกันตรงที่คาเวียร์อัลมาสมาจากปลาเบลูก้าเผือก ซึ่งจะให้คาเวียร์ที่เป็นสีทอง ส่วนเบลูก้า คาเวียร์โดยทั่วไปจะมีการเพาะเลี้ยงในฟาร์มให้มีอายุถึงเกณฑ์ราวๆ 20 ปี จึงจะถึงวัยที่สามารถเก็บไข่ได้
ไข่จากเบลูก้าที่มีอายุ 20 ปี จะได้คาเวียร์ออกมาเป็นสีดำ ส่วนคาเวียร์อัลมาสจะมีคาเวียร์สีทอง ซึ่งจะมีราคาแพงกว่า อย่างไรก็ตาม ทั้งสองชนิดก็นับว่าหากินได้ยากมาก จึงมีราคาสูงนั่นเอง
- รังนกนางแอ่นสีแดง (Red Swift Nest)
สีแดงของรังนกนางแอ่นประเภทนี้ เกิดจากการทำปฏิกริยาระหว่างรังนกและแร่ธาตุจากผนังหินปูนภายในถ้ำที่นกนางแอ่นเข้าไปทำรัง โดยรังนกนางแอ่นได้รับการขนานนามว่า เป็น “คาเวียร์แห่งตะวันออก” เราอาจจะคุ้นเคยกับรังนกสีขาวหรือสีขาวขุ่น ซึ่งคือสีจากน้ำลายนกนางแอ่น ส่วนสีแดงถือเป็นประเภทรังนกนางแอ่นที่มีราคาสูง เพราะเชื่อว่ามีสรรพคุณในการบำรุงรักษาร่างกายมากกว่า
- ไวต์ อัลบา ทรัฟเฟิล (White Alba Truffle)
ขึ้นชื่อว่า เห็ดทรัฟเฟิลก็จัดเป็นวัตถุดิบที่มีราคาสูงแล้ว แต่ “ไวต์ อัลบา ทรัฟเฟิล” คือยอดพิระมิดของตระกูลทรัฟเฟิลก็ว่าได้ เพราะเป็นเห็ดทรัฟเฟิลที่มีมูลค่าสูงที่สุด สนนราคาตั้งแต่หลักแสนบาทไปจนถึงหลักล้านบาท ยิ่งเป็นไวต์ อัลบา ทรัฟเฟิล ที่มีคุณภาพพรีเมียมในระดับที่ต้องมีการประมูลด้วยแล้ว สามารถทะยานไปถึงกิโลกรัมละ 5,000,000 บาทได้เลย
- หญ้าฝรั่น (Saffron)
เครื่องเทศที่ได้รับการขนานนามว่า “ทองคำสีแดง” ใช้สำหรับการแต่งสี แต่งกลิ่นอาหาร โดยสาเหตุที่ทำให้มีราคาสูงก็เพราะตลอดทั้งปีหญ้าฝรั่นจะออกดอกเพียง 1-2 สัปดาห์ในช่วงฤดูใบไม้ผลิเท่านั้น ที่สำคัญ กระบวนการเก็บเกี่ยวเกสรเพศเมียของหญ้าฝรั่นซึ่งเป็นส่วนที่มีราคาแพงที่สุดจะต้องใช้แรงงานแบบ “แมนนวล” คือเก็บด้วยมือเพียงอย่างเดียว และในหญ้าฝรั่น 1 ดอก จะมีเกสรเพศเมียเพียง 3 เส้นเท่านั้น นอกจากนี้ ยังต้องปลูกในที่ที่มีสภาพอากาศเหมาะสม รับแสงแดดได้เต็มที่ พื้นดินมีความชุ่มน้ำ เป็นต้น
- กาแฟขี้ชะมด (Kopi Luwak)
กาแฟที่ราคาแพงและหายากที่สุด หลักๆ เป็นเพราะกระบวนการกว่าจะได้มาซึ่งกาแฟขี้ชะมดต้องผ่านกรรมวิธีหลายขั้นตอน ซับซ้อนกว่าการปลูกกาแฟทั่วๆ ไป วิธีการ คือต้องนำเมล็ดกาแฟให้ชะมดกินซึ่งเป็นสัตว์ที่ขึ้นชื่อเรื่องกินยากและเลือกกินอยู่แล้ว จากนั้น รอชะมดถ่ายออกมา แล้วต้องนำมูลของชะมดไปผ่านกระบวนการฆ่าเชื้อ ตากแดดอย่างน้อย 15-20 วัน และเก็บในรูปแบบแห้งอีกอย่างน้อย 6 เดือน แล้วจึงนำมากะเทาะ ใช้ครกตำข้าวแยกเมล็ดกาแฟออก เมล็ดกาแฟที่ผ่านกระบวนการหมักในท้องชะมดมาแล้วจะยิ่งเพิ่มความหอมเฉพาะตัว ซึ่งมาจากกระบวนการย่อยและเอนไซม์ในตัวชะมด
- เห็ดมัตสึทาเกะ (Matsutake Mushrooms)
ตระกูลเห็ดที่หาทานได้เพียงปีละครั้ง อ่อนไหว บอบบาง ช่างเลือกที่ขึ้น หากไม่ได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่อุดมสมบูรณ์มากๆ ก็ยากที่เห็ดมัตสึตาเกะจะเจริญเติบโตได้ ไม่เพียงเท่านั้น เพราะมันยังไม่ขึ้นในที่เดิมซ้ำๆ ต้องใช้เวลาสักระยะกว่าจะหาเจอ ที่สำคัญ ต้องเก็บเฉพาะดอกที่ยังบานหรือเจริญเติบโตไม่เต็มที่ เพราะจะทำให้ได้รับกลิ่นหอมของเห็ดเต็มเม็ดเต็มหน่วยมากกว่า
และนี่คือ 10 อันดับวัตถุดิบราคาแพงที่สุดในโลก ที่ดูจะมีจุดร่วมเหมือนกันตรงที่หายาก มีน้อย และกว่าจะออกมาเป็นรูปเป็นร่างอย่างที่เห็นกันตามภัตตาคารร้านอาหารได้นั้น ต้องผ่านกระบวนการที่ประณีต ละเอียดอ่อนมากที่สุด
ที่มา: curlytales, howtocook