Are Your People Still Engaged? | เส้นทางแห่งผู้นำ
ปีนี้ธุรกิจมักมีอุปสรรคหลายอย่างที่ต้องผ่านไปให้ได้ ทั้งเรื่อรายได้หดและหนี้สินที่เพิ่มขึ้น แต่อย่าลืมพิจารณาถึงความสัมพันธ์ในองค์กร บริษัท ผู้นำ และพนักงานได้พูดคุยและร่วมกันปรับตัวเพื่อการพัฒนาองค์กรให้ก้าวหน้า ได้ดีหรือยัง
ปีนี้มีเรื่องอะไรมากมายซึ่งผู้นำองค์กรต้องฟันฝ่า รายได้หายกำไรหด ลูกค้าที่เคยมีก็ตีจาก หนี้เก่ายังไม่หมดไปหนี้ใหม่กลับมีมาเพิ่ม อุปสรรคภายนอกรุมเร้า อย่าลืมถามตัวเอง คนของคุณยังมีใจให้คุณอยู่ไหมครับ?
ข้อมูลเดิมจากงานวิจัยคลาสสิค Gallup พบว่า พนักงานเพียง 4 ใน 10 คน (ในอเมริกา) ที่คิดว่าตนเองผูกพันกับงานที่ทำอยู่ ส่วน 60% ทำงานอย่างซังกะตายไปวันๆ หรือกำลังหางานใหม่ ซึ่งหากคุณเป็นองค์กรซึ่งกำลังจ่ายเงินเดือนคนเหล่านี้อยู่ คุณกำลังเสียผลประโยชน์อันควรได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยจากพนักงานกลุ่มหลังนี้
เจาะลึกลงไป Gallup วิเคราะห์และจำแนกปัจจัยหลักด้านประสิทธิภาพและประสิทธิผลของมนุษย์เงินเดือนออกมา 12 ประการ (เรียกกันสั้นๆว่า Q12)
1. I know what is expected of me at work ฉันรู้ว่าองค์กรต้องการอะไรจากฉันในการทำงาน ฟังดูเหมือนปัญหาหญ้าปากคอก แต่ผมบอกได้จากประสบการณ์ตัวเองว่าหัวหน้าแต่ละคนให้เวลาสื่อสารกับทีมต่างกัน บางคนคุยกับลูกน้องทุกวัน บางคนไม่เคยคุยเลยเป็นเดือนก็มี คุณอาจไม่ต้องทำบ่อยขนาดเคสแรก แต่ที่แน่ๆคืออย่าละเลยแบบเคสหลัง มีใครไหมในทีมของคุณที่ปีนี้ควรคุยกับเขาให้มากขึ้น? หากคุณสามารถทำข้อนี้ได้ดีขึ้น 20% (คุยกับลูกน้องเพิ่มขึ้น 2 คนจาก 10) ผลลัพธ์ของทีมสามารถเพิ่มขึ้นได้ถึง 7%
2. I have the materials and equipment I need to do my work right ฉันมีอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือพร้อมต่อการทำงาน ทบทวนสักนิดว่า ในโลกยุคใหม่มีสมมติฐานใดเปลี่ยนไปบ้างไหม? แทนการจ่ายที่จอดรถให้พนักงาน เปลี่ยนมาเพิ่มค่าไฟในการใช้คอมพ์จากที่บ้าน หรือย้ายค่าเดินทางยานพาหนะมาเป็นค่าเน็ตมือถือ จะตรงโจทย์การทำงานแบบ New Normal มากกว่าหรือไม่?
3. At work, I have the opportunity to do what I do best every day ฉันมีโอกาสได้ทำงานที่ฉันทำได้ดีที่สุดในทุกๆ วัน ข้อนี้เป็นคำถามซึ่งข้อมูลเศร้าสุด เพราะมีเพียง 4 ใน 10 คนเท่านั้นที่เห็นด้วย หากพนักงานส่วนใหญ่ของคุณกำลังรู้สึกตรงกันข้ามกับคำถามข้อนี้ กรุณาแบ่งเวลาสัมภาษณ์คนใหม่ไว้แต่เนิ่นๆ เพราะคนอยู่นั้น เขาอยู่เพื่อรอข้อเสนอใหม่ที่ดีกว่า
4. In the last seven days, I have received recognition or praise for doing good work ฉันได้รับคำชมอย่างน้อยหนึ่งครั้งในสัปดาห์ที่ผ่านมา ยิ่งสภาวะทางธุรกิจแย่ ผู้จัดการซึ่งปกติปวดหัวกับข้อนี้อยู่แล้วยิ่งปวดหัวหนัก เพราะยิ่งมีแต่ข่าวร้าย ยิ่งไม่มีเรื่องจะชมลูกน้อง เรื่องนี้ Growth Mindset บอกว่าจงฝึกโฟกัสกับพฤติกรรมของลูกน้องมากกว่าผลลัพธ์ ในสัปดาห์หนึ่งแม้ผลลัพธ์จะยังไม่เป็นดั่งที่ต้องการ แต่ลูกน้องน่าจะมีพฤติกรรมดีๆ ให้ชมได้บ้าง
5. My supervisor, or someone at work, seems to care about me as a person หัวหน้าหรือเพื่อนร่วมงานแคร์ความรู้สึกของฉันอย่างจริงใจ ในทุกวิกฤติมีโอกาสซ่อนอยู่ หากคุณคือผู้นำอย่าละเลยการสร้างแรงบันดาลใจ ฝึกแสดงความเห็นอกเห็นใจลูกน้อง ลองเล่าปัญหาของคุณให้พวกเขาฟัง Brene Brown บอกว่า vulnerability creates trust ความเชื่อใจเริ่มจากการเปิดใจ
6. There is someone at work who encourages my development มีคนในองค์กรคอยดูแลการพัฒนาศักยภาพของฉัน หากให้พนักงานประเมินผมคิดว่าข้อนี้คะแนนอาจหล่นวูบ แถมเป็นเรื่องซึ่งไม่ได้เห็นผลเสียทันที แต่จะค่อยๆแสดงอาการทีหลัง เทคโนโลยีจะล้ำสมัยอย่างไร ก็ไม่สามารถทดแทนการเรียนรู้ทางสังคมของมนุษย์ได้ทั้งหมด ดังนั้นองค์กรการ์ดต้องไม่ตก ต้องผลักดันให้คนของคุณได้พัฒนาต่อไป
ข้อ 7-12 ที่เหลือเราจะมาต่อกันในครั้งหน้านะครับ