แฟนคลับ 'สเต็กเนื้อ' เชิญที่ 'The Beef Master'

นักชิมสายเนื้อฟังทางนี้ หลังจากหมูหวานกลับมารับประทานเนื้ออย่างจริงจังได้ไม่นานก็มีโอกาสได้ไปพบ เนื้อดีๆ ที่ร้าน "The Beef Master" ชั้น 6 MBK Center ต้องบอกเลยว่าของเขาดีจริงๆ สำหรับที่ร้าน The Beef Master by Company B สิ่งที่ประทับใจอันดับแรกก็คือเขาทางร้านมีฟาร์มเป็นของตัวเอง ธุรกิจของเขาเริ่มจากขายส่งเนื้อจากฟาร์มคุณภาพดี ผันตัวมาเปิดร้านอาหารของตัวเองมาได้ 2 ปีแล้ว  

พูดถึงอักษรคำว่า “B” ของบริษัท Company B มาจากคำว่า “บอรอกัต” เป็นภาษาอาหรับแปลว่า “พรอันเป็นมงคล ที่ได้มาจากความถูกต้องดีงามเท่านั้น” ถือว่าเป็นวัตถุประสงค์ของทางเจ้าของบริษัท โดยมีจุดเด่นของสินค้าตรงที่กรรมวิธีคัดสรรไม่เหมือนใคร เริ่มจากนำเข้าวัวออสเตรเลียสายพันธุ์ Drought Master มาเลี้ยงดูแลในประเทศไทยกว่า 200 วัน เพื่อคงไว้ถึงความสดใหม่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ การเลี้ยงดูในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ให้อาหารบำรุงตรงกับสายพันธุ์เช่น เปลือกถั่วเหลือง,เปลือกมันสัมปะหลัง,ข้าวโพด,ปลายข้าวสาร และงาดำ เพื่อการเปลี่ยนแปลงรสชาติ รสสัมผัสเส้นใยเนื้อและกลิ่นที่ต้องการ

พูดถึง “เนื้อวัวดี” ก็ต้องคิดถึง “สเต็กเนื้อ” หมูหวานว่าเนื้อแต่ละส่วนจะมีเสน่ห์และรสชาติแตกต่างกันไป ทั้งส่วนของสันนอก, ริบอาย, สันใน, ทีโบน,โทมาฮอว์ค ฯลฯ สำหรับหมูหวานต้อง “ริบอาย” (Rib Eye) ซึ่งเป็นเนื้อส่วนซี่โครงที่ตัดเอากระดูกและเอ็นรอบนอกออก เหลือแต่เนื้อส่วนกลางที่ให้รสชาติที่ดีที่สุด เป็นส่วนที่นุ่มรสเข้มข้น มีไขมันแทรกระหว่างกล้ามเนื้อสูง ทำให้มีความนุ่มชุ่มชื้นและกลิ่นหอมที่โดดเด่นจนได้ชื่อว่าเป็น The King of Roasts สั่งเนื้อสเต็กส่วนนี้มาจิ้มกับน้ำจิ้มแจ่ว โอ้โหสวรรค์อยู่ตรงนี้นี่เองหลายคนชอบ เนื้อส่วนโทมาฮอว์ค (Tomahawk) เป็นเนื้อติดซี่โครงชิ้นโต หนานุ่ม เนื้อแน่น ชุ่มฉ่ำเต็มคำ ขนาดของชิ้นเนื้อจะอลังการสุดๆเพราะเป็นเนื้อซี่โครงส่วนที่ใหญ่ที่สุดของวัว ทั้งเนื้อและไขมันแทรกนี่จัดหนักมากๆ ส่วนใหญ่จะเสิร์ฟด้วยความหนาประมาณ 2 นิ้วขึ้นไป

หมูหวานสั่ง ทีโบน (T-Bone) เป็นเนื้อส่วนที่ถูกเฉือนกึ่งกลางระหว่างสันในและสันนอก โดยคั่นกลางด้วยกระดูกรูปตัวที (T) จึงมีชื่อเรียกว่าทีโบน ถือว่าเป็นความดีงามที่รวบรวมเนื้อสันนอกและสันในเอาไว้ในชิ้นเดียวกัน ส่วนใหญ่จะเสิร์ฟที่น้ำหนักประมาณ 300-400 กรัม ราคาอยู่ที่ 800-1,000 บาท  

มาที่ร้านนี้ต้องไม่พลาดชิม เบอร์เกอร์เนื้อ เพราะทางร้านใช้เนื้อส่วนที่เป็น  55 days Dry aging ในส่วนของเบอร์เกอร์จะใช้เนื้อดรายเอจ 80 เปอ ร์เซ็นต์ ผสมผสานกับเนื้อผสมมัน (เสือร้องไห้) 20 เปอร์เซ็นต์ ย่างออกมาแล้วหอมกรุ่นมากๆ พิเศษกว่านั้นคือ ทางร้านทำขนมปังเองเพื่อความสดใหม่ทุกวัน แป้งของขนมปังนำเข้าจากประเทศฝรั่งเศส เพื่อให้ได้ขนมปังที่หอมนุ่มมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครหมูหวานได้ชิม สเต็กจิ้มแจ่ว (ราคา 279 บาท) ที่ทางร้านนำเนื้อส่วนบั้นเอวของวัวมาหมักแล้วย่างเป็นสเต็กหอมกรุ่นมากๆ รสสัมผัสเวลาเคี้ยวเด้งในปากหนึบหนับ อร่อยจริงๆ เรียกได้ว่าใครชอบเนื้อส่วนใหญ่เลือกจิ้มได้ตามใจชอบเช่น เนื้อส่วนสันนอก (Striploin) เป็นเนื้อส่วนที่ติดอันดับเนื้อสเต็กที่อร่อยที่สุด มีความนุ่มชุ่มฉ่ำที่เต็มไปด้วยรสชาติของเนื้อสันติดมัน เป็นเนื้อส่วนที่อยู่ระหว่างขาหลังและเนื้อส่วนล่าง เรียกได้ว่าเป็นอีกส่วนที่อร่อยครบเครื่องคุณภาพสมราคา

เนื้อส่วนสันใน (Tenderloin) จัดเป็นที่สุดของเนื้อวัว มีความนุ่มละมุนเป็นพิเศษ ไม่มีไขมันเนื่องจากเป็นกล้ามเนื้อที่อยู่ส่วนในสุด แทบจะไม่มีการเคลื่อนไหวหรือถูกใช้งานเลย จึงทำให้คงความนุ่มละมุนสมกับฉายา ราชินีของเนื้อวัว จริงๆ

ใครไม่ทานเนื้อวัวมี เนื้อไก่ และ เนื้อปลา ให้เลือกอร่อยได้ทั้งเมนู เบอร์เกอร์ไก่ และ สเต็กไก่ หรือจะสั่ง พาสต้าปลาแซลมอน หรือ สเต็กปลาแซลมอน ก็ได้ บอกเลยว่า มันบด เขาอร่อยมากจริงๆ หรือใครจะสั่งเมนูบ้านๆอย่าง กะเพราเนื้อ ไข่ดาว ร้านนี้เขาก็มีเสิร์ฟนะจ๊ะ

ร้าน The Beef Master By Company B เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-19.00 น. บริเวณชั้น 6 ศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือติดตามโปรโมชันต่างๆได้ที่ Facebook : The Beef Master MBK โทร. 098 247 7001