‘Phuket Sandbox’ เปิด ‘สำรับใต้’ ที่ ร้านตู้กับข้าว
หมูหวานเที่ยวภูเก็ต ชิมอาหาร “สำรับใต้” ที่ “ร้านตู้กับข้าว” ภายใต้บรรยากาศแบบ “ชิโนโปรตุกิส” เมนูที่ไม่ควรพลาดมีทั้งใบเหลียงผัดไข่, น้ำพริก หรือ “น้ำชุบ” แกงเหลือง หรือ แกงส้มสับปะรดภูเก็ต และอื่นๆอีกมากมาย มื้อเดียวคงไม่พอ
“อาหารใต้” รสเลิศ รอคอยเราอยู่ที่ “ร้านตู้กับข้าว” ท่ามกลางสถาปัตยกรรมสไตล์ “ชิโนโปรตุกิส” ที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 114 ปี Sino-Portugyese เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นของ “จังหวัดภูเก็ต” เมนูอาหารท้องถิ่นที่ไม่ควรพลาดของร้านนี้ เห็นจะหนีไม่พ้น แกงปูใบชะพลู (เนื้อปูม้าแกะ และน้ำกะทิสด)และ หมูฮ้อง (หมูสามชั้นหมักเครื่องเทศ 5 ชั่วโมง ตุ๋นไฟอ่อน 5 ชั่วโมง) ใครได้ชิมจะต้องติดใจ
อีกเมนูไม่ควรพลาดคือ น้ำพริกปลาฉิ้งฉ้าง/ระกำ ที่ทางร้านได้ทำความสะอาดปลามาอย่างดี ก่อนนำไปต้ม แล้วตากแดดให้แห้ง แล้วนำมาตำกับกะปิอย่างดี พร้อมกับเครื่องปรุงอื่นๆ อาทิเช่น กระเทียม,หอมแดง,พริกขี้หนูสวน และน้ำตาลปี๊บ แล้วใส่ระกำลงไปเพิ่มรสชาติอีกด้วย ก่อนบีบน้ำมะนาวเพิ่มความเปรี้ยว เสิร์ฟมากับผักพื้นบ้าน
ต้มกะทิหน่อไม้ ใส่สะตอ ชะอม กุ้งแห้ง เป็นเครื่องแนมรับประทานกับ “น้ำชุบ” (น้ำพริก) ทางร้านใช้ "หน่อไผ่ตง" เนื้อนุ่มเต็มคำรสหอม-หวานตามธรรมชาติ เป็นเมนูพิเศษที่ทางร้านทำขึ้นมาเพื่อเสิร์ฟคู่กับน้ำพริกหรือ "น้ำชุบ" นั่นเอง
เรียกได้ว่าล่องใต้อินเทรนด์ไปกับโครงการ Phuket Sandbox ทั้งที เราต้องไม่พลาดชิม “สำรับใต้” ที่ ร้านตู้กับข้าว และอีกเมนูฮิต ใบเหลียงผัดไข่ ร้านนี้เลือกเฉพาะยอดอ่อนๆ เคี้ยวสบาย ดีต่อเหงือกและฟัน “ใบเหลียง” ถือว่าเป็นราชินีแห่งผักพื้นบ้านภาคใต้ ที่มีสารอาหาร และคุณค่าทางโภชนาการสูง เดิมเป็นผักป่าที่ขึ้นเองตามธรรมชาติ ตอนหลังกลายเป็นพืชเศรษฐกิจ ที่นิยมนำมาปลูกตามสวนยางของชาวบ้าน พืชผักสีเขียวชนิดนี้ มีแคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก และวิตามินเอ วิตามินซี ไนอะซีน ช่วยบำรุงสายตา ลดความเสื่อมของลูกตา และต้อกระจก มีเบต้าแคโรทีนไม่แพ้แครอท เรียกได้ว่านอกจากจะมีรสชาติอร่อยแล้วยังทรงคุณค่าน่าลิ้มลอง
น้ำชุบหยำ หรือ น้ำพริกกุ้งสด รับประทานเคียงคู่กับ หมูฮ้อง เข้ากั๊น เข้ากัน ทางร้านใช้กะปิดีระดับสินค้าโอท็อปของ อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่ง กุ้งผัดกะปิสะตอ ก็ใช้ “กะปิ” จากท่าศาลาเช่นกัน ทางร้านนำ “กะปิ”มาโขลกรวมกับกระเทียม หอมแดง พริกขี้หนู ผัดจนหอมฉุยแล้วใส่กุ้ง และสะตอลงไปผัดไฟร้อนๆ รับประทานคลุกกับข้าวสวย ส่วน “สะตอ” นั้นก็มีคุณค่าทางอาหาร ช่วยบำรุงสายตา ป้องกันหลอดเลือดอุดตัน ลดความดันโลหิต มีทั่งแคลเซียม ฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก วิตามินบี 1-2-3 และวิตามินซี
จากนั้นมาเอาใจคนชอบกิน "ปลา" ด้วยเมนูที่ชื่อ ปลาเจี๋ยนเต้าเจี้ยว (190 บาท)ทางร้านนำ "ปลากะพงขาว" ไปทอดแล้วนำมาเจี๋ยนกับเต้าเจี้ยวของภูเก็ต รสชาติเค็มๆ มีใบขึ้นฉ่าย ขิง พริกขี้หนู เป็นรสชาติของชาวภูเก็ตแท้ๆ และ ยำผักกูดกุ้งสด เป็นอีกเมนูที่หมูหวานชื่นชอบ เพราะ “ผักกูด” เป็นผักสมุนไพรที่อร่อยและมีคุณค่า ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน และมีสารต้านอนุมูลอิสระ มีธาตุเหล็ก และเบต้าแคโรทีน ช่วยให้ร่างกายดูดซึมแร่ธาตุต่างๆได้ดี ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเม็ดเลือด บำรุงโลหิต บำรุงสายตา แก้พิษอักเสบ นำมาทำเป็น “ยำ” หรือ “ผักลวกจิ้ม” แนมกับเมนู “น้ำชุบหยำ” ก็อร่อย
แกงส้มปลากับสับปะรด ชามนี้มีรสชาติเข้มข้นแบบ “สำรับใต้”แท้ๆ ซึ่ง“สับปะรดภูเก็ต” มีเนื้อสัมผัสหวานกรอบ เมื่อนำมาใส่ในแกงส้มทำให้รสชาติลงตัวยิ่งนัก รสเปรี้ยวอมหวานของสับปะรดตัดกับน้ำแกงส้มที่เผ็ดร้อนเข้มข้นเข้ากันได้ดี ทางร้านใช้ “ปลากะพงแดง” เนื่องจากเมื่อนำมาแกงแล้ว เนื้อของปลาจะแน่นไม่เปื่อยยุ่ยง่ายเหมือนเนื้อ “ปลากะพงขาว”
หมูเอี่ยมต้อผัดเคยเค็ม (220 บาท)เป็นอีกเมนูซิกเนเจอร์ ซึ่ง “หมูเอี่ยมต้อ” มีลักษณะคล้ายๆกับ “หมูสามชั้น” ในหมู 1 ตัวจะมีแค่ 2 ชิ้นเท่านั้น จะเป็นเนื้อที่อยู่บริเวณราวนมโคนขาหลังด้านซ้ายและขวา แต่ละชิ้นมีน้ำหนักแค่ 1.5 ขีด ทางร้านนำ “หมูเอี่ยมต้อ” มาผัดกับกุ้งเคย ซึ่งใช้กรรมวิธีเดียวกับการทำกะปิ ทว่าดองแค่ 24 ชั่วโมง (ดองนานกว่านั้นจะเป็นสีม่วงเข้มไม่สวย)ก็จะได้วัตถุดิบเป็นสีชมพูอมม่วง พ่อครัวปรุงจานนี้โดยบีบน้ำมะนาวลงไปเพิ่มความเปรี้ยวนิดหน่อย
เที่ยวภูเก็ต ตอบสนองโครงการ Phuket Sandbox ต้องไม่พลาดชิม “สำรับใต้” ที่ ร้านตู้กับข้าว เลขที่ 8 ถนนพังงา (อยู่แถวโรงแรมออนออนภูเก็ต) เปิดบริการทุกวันตั้งแต่ 11.00-21.00 น. โทร.076 608 888 และ 089-646 5434