สงกรานต์ 2566 ชวนไหว้พระวัดภูเขาทอง(วัดสระเกศ)สวดมนต์มหาสมัยสูตร 210 ปี

สงกรานต์ 2566 หรือ ปีใหม่ไทย ปีนี้ คณะสงฆ์วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร หรือวัดภูเขาทอง จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์บทมหาสมัยสูตร ที่เดียวในไทยที่มีการสวดพระสูตรบทนี้ เทวดาจะมาประชุมกันเพื่ออำนวยพรให้สาธุชนมีความสุขความเจริญในวันขึ้นปีใหม่ตามประเพณีโบราณ

พิธีเจริญพระพุทธมนต์มหาสมัยสูตร ปฏิบัติมาตั้งแต่สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ จนถึงปัจจุบัน (ปี 2566 )เป็นเวลา 210 ปี โดยจัดทุกวันที่ 15 เมษายนของทุกปี ปีนี้เริ่มตั้งแต่เวลา 17.00 น. ณ พระอุโบสถ วัดสระเกศฯ 

สงกรานต์ กับบทมหาสมัยสูตร

มหาสมัยสูตร เป็นพระสูตรโบราณขนาดยาว จัดอยู่ในมหาวรรค หมวดมีฆนิกาย ในพระสุตันตปิฎก เนื้อหาว่าด้วยการชุมนุมใหญ่ของเทพยดาทั้งปวง โดยครั้งนั้นพระผู้มีพระภาคประทับ ณ ป่ามหาวัน ใกล้กรุงกบิลพัสดุ์ พร้อมด้วยภิกษุสงฆ์ประมาณ 500 รูป

 

ทางขึ้นวัดภูเขาทอง 

 

ครั้งนั้นเทพเทวดามาประชุมกัน เพื่อเฝ้าพระผู้มีพระภาคพร้อมด้วยภิกษุสงฆ์ โดยกล่าวคาถากันคนละบท ใจความพรรณนาความประสงค์ที่มาความประพฤติชอบของพระสงฆ์ และพรรณนาว่า ผู้ถึงพระพุทธเจ้าเป็นสรณะย่อมไม่ไปสู่อบาย

บทสูตรบทนี้ สวดกันเป็นประจำที่วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร โดยเริ่มสวดกันมาตั้งแต่ครั้งรัชกาลพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ระหว่างการสวดจะมีการทำพิธีปลุกเสกน้ำมนต์มหาสมัยสูตร คาดว่าการปลุกเสกน้ำมนต์มหาสมัยสูตรนี้ เริ่มมาแต่ครั้งรัชกาลพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว

นอกจากพิธีเจริญพระพุทธมนต์มหาสมัยสูตร การกราบไหว้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อเป็นสิริมงคลในวัดสระเกศ มีอีกวาระในช่วงเทศกาลสงกรานต์

 

1. พระบรมสารีริกธาตุ 

วัดสระเกศเป็นวัดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยอยุธยา เดิมชื่อวัดสะแก กระทั่งสมัยรัชกาลที่ 1 เปลี่ยนชื่อเป็นวัดสระเกศ ส่วนเจดีย์ภูเขาทอง เริ่มสร้างในสมัยรัชกาลที่ 3 เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่ได้รับจากประเทศอินเดีย ซึ่งขุดจากเนินพระเจดีย์เก่าในเมืองกบิลพัสดุ์

พระบรมสารีริกธาตุ เป็นปูชนียสถานและสัญลักษณ์อยู่คู่วัดสระเกศสร้างเสร็จในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยพระบรมสารีริกธาตุที่บรรจุชั้นบนสุดภูเขาทอง มีความศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อตั้งแต่โบราณ การกราบไหว้จึงเป็นสิริมงคล

2. ต้นพระศรีมหาโพธิ์ 

ส่วนต้นพระศรีมหาโพธิ์ อายุกว่า 200 ปีซึ่งจะมีการร่วมสรงน้ำทุกปี ว่ากันว่าในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช พระองค์ทรงส่งสมณทูตไปเผยแพร่พุทธศาสนาในลังกา และทรงให้นำหน่อพระศรีมหาโพธิ์ไปปลูกที่ศรีลังกาด้วย 

กษัตริย์ลังกาในสมัยนั้นได้พระราชทานหน่อพระศรีมหาโพธิ์ถวายรัชกาลที่ 2 จำนวน 3 หน่อ ทรงให้ปลูกที่หน้าพระอุโบสถ วัดสระเกศฯ วัดสุทัศน์ และวัดมหาธาตุ ในปีพ.ศ. 2357 และมีการสรงน้ำต้นพระศรีมหาโพธิ์ในวันสงกรานต์ จนเป็นโบราณราชประเพณีปฏิบัติสืบเนื่องมาเป็นประจำทุกปี

3. พระอุโบสถ 

ที่ประดิษฐานของหลวงพ่อพระประธาน พระพุทธรูปปางสมาธิ สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาและบูรณะในสมัยรัชกาลที่ 1 เนื่องจากมีความเก่าแก่ แต่รัชกาลที่ 1 ไม่ทรงพระราชทานชื่อ จึงถูกเรียกว่าหลวงพ่อพระประธาน

4. พระวิหารหลวงพ่ออัฎฐารส 

สถานที่ประดิษฐาน หลวงพ่อดุสิต และ พระอัฎฐารส  เป็นพระพุทธรูปยืนศิลปะสมัยสุโขทัยตอนต้น อายุ 700 ปี และเป็นพระพุทธรูปยืนที่สูงที่สุดในกรุงเทพฯ 

5. หลวงพ่อพระประธาน

มีความเด่นด้านเมตตาบารมี กราบไหว้ขอพรควรนั่งสมาธิควบคู่ จะให้พบทางออกของปัญหาที่เรากำลังเผชิญ

 

ส่วนหลวงพ่อดำ เป็นพระพุทธรูปที่คู่กับบรมบรรพต (ภูเขาทอง) มาตั้งแต่แรก ,หลวงพ่อโชคดี ผู้ใดได้สักการบูชา ย่อมประสบในสิ่งที่ใจปรารถนาทุกประการ

และหลวงพ่อดวงดี มีคติในการสักการะว่า ผู้ใดได้บูชาสักการะจะมีดวงที่ดี เป็นที่รักของมิตรสหาย ปลอดภัยจากอุปสรรคนานาประการ

 

สถานที่: เลขที่ 344 ถนนจักรพรรดิพงษ์ แขวง บ้านบาตร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ 

................

อ้างอิง

-หอสมุดรัฐสภา https://library.parliament.go.th/

-วิกิพีเดีย