‘เอ-เมส มัลติสโตร์’ ชู ‘แฟชั่นรักษ์โลก’ คืนชีวิตผ้าสู่ ‘ผ้าย้อมคราม’

บมจ.'บูติคนิวซิตี้' ชูวิสัยทัศน์ 'ESG' ภายใต้แนวคิด ‘เศรษฐกิจหมุนเวียน’ นำเสื้อผ้าขาวที่ส่งกลับจากร้านค้าจากการลองชุด ไปผ่านกระบวนการซักและออกแบบทำ 'ผ้าย้อมคราม' แฮนด์เมด และเป็น ‘แฟชั่นรักษ์โลก’
เอ-เมส มัลติสโตร์ โดย บมจ.บูติคนิวซิตี้ ขับเคลื่อน A’maze GREEN Society ชูวิสัยทัศน์ ESG และแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) แนะนำ แฟชั่นรักษ์โลก คอลเลคชั่น Organic Indigo
โดยนำเสื้อผ้าขาวที่ส่งกลับจากร้านค้าในแต่ละสาขา อันเนื่องมาจากอุบัติเหตุจากการลองชุด อาทิ คราบแป้ง เปื้อนลิปสติก ไปผ่านกระบวนการทำความสะอาด มาออกแบบและทำสีด้วยการมัดย้อมด้วยหรือ ผ้าย้อมคราม ด้วยครามธรรมชาติจากภูมิปัญญาชาวบ้าน เพื่อคืนชีวิตให้เสื้อผ้า
วางจำหน่ายที่ร้าน เอ-เมส มัลติสโตร์ 2 สาขาใหม่ที่ พาราไดซ์ ปาร์ค และ เดอะมอลล์ บางกะปิ
ประธานกรรมการบริหาร บูติคนิวซิตี้ ประวรา เอครพานิช เล่าว่า
โดยนักออกแบบมีส่วนในการกำหนดการออกแบบและพัฒนาเสื้อผ้าให้มีประสิทธิภาพและประโยชน์สูงสุด ลดการใช้ผลิตภัณฑ์เคมีในกระบวนการฟอกสีและย้อมผ้า จนถึงการขับเคลื่อนแฟชั่นที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
เพื่อตอกย้ำวิสัยทัศน์ ESG (Environment, Social and Governance) และแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) เรามุ่งขับเคลื่อน A’maze GREEN Society (เอ-เมส กรีน โซไซตี้) ให้เป็นส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรมแฟชั่น สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม ในการลดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
อีกทั้งต้องการเป็นองค์กรที่ลดขยะที่เกิดจากอุตสาหกรรมให้เป็นศูนย์ (Zero Waste)”
โครงการ A’maze GREEN Society เกิดจากความร่วมมือของบูติคนิวซิตี้ กับคู่ค้าพันธมิตรอย่าง ลฤก, เดอะแพคเกจจิ้ง, มอร์ลูป (moreloop) และมหาวิทยาลัยราชภัฎสกลนคร