แนะดู "หยกอัญมณี" ด้วยหลักวิทยาศาสตร์3ขั้นตอน

แนะดู "หยกอัญมณี" ด้วยหลักวิทยาศาสตร์3ขั้นตอน

“หยก” อัญมณีที่ล้ำค่า เป็นที่นิยมมาอย่างช้านานนอกเหนือจากสีที่สวยงามหยกยังมีคุณค่าในเรื่องความเชื่อต่างๆ โดยเฉพาะในประเทศจีนและความเชื่อเหล่านั้นได้สืบทอดไปยังภูมิภาคต่างๆ

โดยชาวจีนโพ้นทะเล ผู้ใดได้ครอบครองหยก ผู้นั้นจะมีสิ่งดีๆมากมายหลั่งไหลเข้ามา ความสง่างาม ความมั่งคั่ง ความสำเร็จ ความสุข และโชคลาภ จึงทำให้หลายคนพยายามไขว่คว้าหามาครอบครอง โดยเฉพาะหยกสีเขียวจักรพรรดิ ที่ถือว่าเป็น เจ้าแห่งหยกสีเขียว  

ปัจจุบันตลาดอัญมณีมีการชื้อขายกันอย่างกว้างขวางทั้งในประเทศและต่างประเทศ บางชิ้นน้ำงาม สีสวย ก็ส่งผลให้ราคาสูง แต่ยังเห็นว่ามีหยกปลอมหรือคุณภาพต่ำมาขายกันทั่วไป การเลือกซื้อเราจะมั่นใจได้อย่างไรว่าจะได้หยกแท้คุณภาพดีสมตามราคาที่เราจ่ายไป วันนี้กูรูมาแนะนำทริคง่ายๆในการดูหยกและวิธีการตรวจสอบหยกง่ายๆ ด้วยหลักวิทยาศาสตร์ เพียง 3ขั้นตอน...

นายชเนนทร์กันต์  จักรวาลวิบูลย์  Head of gems laboratory บริษัท เอ็นจีจี เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด  NGG JEWELLERY อาณาจักรเครื่องประดับแท้จากธรรมชาติรวมศาสตร์และศิลป์แห่งเครื่องประดับทั้ง เพชร ทองคำ อัญมณี และนาฬิกา ที่ได้รับความไว้วางใจและอยู่คู่คนไทยมาอย่างยาวนานกว่า 40 ปี  ได้ให้ความรู้เรื่องหยกว่าอย่างน่าสนใจ คือ  หยก หรือภาษาจีนกลางเรียกว่า (Fei cui) 翡翠 ซี่งเป็นอัญมณีอันดับต้นๆ ที่หลายคนนึกถึงเมื่อต้องการ ความสวยงาม และการนำโชคลาภต่างๆมาให้แก่ผู้สวมใส่หยก (Fei cui) เป็นตัวแทนของความเมตตา กรุณา ความสงบสุข นอกจากนี้ยังมีความเชื่อมากมาย เช่น ช่วยส่งเสริมโชคลาภและความร่ำรวย ป้องกันอันตรายจากอุบัติเหตุต่างๆ  ความสวยที่น่าหลงใหล กับโชคลาภต่างๆจะนำมาให้แก่ผู้สวมใส่ จึงทำให้ความนิยมตลอด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

ส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับเดือน ก.ย.66 กลับมาฟื้นตัว

เสริมมงคลด้วยจิวเวลรี่บ่งบอกไลฟ์สไตล์... รับปีมังกรสุดปัง!

3 ขั้นตอนตรวจหยกตามหลักวิทยาศาสตร์

การตรวจสอบภายในห้องปฏิบัติการอัญมณี (LAP)ของ NGGได้ใช้การตรวจสอบที่เป็นมาตรฐานสากลโดยนำเครื่องมือมาใช้ในการช่วยวิเคราะห์เพื่อให้ได้ผลการตรวจสอบที่ถูกต้อง 100% ถึง  3 ขึ้นตอน คือ...

  1. ) กล้องไมโครสโคป นักอัญมณีศาสตร์ที่มีความชำนาญของ ห้องปฏิบัติการตรวจสอบอัญมณีของ NGG ใช้กล้องไมโครสโคปตรวจสอบความเป็นธรรมชาติของสี
  2. ) Laser Raman Spectroscope นำหยก (Fei cui) มาตรวจสอบด้วยเครื่อง Laser Raman Spectroscope เพื่อดูว่ามีแร่ชนิดไหนเป็นแร่อะไรบ้างเพราะแร่บางชนิดมีลักษณะทางกายภาพคล้ายหยกมาก เช่น Hydrogrossular Garnet
  3. ) เครื่อง FTIR เป็นเครื่องมือที่ใช้แสงอินฟาเรดในตรวจวิเคราะห์โดยไม่ทำอันตรายใดๆกับหยก(Fei cui) เพื่อจะตรวจสอบว่าหยกชิ้นนี้มีการใส่สารโพลิเมอร์หรือไม่

ทั้งนี้ NGG JEWELLERY จะคัดหยกที่เป็น A jade เท่านั้น  การจะได้หยกธรรมชาติที่มีสีสวย เนื้อดีต้องอาศัย จังหวะและดวง ถึงจะได้พบกับหยกที่เรียกว่า สี Imperial ไม่ได้มีดีที่สีเขียวสวยงามคล้ายมรกต เนื้อต้องละเอียด แสงสามารถส่องผ่านได้ จึงจะเป็น Imperial jade หรือจักรพรรดิแห่งหยกเท่านั้น ถึงจะมีสิทธิ์วางขายในร้าน NGG JEWELLERY เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจได้เมื่อซื้อหยก(Fei cui)

แนะดู \"หยกอัญมณี\" ด้วยหลักวิทยาศาสตร์3ขั้นตอน

เผยตรวจสอบหยกว่ามีมากมายหลายวิธี ได้แก่

1. การนำเส้นผมพันหยก (Fei cui) แล้วลนไฟ ถ้าเป็นเฝ่ยฉุ้ยแท้ผมจะไม่ขาด วิธีนี้เป็นความเชื่อแบบผิดๆ ความจริงนั้นไม่ว่าจะเป็นแร่ชนิดไหน ก็ทำให้ผมไม่ขาดเพราะการลนไฟ ไม่ได้จ่อไปที่ผมโดยตรง ส่วนมากจะแค่ลนๆแกว่งไปมา และไม่ว่าจะเป็นอัญมณีชนิดไหน ก็ทำให้ผมไม่ขาดเหมือนกัน

2.  หยกเย็น การตรวจสอบอัญมณี เรียกว่า “worm in touch, cold in touch” ช่วยแยกแยะได้ว่าอัญมณีชิ้นนี้เป็นแร่ แก้ว หรือพลาสติก ซึ่งวิธีนี้ไม่สามารถใช้ตรวจสอบหยกได้ เนื่องจากมีอัญมณีหลายชนิดที่นิยมนำมาหลอกขายว่าเป็นหยก แต่ราคาต่างกันมาก เช่น ควอทซ์ย้อมสี

ปัจจุบันวงการหยก โดยเฉพาะในประเทศจีน ญี่ปุ่น ฮ่องกงและไทย  เปลี่ยนการเรียกชื่อกันเล็กน้อย ซึ่งเกิดจากการตรวจสอบอัญมณีที่มีเครื่องมือทันสมัยมากขึ้น เช่นเครื่อง Laser Raman Spectroscope เป็นเครื่องที่ใช้เลเซอร์ในการวิเคราะห์ว่าเป็นพลอย แร่ชนิดใดอย่างละเอียด ซึ่งเครื่องนี้ทางห้องปฏิบัติการตรวจสอบอัญมณีของ NGG ก็ใช้เช่นกัน พบว่า หยก Jadeite ในอดีตที่ใช้กันมา ไม่ได้มีแร่ Jadeite อยู่เพียงชนิดเดียว พบว่ามีแร่ตัวอื่นอีกสองชนิดปนอยู่ด้วยกัน นั้นคือ Omphacite และ Kosmochlor โดยทั้งสามชนิดนี้เมื่อดูด้วยตาเปล่า หรือใช้กล้องไมโครสโคปที่มีกำลังขยาย 60 เท่าส่อง ก็ไม่พบความแตกต่าง มีเพียงเครื่องมือที่กล่าวมาข้างต้น ที่จะแยกแยะได้  จึงเป็นที่มาของการเปลี่ยนชื่อเรียกกันใหม่ จากหยกพม่า หยก Jadeite เป็นหยกเฝ่ยฉุ้ย เพื่อป้องกันการสับสนในการซื้อขาย

แนะดู \"หยกอัญมณี\" ด้วยหลักวิทยาศาสตร์3ขั้นตอน

ทั้งนี้ หยก (Fei cui) ที่มีคุณภาพดี สีสวย ไม่ได้เป็นที่พบได้ตามปกติ เพราะมีการนำFei cuiที่เนื้อและสีที่ไม่สวยมาปรับปรุงคุณภาพ เช่น ย้อมสี ใส่โพลิเมอร์เข้าไปทำให้สีสวย เนื้อดีขึ้นมาได้ หรือที่เรียกกันว่า หยกอาบน้ำ หรือ B+C jade ซึ่ง B jade หมายถึง (หยก)Fei cui ที่ใส่โพลิเมอร์เข้าไปให้เนื้อใสขึ้น C jade หมายถึง เฝ่ยฉุ้ยที่ย้อมสี ส่วนFei cui ธรรมชาติที่ไม่ผ่านการปรับปรุงใดๆเรียกว่า A jade  

พร้อมกันนี้ NGG JEWELLERY มีห้องปฏิบัติการตรวจสอบอัญมณีมีครบทั้ง 3 ขั้นตอนพร้อมในการตรวจสอบตามมาตรฐานสากล เพื่อช่วยวิเคราะห์ พร้อมนักอัญมณีศาสตร์ที่มีความชำนาญ ตรวจสอบอีกขั้นหนึ่งเพื่อผลสัมฤทธิ์ถูกต้อง 100 % ให้ลูกค้ามั่นใจ