เปิดประวัติ “KARA” เกิร์ลกรุ๊ประดับตำนาน คัมแบ็กฉลองครบ 15 ปี
ทำความรู้จัก “KARA” เกิร์ลกรุ๊ปตัวท็อปเจน 2 ศิลปิน “K-POP” วงแรกที่ตีตลาดญี่ปุ่นสำเร็จ กลับมาคัมแบ็กฉลองการเดบิวต์ 15 ปี พร้อมอัปเดต “กฎหมายคู ฮารา” ที่เกิดขึ้นหลังจากหนึ่งในสมาชิกของวงได้จากไป
29 พ.ย. 2565 “KARA” (คารา) วงเกิร์ลกรุ๊ประดับตำนานของวงการ “K-POP” กลับมาปล่อยผลงานเพลง “When I Move” พร้อมกับอัลบั้มใหม่ “Move Again” เพื่อเฉลิมฉลองการเดบิวต์ครบรอบ 15 ปี โดยสมาชิกทั้ง 5 คน ประกอบไปด้วย กยูริ (Gyuri) ซึงยอน (Seungyeon) นิโคล (Nicole) จียอง (Jiyoung) และ ยองจี (Youngji) กลับมาร่วมทำผลงานกันอย่างพร้อมเพรียง ให้เหล่า คามิลเลียน (แฟนคลับ) ได้หายคิดถึง หลังจากแยกย้ายกันไปนานถึง 7 ปี
- ตัวท็อปเจน 2
KARA เป็นวงเกิร์ลกรุ๊ปจากค่าย DSP Media เดบิวต์ครั้งแรกในปี 2550 ด้วยสมาชิก 4 คน คือ กยูริ ซึงยอน นิโคล และ ซองฮี โดยนำเสนอแนวเพลง R&B สำหรับชื่อวง KARA นั้นแผลงมาจากภาษากรีก Cara ที่แปลว่า ท่วงทำนองที่ไพเราะเพราะพริ้ง (Sweet Melody) แต่งานเพลงในช่วงนี้สะท้อนให้เห็นถึงความเข้มแข็งและความแข็งแกร่งของผู้หญิงโดยมีซิงเกิลหลักคือ “Break It” ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างสวยงาม ทำให้ KARA ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงและคว้ารางวัลศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยมได้จากหลายเวที
ดูเหมือนทุกอย่างกำลังไปได้ด้วยดีจนกระทั่งในปี 2551 ซองฮี ถอนตัวออกจากวงเนื่องจากปัญหาสุขภาพและต้องการโฟกัสกับการเรียน ทำให้ค่ายต้องเปิดออดิชันหาสมาชิกมาทดแทนตำแหน่งนักร้องหลัก (Main Vocal) ที่ว่างลง ในท้ายที่สุดก็ได้ ฮารา (Hara) และ จียอง (Jiyoung) เข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ และทำให้ KARA มีสมาชิก 5 คนนับตั้งแต่นั้นมา และปรับคอนเซ็ปต์ให้กลายเป็นสาวน่ารักสดใส โดยเพลงในยุคนี้ คือ “Rock U” และ “Pretty Girl” ซึ่งทำให้วงเริ่มเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น
ยุครุ่งเรืองของ KARA เริ่มขึ้นในช่วงปี 2552 เมื่อเพลง “Honey” สามารถไต่ขึ้นอันดับ 1 ของ Gaon ชาร์ตจัดอันดับเพลงใหญ่ที่สุดของเกาหลีใต้ และสามารถคว้าถ้วยรางวัลจากรายการเพลงได้สำเร็จ จากนั้นพวกเธอก็สานต่อความสำเร็จด้วยการปล่อยอัลบั้มเต็มชุดที่ 2 “Revolution” มีเพลงโปรโมตอย่าง “Wanna” และ “Mister” ที่มีท่าเต้นส่ายสะโพกอันเป็นเอกลักษณ์ ทำให้ KARA กลายเป็นเกิร์ลกรุ๊ปที่น่าจับตามองทันที และมีชื่อเข้าชิงในการประกาศรางวัลปี 2552 จากทุกเวที พร้อมทั้งคว้ารางวัลจากเวที Melon Music Awards และ Mnet Asian Music Awards
KARA ก้าวสู่เกิร์ลกรุ๊ปแถวหน้าของวงการในปี 2553 จากเพลง “Lupin” ซิงเกิลหลักจากมินิอัลบั้มชุดที่ 3 ในชื่อเดียวกัน ที่สามารถคว้าถ้วยรางวัลจากทุกรายการเพลงได้ตั้งแต่วีคแรกที่เปิดตัว รวมถึงครองอันดับ 1 ได้ทุกชาร์ตเพลงในเกาหลี และเริ่มเดินสายทัวร์ต่างประเทศทั้งในสหรัฐและญี่ปุ่น
สำหรับในประเทศไทยนั้น KARA ก็ได้รับความนิยมมากเช่นกัน จนมีการออกอัลบั้มเวอร์ชันพิเศษที่มีขายเฉพาะที่ไทยเท่านั้นคือ Revolution Thailand Special Edition และ Lupin (Thailand Limited Edition)
- เกิร์ลกรุ๊ปเกาหลีวงแรกที่ตีตลาดญี่ปุ่นสำเร็จ
หลังจากที่ KARA เสร็จสิ้นการโปรโมตเพลง Lupin แล้ว ทางวงเริ่มกิจกรรมเดบิวต์ที่ญี่ปุ่นด้วยการนำเพลง Mister ไปแปลงเป็นภาษาญี่ปุ่น ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก สามารถขึ้นถึงอันดับที่ 5 ของ Oricon Chart ชาร์ตเพลงที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น กลายเป็นศิลปินหน้าใหม่ที่ถูกจับตามองอย่างมากในญี่ปุ่น โดยสมาพันธ์แผ่นเสียงญี่ปุ่นได้เปิดเผยยอดขายของเพลงดังกล่าวว่าสามารถขายซีดีไปได้กว่า 120,000 ชุด และ ทำยอดดาวน์โหลดได้ถึง 250,000 ครั้ง
ในปีเดียวกันนั้นเอง KARA ได้ตอกย้ำความเป็นศิลปินแถวหน้าของวงการทั้งในเกาหลีใต้และญี่ปุ่นด้วยการออกอัลบั้มอีพีชุดที่ 4 “Jumping” ทั้ง 2 ภาษา ซึ่งยังคงประสบความสำเร็จอย่างดีในทั้ง 2 ประเทศ ทั้งคว้าถ้วยรางวัลจากเพลงและขึ้นชาร์ตอันดับ 1 ในเกาหลีใต้ ส่วนในญี่ปุ่นก็ทำยอดขายเพิ่มขึ้น จนสามารถขึ้นอันดับ 2 ของ Oricon Chart ได้
KARA ไม่รอช้า ปล่อยอัลบั้มภาษาญี่ปุ่นครั้งแรกในชื่อ “Girl’s Talk” ซึ่งสามารถทำยอดขายได้มากกว่า 200,000 แผ่นในเวลาเพียง 1 เดือน และจากนั้นไม่นานก็ทำยอดขายทะลุ 250,000 แผ่นได้สำเร็จ ทำให้ KARA กลายเป็นศิลปินเกาหลีใต้วงแรกที่สามารถทำยอดขายระดับแพลทินัม (250,000) ได้ทั้งแบบแผ่นจากอัลบั้ม Girl’s Talk และ ยอดดาวน์โหลดจากเพลง Mister
ด้วยความสำเร็จในระดับเมกะฮิตนี้เอง ทำให้ในปลายปี 2553 ชื่อของ KARA ได้ปรากฏอยู่ในเวทีประกาศรางวัลทุกเวที ทั้งในญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ และกวาดรางวัลมาได้ทุกเวที อีกทั้ง KARA ยังสามารถทำยอดขายอัลบั้มทะลุ 1 ล้านอัลบั้มด้วยระยะเวลาเพียง 8 เดือน หลังจากเดบิวต์ที่ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นยอดที่ไม่เคยมีเกิร์ลกรุ๊ปวงใดสามารถทำได้มาก่อน
ในปี 2554 KARA ยังคงประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องในประเทศญี่ปุ่นและเกาหลี โดยได้ออกทั้งผลงานเพลงทั้ง 2 ประเทศและได้รับผลการตอบรับอย่างดี ผลงานเด่นในปีนี้คงหนีไม่พ้นเพลง “Step” ที่ยังกวาดทั้งถ้วยรายการเพลง และ ขึ้นชาร์ตอันดับ 1 ทำยอดขายมากกว่า 100,000 ชุดในเกาหลีใต้
ขณะที่ผลงานเพลงทางฝั่งญี่ปุ่นนั้น KARA ได้ปล่อยอัลบั้มชุดที่ 2 “Supergirl” โดยเปิดตัวอันดับ 1 บน Oricon Chart ทำยอดขายในสัปดาห์แรกไปได้กว่า 250,000 ชุด และยังคงกวาดรางวัลจากงานประกาศรางวัลได้จากทุกเวทีทั้งในญี่ปุ่นและเกาหลีเช่นเดิม
KARA กลายเป็นเกิร์ลกรุ๊ปเกาหลีวงแรกที่จัดคอนเสิร์ตที่ โตเกียว โดม ซึ่งเป็นสนามกีฬาขนาดใหญ่ของญี่ปุ่นความจุราว 45,000 ที่นั่ง ได้ถึงสองปีซ้อน คือ 2555-2556 โดยที่บัตรขายหมดในเวลาไม่นาน ส่วนผลงานเพลงยังคงมีออกมาเรื่อย ๆ และได้รับการตอบรับที่ดีเช่นเดิม ผลงานที่เด่นที่สุดในยุคนี้คือเพลง “Pandora” ที่ส่งให้พวกเธอได้รับรางวัลใหญ่จากเวทีประกาศรางวัลมากมาย รวมถึงยังมีคอนเทนต์ต่าง ๆ ให้แฟนคลับได้ชมอยู่ตลอด ไม่ว่าจะเป็นแอนิเมชัน รายการวาไรตี้ ผลงานละคร
- เปลี่ยนสมาชิกอีกครั้ง
แม้ว่าทุกอย่างกำลังไปได้ดี KARA แต่ในปี 2557 นิโคล และ จียอง ตัดสินใจที่จะไม่ต่อสัญญากับต้นสังกัด ทำให้ค่ายต้องหาสมาชิกใหม่อีกครั้ง ด้วยการทำรายการ "KARA Project" โดยให้เด็กฝึกได้ทำภารกิจต่าง ๆ และให้ผู้ชมโหวตหาผู้ชนะเพียงหนึ่งเดียวเพื่อเป็นสมาชิกของวง ผลปรากฏว่า “ยองจี” (Youngji) ได้รับคะแนนโหวตสูงสุดและกลายเป็นสมาชิกคนใหม่ของวง
ในช่วงนี้ KARA ยังคงทำกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง ปล่อยงานเพลงทั้งภาษาเกาหลีและญี่ปุ่น ก่อนที่จะประกาศยุบวงในปี 2559 เนื่องจากสมาชิกเก่าทั้ง 3 คน คือ กยูริ ซึงยอน และ ฮารา ไม่ต่อสัญญา ซึ่งแต่ละคนได้แยกย้ายไปมีผลงานเป็นของตนเอง ตามสายที่ตนเองถนัด ไม่ว่าจะเป็นศิลปินเดี่ยว นักแสดง หรือแขกรับเชิญในรายการวาไรตี้ต่าง ๆ
- “กฎหมายคูฮารา” ปกป้องมรดกของลูกจากบุพการีที่ไม่เคยเลี้ยงดู
24 พ.ย. 2562 คู ฮารา หนึ่งในสมาชิกวง KARA เสียชีวิตในบ้านพักของตนเอง สร้างความตกตะลึงและความเสียใจให้แก่แฟนคลับเป็นอย่างมาก ในระหว่างนั้นเองแม่ของคูฮาราได้ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อเรียกร้องมรดกและทรัพย์สินครึ่งหนึ่งของฮารา ให้เป็นทรัพย์สินของตนเอง ด้วยการอ้างว่าเพราะฮาราเป็นบุตรสืบทอดทางสายเลือดโดยตรง ทั้งที่แม่ผู้นี้ไม่เคยเลี้ยงดูและส่งเสียฮาราเลยมาหลายสิบปี คนที่เลี้ยงดูเธอมาโดยตลอดคือ พี่ชาย ป้า และย่า
พี่ชายของฮาราจึงได้ผลักดันให้เกิดกฎหมายปกป้องสิทธิ์และมรดกของลูกที่ถูกผู้ปกครองทอดทิ้งละเลย ขึ้น โดยเรียกสั้น ๆ ว่า “กฎหมายคูฮารา” ซึ่งได้รับแรงสนับสนุนจากการลงชื่อของภาคประชาชนกว่า 100,000 รายชื่อ ในเวลาเพียง 30 วัน จนสุดท้ายได้ผ่านสภาและประกาศใช้เมื่อวันที่ 27 เม.ย. 2564
อย่างไรก็ตาม กฎหมายนี้ไม่สามารถย้อนกลับไปบังคับใช้ในกรณีของคู ฮาราได้ เนื่องจากศาลได้ตัดสินให้แบ่งมรดก 40% ให้แก่แม่ของเธอ ส่วนที่เหลืออีก 60% ตกเป็นของพี่ชายของเธอไปเรียบร้อยแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นพี่ชายของฮาราก็ยังดีใจที่กฎหมายนี้ได้มีผลบังคับใช้ เพื่อที่จะได้ป้องกันการเกิดเหตุในลักษณะเดียวกันในอนาคตได้
คู ฮารา สมาชิกวง KARA
- KARA กลับมารวมตัวกันเพื่อฉลองครบรอบ 15 ปี
19 ก.ย. 2565 สมาชิก KARA ทั้ง 5 คน ได้ประกาศกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง เพื่อออกอัลบั้มใหม่ฉลองครบรอบ 15 ปีการเดบิวต์ของพวกเธอ ภายใต้สังกัดใหม่อย่าง RBW พร้อมกับจัดงานแฟนมีตติ้งทั้งในหลายเมืองในประเทศญี่ปุ่น รวมถึงจะขึ้นคัมแบ็กสเตจครั้งแรกในงาน 2022 MAMA Awards ระหว่างวันที่ 29-30 พ.ย. 2565 ซึ่ง KARA จะขึ้นโชว์ในวันที่ 29 พ.ย.
สำหรับซิงเกิลหลักของ “Move Again” อัลบั้มใหม่นี้มีชื่อว่า “When I Move” ซึ่งเป็นเพลงที่มีกลิ่นอายดนตรีของ KARA อย่างชัดเจน วางขายอัลบั้มและปล่อยมิวสิควิดีโอครั้งแรกเมื่อ 29 พ.ย. 2565 เวลา 16:00 น. ตามเวลาประเทศไทย ซึ่งหลายฉากในมิวสิควิดีโอมีการระลึกถึงฮาราอยู่ตลอด โดยเฉพาะในตอนจบของมิวสิควิดีโอที่มีภาพไมค์ตั้งอยู่ 6 ตัว แสดงให้เห็นว่าไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน คู ฮารา ยังคงเป็นส่วนหนึ่งของ KARA อยู่เสมอ และเธอยังคงเป็นที่จดจำของเมมเบอร์และคามิลเลียนตลอดไป
ซีนจบของมิวสิควิดีโอ When I Move ที่มีไมค์ 6 ตัว แสดงให้เห็นว่า KARA มี 6 คนตลอดไป